สองชั่วโมงต่อมา...
หลังจากที่ภาคินและวรันยาเดินไปทักทายลูกค้าตามโต๊ะต่างๆ ที่ลานดนตรีสดด้านหน้าเสร็จ ก็พากันไปต่อที่ไร่ไปรยาเวศที่ตอนนี้กำลังสนุกสนานครื้นเครงอยู่เต็มหน้าเวที โดยมีโอมกับเหล่าคนงานในไร่ออกสเต็ปเต้นกันอย่างเมามัน
ภาคินพาวรันยาเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกับผู้เป็นยายและบิดาของอีกฝ่าย ก่อนจะหันไปบอกแม่บ้านที่เดินเข้ามาหา
“ยกเมนูที่ผมสั่งทำเอาไว้มาได้เลยครับ”
“ได้เจ้าคุณคิน” กำไลพยักหน้ารับก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะเตรียมอาหาร
“น้องไวน์ไปลอยกระทงมาแล้วใช่ไหมลูก” สินชัยเอ่ยถามบุตรสาว
“ค่ะ” วรันยาตอบยิ้มๆ
“พรุ่งนี้ประกวดกระทงใหญ่ พ่อว่าจะขอให้น้องไวน์นั่งกระทง” สินชัยบอก
“เอ่อ...จะดีเหรอคะ?” วรันยาเลิกคิ้วถามอย่างรู้สึกอายนิดๆ เพราะไม่เคยนั่งกระทงใหญ่มาก่อน
“ดีสิ! ยายอยากเห็นน้องไวน์ใส่ชุดไทยจะแย่” กังศมารีบหันมาสมทบตาม
“เอ่อ...” วรันยาอึกอักอย่างไปไม่ถูก
“นะลูก” สินชัยคะยั้นคะยอ เพราะอยากเห็นบุตรสาวนั่งกระทงใหญ่สักครั้ง
“กะ...ก็ได้ค่ะ” วรันยาขานรับอย่างจำยอม
“พรุ่งนี้ผมจะเป็นช่างภาพและบอดี้การ์ดให้ครับอา” ภาคินรีบเสริม เพราะตนก็อยากจะเห็นสาวเจ้าสวมชุดไทยเช่นกัน
“ขอบใจมากๆ เลยคิน” สินชัยส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม
“ยินดีครับ ว่าแต่คืนพรุ่งนี้ประกวดที่อำเภอ หรือว่าที่ในเมืองครับ”
“ของเราเอาแค่อำเภอใกล้ๆ บ้านก็พอ พนักงานกับคนงานในไร่จะได้ไม่ต้องเดินแห่ขบวนกันไกล” กังศมาออกความเห็น
“เยี่ยมไปเลยครับ” ภาคินบอกพลางส่งยิ้มไปให้กำลังใจสาวเจ้าที่มีสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“พรุ่งนี้เช้าต้องให้คนงานมาช่วยกันทำกระทงใหญ่” กังศมาบอกยิ้มๆ
“เราจะทำเป็นรูปอะไรครับ” สินชัยขอความเห็น
“ดอกบัวดอกใหญ่ๆ แล้วให้น้องไวน์เข้าไปนั่งตรงกลางดีไหม แล้วรอบๆ กระทงก็ประดับด้วยดอกไม้สด” กังศมาเสนอแบบที่คิดไว้
“เยี่ยมครับ” สินชัยพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“ตื่นเต้นจังเลยค่ะ” วรันยานึกภาพตามอย่างเขินๆ
“เอ่อ...แล้วเขาไม่เอาผู้ชายนั่งคู่ด้วยเหรอครับ” ภาคินถาม เพราะเคยเห็นผู้ชายนั่งกระทงคู่กับผู้หญิง ผ่านตามาหลายงาน
“ทำไม! เราอยากนั่งกระทงกับน้องไวน์งั้นเหรอ?” กังศมาถามกลับด้วยน้ำเสียงกวนๆ
“ครับ” ภาคินพยักหน้ารับอย่างไม่อาย
“ได้! เดี๋ยวพรุ่งนี้ยายจะสั่งคนงานปั้นควายตัวใหญ่ๆ เอาไปใส่ที่ท้ายรถกระบะของไร่ แล้วให้คินขึ้นไปนั่งขี่หลังมันดีไหม?”
“ฮ่าๆๆๆ/ คิกๆๆๆ” สินชัยกับวรันยาหัวเราะขึ้นพร้อมกันจนหน้าแดงก่ำ
“ยายจะให้คนงานปั้นควายมาทำไมครับ แค่ให้ผมนั่งกระทงเดียวกับน้องไวน์ก็สิ้นเรื่อง” คนที่ถูกจับคู่กับควาย ต่อว่าด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
“ไม่ได้! เพราะกระทงที่จะทำน่ะนั่งได้แค่น้องไวน์คนเดียวเท่านั้น”
“แหม...บอกแค่นี้ตั้งแต่แรกผมก็เข้าใจแล้วครับ” ภาคินบอกอย่าง รู้สึกนอยด์ๆ ที่โดนหลอกด่าอ้อมๆ
“อาหารมาแล้วเจ้า” กำไลเอ่ยก่อนจะทยอยยกแต่ละเมนูลงบนโต๊ะ
“ว้าว! ของโปรดน้องไวน์เลยนะเนี่ย?” สินชัยมองอย่างรู้สึกอึ้งๆ
“เจ้า! คุณคินสั่งทำหื้อคุณไวน์เป็นพิเศษเจ้า” กำไลให้เครดิตเจ้านาย
“ชอบใจมากๆ นะคิน” สินชัยฉีกยิ้มอย่างไม่เอะใจในการกระทำ เพราะตั้งแต่เด็กภาคินก็มักจะเอาของกินที่วรันยาชอบมาฝากอยู่บ่อยๆ
“เรื่องเล็กครับอา” ภาคินส่งยิ้มให้ว่าที่พ่อตาในอนาคตอย่างเอาใจ แต่พอหันกลับมาก็ต้องสะดุดเข้ากับสายตาพิฆาตของผู้เป็นยายอย่างจัง
“โอเคค่ะ เดี๋ยวนาขอไปสั่งออเดอร์ก่อน แล้วจะกลับมานั่งด้วย” นารีรับคำก่อนจะเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์อย่างรู้สึกเพลียๆ เพราะช่วงสามเดือนหลังมานี้สิงขรเริ่มงอแง เรียกร้องให้เปิดเผยความสัมพันธ์ ซึ่งเธอเองก็ต้องการ แต่ขณะเดียวกันก็อยากจะให้มั่นใจกว่านี้อีกสักนิด
“ครับ” สิงขรขานรับแล้วหันไปมองรอบลานเบียร์
ร้าน Harper (ในเมืองเชียงใหม่)
“ไอ้คินหายหัวไปไหนของมันวะ?” ขุนพันเอ่ยถามอย่างข้องใจ
“นางในฝันมันกลับมาจากอังกฤษเมื่อวาน มึงว่ามันจะหายไปไหนได้ล่ะ” แม่ทัพบอกอย่างขำๆ
“ถึงว่า...โทรไปหาไม่ยอมรับสายเลย” ขุนพันบอกอย่างรู้สึกหงุดหงิด
“ป่านนี้คงจะเอาแต่เดินตามหลังน้องไวน์ต้อยๆ แหละมั้ง” จอมพลออกความเห็น
“ฮ่าๆๆ เห็นภาพว่ะ” แม่ทัพหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ
“อะไรวะ? เจอหญิงแล้วทิ้งเพื่อนเฉยเลย” ขุนพันบ่น
“ใช่หญิงทั่วไปซะที่ไหน นั่นน่ะว่าที่เจ้าสาวเลยนะโว้ย” จอมพลส่ายหน้ากับจอมดราม่าประจำกลุ่ม ที่ทำเป็นพร่ำเพ้อถึงคนนั้นคนนี้ ทั้งๆ ที่ตอนกลับก็หิ้วสาวกลับ ไม่ได้หิ้วปีกเพื่อนกลับด้วยสักหน่อย
“สวยจริงไรจริง อิจฉาหนักมาก” ขุนพันบอกอย่างชื่นชม
“ฮ่าๆๆ/ฮ่าๆๆ” แม่ทัพกับจอมพลพากันหัวเราะอย่างขำๆ
“เฮ้อ...แด่ชีวิตโสด” ขุนพันยกแก้วขึ้นชนกับเพื่อนรักทั้งสอง จากนั้นก็หันไปมองหาเหยื่อสาวที่อยู่รอบๆ กาย ซึ่งหากตนได้ลองขยิบตาให้กับสาวใด เป็นอันได้เสียว เอ๊ย! เป็นอันได้ควงไปต่อที่คอนโดทุกครั้ง
เช้าวันต่อมา...(วันลอยกระทงวันที่ 3)
เมื่อคืนหลังจากที่สิงขรตั้งใจจะชุดใหญ่ไฟกระพริบเพื่อสั่งสอน เอ๊ย! เพื่อลงโทษเมียทางพฤตินัย แต่พอไปถึงที่บ้านพักนอกเมืองที่ตนซื้อเอาไว้เมื่อปีก่อน ก็ถูกนารีบ่นยาวและขอเลิกจนเขาต้องตีเนียนแกล้งหลับไปกลางอากาศ พอตื่นเช้ามาก็ไม่เจอสาวเจ้าอยู่ในบ้าน เขาจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วตามมาดูที่รีสอร์ตก็เห็นอีกฝ่ายกำลังช่วยพนักงานทำกระทงใหญ่ จึงขับรถไปรับคนงานในไร่มาช่วย พร้อมกับเข้าไปทักทายกังศมาและสินชัยที่นั่งคุมงานอยู่
ด้านนารีที่พอเห็นสิงขรโผล่หน้ามาช่วยงาน ก็รีบเอ่ยขอตัวไปดูแลวรันยา ที่ไร่ไปรยาเวศ เพราะเธอไม่อยากจะเสียอารมณ์ตั้งแต่หัววัน
สิงขรหน้าชานิดๆ ที่เห็นท่าทีเฉยชาของเมียทางพฤตินัย ‘เอาวะ! คืนนี้ค่อยง้อแล้วกัน’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)