ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่) นิยาย บท 22

“พาน้องไวน์ไปเที่ยวที่ไหนมา” กังศมาดักรอหลานชายตัวดีที่หายหน้าหายตาไปทั้งวัน

“ยาย! ตกใจหมดเลย” ภาคินยกมือขึ้นลูบที่หน้าอกเบาๆ แล้วเดินเข้าไปหาผู้เป็นยายที่ตอนนี้มีสีหน้าบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด

“หึ! แล้วตานัยหายไปไหน” กังศมาถามหาคนที่หายไปตั้งแต่เมื่อวาน จนป่านนี้ยังไม่โผล่หน้ามาให้เห็น

“น่าจะอยู่กับคาร่าครับ” ภาคินบอกพร้อมกับเข้าไปกอดอ้อน

“ตกลงเราพาน้องไวน์ไปไหนมา” กังศมาถามเข้าเรื่องอีกครั้ง

“เอ่อ...ผมพาน้องไปซื้อเสื้อผ้า กินข้าว อ้อ! แล้วก็ไปไหว้พระที่วัดด้วยครับ”

“วัด!” กังศมาขมวดคิ้วมองหลานชายอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่าย จะเข้าวัดเข้าวาเป็นกับเขา

“ใช่ครับ” ภาคินกลอกตาที่ผู้เป็นยายใช้เสียงสูง

“ไปทำไม?”

“ไปขอพรครับ”

“แต่เรานับถือคริสต์ไม่ใช่เหรอ” กังศมาเอ่ยท้วง

“ผมนับถือพุทธครับยาย ไอ้นัยต่างหากที่นับถือคริสต์” คนที่เพิ่งจะย้ายศาสนามาสดๆ ร้อนๆ รีบแถ

“ใช่เหรอ?” กังศมาถามอย่างไม่เชื่อ

“ใช่ครับ” ภาคินรีบยืนยัน

“หึ! แล้วเราทำอะไรน้องไวน์หรือเปล่า”

“บ้า! ผมก็แค่พาน้องไปเที่ยวเฉยๆ”

“จริงนะ” กังศมามองใบหน้าหล่อเหลาอย่างจับสังเกต

“โธ่! จริงสิครับ อย่างเก่งก็แค่กอดแค่หอมเท่านั้น”

“คิน!” กังศมาตีเข้าที่ต้นแขนของหลานชายอย่างรู้สึกโมโห

“ฝันดีครับยาย” คนที่รู้ว่าขืนอยู่ต่อต้องเจ็บตัว รีบวิ่งหนีขึ้นห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว

กังศมามองตามหลานชายพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเพลียๆ คนหนึ่งก็เผลอไม่ได้ จ้องจะรวบหัวรวบหางวรันยา อีกคนก็เงียบ แต่ได้เรื่องตลอด

ส่วนหิรัญก็เอาแต่ควงดารา-นางแบบเป็นว่าเล่น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเป็นฝั่งเป็นฝาสักที เธอเองก็อายุหกสิบกว่าแล้ว จะอยู่ทันได้อุ้มเหลนคนแรกของตระกูลหรือเปล่ายังไม่รู้

คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานนั่งหายใจครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกเดินขึ้นห้องนอน เพราะพรุ่งนี้เช้าต้องเตรียมของไปไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลใจหลานชายคนโต ให้รีบๆ แต่งงาน

เช้าวันต่อมา...เวลา 09:02 คนที่นอนตื่นสายรีบวิ่งลงบันไดอย่างเร่งรีบ เพราะตั้งใจว่าวันนี้จะไปสิงสถิตอยู่ที่รีสอร์ตพรรณนารากับสาวเจ้าทั้งวัน

“จะไปไหน” กังศมาที่ยืนดักรอหลานชายตัวดีอยู่เอ่ยถามขึ้นทันใด

“เอ่อ...ผมจะไปหาน้องไวน์ครับ” ภาคินตอบตามตรง

“มากินข้าวกับยายก่อน” คนที่หิ้วท้องรอ ดึงแขนของหลานชายให้ออกเดินไปยังห้องรับประทานอาหาร

“ครับ” ภาคินเดินตามผู้เป็นยายไปอย่างไม่มีทางเลือก

“พ่อสินเขาโทรมาหายายเมื่อเช้า” กังศมาเข้าไปนั่งที่หัวโต๊ะแล้วเอ่ยเข้าเรื่องสำคัญ

“มะ...มีเรื่องอะไรเหรอครับ” ภาคินขยับเก้าอี้ออก แล้วเข้าไปนั่งฟังอย่างรู้สึกใจคอไม่ดี ‘! หรือว่าอาสินเห็นรอยดูดของเราที่หน้าอกของน้องไวน์?’

“ก็เรื่องของน้องไวน์น่ะแหละ” กังศมาบอกด้วยน้ำเสียงเข้มๆ ขณะเดียวกันก็รู้สึกมึนงงกับสีหน้าเลิ่กลั่กของหลานชาย

“คือว่าผม...” ภาคินอึกอักอย่างไปไม่ถูก ‘เอาวะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ให้ยายยกขันหมากไปสู่ขอน้องไวน์เลยแล้วกัน’

“ตอนนี้เรายังไม่ได้มีโปรแกรมจะทำอะไรใช่ไหม”

“หมายถึง...” ภาคินขมวดคิ้วถามอย่างเริ่มจะสับสน ‘ให้ตายสิ! นี่ยายจะพูดเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย?’

“ไม่หรอกค่ะ มีคาร่าไปด้วยทั้งคน” วรันยาเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้บิดา

“ตั้งใจเรียนนะลูก อีกหน่อยรีสอร์ตแห่งนี้ก็จะเป็นของหนู ใช้เวลาสามปี ให้คุ้มค่าและกอบโกยวิชาความรู้มาให้ได้มากที่สุด เพื่อวันหน้าจะได้เอามาพัฒนา รีสอร์ตที่พ่อกับแม่สร้างไว้ ให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป” สินชัยบอกอย่างรู้สึกตื้อไปทั้งหัวใจ คิดไปถึงวันแรกที่มาดูสถานที่แห่งนี้กับพรรณนารา ซึ่งมีแต่ต้นไม้และหญ้าที่ขึ้นรกเต็มไปหมด แต่เขากับเธอก็ช่วยกันคิด ช่วยกันสร้าง และฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย จนกระทั่งติดหนึ่งในสิบ รีสอร์ตที่น่าเที่ยวของประเทศไทย

“ค่ะ ไวน์สัญญาว่าจะทำให้สุดความสามารถเลย” วรันยาลุกขึ้นนั่งพร้อมกับเข้าไปสวมกอดบิดาเอาไว้แน่น

“สู้ๆ นะลูก” สินชัยให้กำลังใจบุตรสาวขณะที่น้ำตาไหลเอ่อล้นออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

“ฮึก...ฮึก...” เสียงสะอื้นที่ดังขึ้นด้านหลัง ทำเอาสินชัยและวรันยารีบหัน ไปมอง

“อ้าว! นารี ป้าเพลิน มายืนดราม่ากันทำไมตรงนั้น เข้ามานี่มา” สินชัย ยกมือขึ้นปาดน้ำตาของตัวเองทิ้ง แล้วกวักมือเรียกเลขาที่รักดั่งลูกสาว กับแม่บ้านคนสนิทให้เข้ามาหา

“ฮือๆๆ / ฮือๆๆ” เพลินใจกับนารีปล่อยโฮออกมาเสียงดัง รีบพากันเดินเข้าไปหานายใหญ่กับบุตรสาว

“ฮือๆ พี่นา ป้าเพลิน” วรันยาสะอื้นหนัก เมื่อเห็นทุกคนเข้ามากอดเธอ

“โอ๊ย! จะบ้าตาย ร้องกันใหญ่เลยทีนี้” สินชัยแสร้งบ่นทั้งที่ตัวเองก็น้ำตาไหลไม่ขาดสายเช่นกัน

ทุกคนพากันร้องไห้ เพราะวันรุ่งขึ้นวรันยาก็จะออกเดินทางไปเล่าเรียนที่ต่างประเทศ ซึ่งคงจะทำให้บ้านหลังนี้เงียบเหงาลงไปถนัดตา

เช้าวันต่อมา...รีสอร์ตพรรณนารา

หลังจากที่นารีกับเพลินใจจัดโต๊ะอาหารเสร็จ สินชัยก็เตรียมจะล้วงมือถือมากดต่อสายหากังศมา แต่รถตู้สุดหรูคันใหญ่ของอีกฝ่ายก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านเสียก่อน

“แหม...ผมกำลังจะโทรตามอยู่พอดีเลยครับ” สินชัยรีบฉีกยิ้มให้กังศมา ภาคินและสิงขร ที่ก้าวออกมาจากรถตามๆ กัน

“สวัสดีค่ะคุณมาร์ พี่สิง พี่คิน” วรันยายกมือไหว้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“เอ้...ทำไมตาบวมกันหมดเลย” กังศมารับไหว้พร้อมกับเอ่ยแซว

“ไม่บวมสิครับแปลก เมื่อวานสาวๆ บ้านนี้ดราม่ากันไปหลายรอบเลย”สินชัยบอกพลางหัวเราะเบาๆ ทั้งที่ตัวเองก็ตาบวมไม่แพ้คนอื่นๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)