“เซียวเซิง เดิมทีบ้านหลังนี้ไม่ได้อยู่ในพินัยกรรมของพ่อเธอ ยึดตามขั้นตอนปกติแล้ว ฉันเป็นเจ้าของมรดกโดยชอบธรรม”
หัวใจฉันเต้นอย่างรุนแรง ใช่แล้วล่ะ ยึดตามหลักการที่คุณน้าพูดมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าคุณพ่อไม่ได้สั่งเสียไว้ในพินัยกรรม สิทธิ์ในการสืบทอดมรดกก็จะตกเป็นของคุณน้าและพวกเซียวซือกับเซียวหลิงหลิง เพราะฉันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณพ่อ ถ้าในแง่การแบ่งแยกมรดก ฉันก็ไม่มีสิทธิ์อะไรเลย
ฉันลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้นทันที “คุณน้า” ฉันตื่นเต้นทีไรก็จะพูดออกไปอย่างสะเปะสะปะทุกที “บ้านไม้เล็กๆ หลังนั้นมันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายหรอก แปลงที่ดินก็ไม่ค่อยสวย อีกอย่าง บ้านไม่มีคนอยู่อาศัยตั้งนานขนาดนั้นก็คงเก่าและชำรุดไปเยอะ ฉันว่าคุณน้าต้องไม่ชอบแน่ๆ”
“เซียวเซิง เธอคงไม่ได้คิดว่าจะให้แม่ฉันยกบ้านหลังนั้นให้เธอหรอกใช่ไหม? ไม่ว่ายังไงมันก็เป็นบ้านหลังหนึ่งเลยนะ บ้านไม่มีราคา แต่ที่ดินก็มีราคานะ ที่นั่นกำลังจะถูกรื้อแล้ว เธอไม่รู้เหรอ?” เซียวหลิงหลิงพูดจาเสียดสี
“ไม่” ในใจฉันรู้สึกสับสนวุ่นวาย ฉันมองหน้าคุณน้าอย่างสับสน “คุณน้า คุณน้าคะ ฉัน… งั้นเอาแบบนี้ดีไหมคะ มีเงินจำนวนหนึ่งที่คุณพ่อยกให้ ฉันขอซื้อบ้านหลังนี้กลับมาจากคุณตามราคาตลาดได้ไหมคะ?”
“เซียวเซิง” คุณน้าเอ่ยปากขึ้น “เธอคิดว่าที่ฉันเรียกเธอให้กลับมาไว้ทุกข์พ่อเธอคราวนี้เพราะอยากได้เงินที่มีอยู่แค่นั้นของเธอเหรอ?”
“เอ่อ ไม่ใช่ค่ะ” ฉันส่ายหน้า “มันไม่ใช่แบบนั้นอยู่แล้ว” ทุกครั้งที่รู้สึกร้อนใจ ปากฉันก็ชอบพูดอะไรโง่ๆ ออกไปทุกที จริงๆ ฉันรู้ดีว่าคุณน้าใช้ข้ออ้างเรื่องการไว้ทุกข์ 49 วันของพ่อฉันในการเรียกฉันกลับมาและเธอก็ต้อนรับกันอย่างดี ตอนนี้ยังเอาสัญญาบ้านออกมาอีก เรื่องมันคงไม่ได้ง่ายขนาดนั้นแน่ๆ
“เซียวเซิง” คุณน้าพูดขึ้น “ถึงฉันจะไม่ชอบเธอมาตลอด และอีกอย่างเธอก็ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของพ่อเธอ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม หลังจากที่ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเซียวหยวนแล้ว ฉันก็ไม่ได้เกลียดเธอเท่าเมื่อก่อนอีก” เธอยิ้มออกมา “บ้านไม้เล็กๆ หลังนั้นมันไม่ได้มีค่ามีราคาอย่างที่เธอพูดจริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้คุ้มที่ฉันจะลดเกรดตัวเองลงเพียงเพื่อเงินเล็กน้อยเหล่านั้น ฉันเจอสัญญาโอนบ้านนี่ในลิ้นชักห้องหนังสือของพ่อเธอ เขาตั้งใจจะโอนบ้านนี้ให้เธอ งั้นในเมื่อมันเป็นแบบนี้ ฉันก็จะทำให้เขาสมปรารถนาหน่อยก็แล้วกัน ฉันแก้สัญญาชื่อผู้โอนเป็นชื่อฉัน เพราะว่าพ่อเธอเสียแล้ว จะโอนให้เธอในนามของเขาก็ไม่ได้ ฉันก็เลยจะโอนบ้านให้เธอในนามของฉัน โดยฉันไม่ต้องการเงินของเธอแม้แต่สตางค์แดงเดียว” คุณน้าเชิดคางขึ้นแล้วพูดต่อ “เธอตั้งใจอ่านมันดีๆ แล้วก็เซ็นชื่อซะสิ”
ทุกคำที่คุณน้าพูด ฉันได้ยินมันอย่างชัดเจน และฉันก็เข้าใจมันทุกคำ แต่เมื่อนำมารวมกันแล้วมันกลับฟังดูไม่จริง บางคำที่คุณน้าพูด เธอพูดจริง ที่เธอบอกว่าเธอไม่ชอบฉันมาตลอด เธอพูดจริง และที่เธอบอกว่าหลังจากที่เธอรู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของคุณพ่อแล้วเธอไม่ได้เกลียดฉันขนาดนั้นแล้ว ฉันคิดว่าเธออาจจะพูดจริงก็ได้
เพราะไม่รู้ว่าสามีของตัวเองกับหญิงอื่นนอกบ้านไม่ได้มีลูกด้วยกัน สำหรับเมียหลวงแล้ว คงจะสบายใจขึ้นไม่น้อย ถึงแม้ในใจของฉันคุณแม่จะเป็นเมียหลวงก็เถอะ แต่มันไม่ได้สำคัญอีกต่อไปแล้ว
แต่คนอย่างคุณน้าไม่ใช่คนที่ใจกว้างและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ขนาดนั้น ถึงเธอจะไม่ได้เกลียดฉัน ถึงจะต้องการทำความปรารถนาสุดท้ายของพ่อให้เป็นจริงก็ตาม แต่การที่เธอจะโอนบ้านให้ฉันอย่างกะทันหันแบบนี้มันทำให้ฉันแปลกใจอยู่เหมือนกัน
ฉันยกสัญญาขึ้นมาอ่านอย่างละเอียดครั้งหนึ่ง เซียวหลิงหลิงที่ยืนอยู่อีกด้านก็พูดขึ้นเสียงดัง “คุณแม่ ทำไมคุณแม่ไม่บอกหนูเรื่องนี้คะ ถึงมันจะไม่มีราคาแค่ไหน แต่บ้านหลังนั้นในเมืองฮวาก็น่าจะได้หลายล้านอยู่นะคะ ทำไมต้องยกให้เธอด้วย นั่นเป็นบ้านที่พ่อหนูซื้อไว้นะ เกี่ยวอะไรกับเธอด้วยหรือไง?”
“เซียวหลิงหลิง หุบปากซะ” คุณน้าตำหนิเธออย่างรำคาญ “หนวกหูจริงๆ”
“คุณแม่” เซียวหลิงหลิงกระทืบเท้าอย่างขัดใจ “นั่นเป็นบ้านของพ่อหนูนะ เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลเราเลย ทำไมต้องให้เธอล่ะ?”
“เซียวหลิงหลิง”เซียวซือกดเสียงต่ำเรียกเธอ “พี่ช่วยเงียบหน่อยได้ไหม ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”
คุณน้าพูดอย่างตรงจุด ใช่ พูดมาพูดไป ฉันกลัวเธอหลอกฉันจริงๆ นั่นแหละ เพราะฉันคิดว่าคุณน้าไม่ใช่คนที่ใจกว้างขนาดนั้น
“ฉันพูดกับเธอตรงๆ นะ บ้านหลังนั้นมันรกหูรกตาฉันมาก แต่ก็จะเผามันทิ้งไม่ได้ เพราะมันถือว่าเป็นการทำลายทรัพย์สมบัติ มันจะทำให้เกิดโชคร้าย คิดไปคิดมามันก็คงมีแค่การมอบให้เธอ ถือว่าเป็นการสะสมบุญให้ตัวเองไปด้วย”
คุณน้าซาบซึ้งใจเล็กน้อย เธอเช็ดน้ำตาของตัวเองออก
ปากกาวางอยู่ข้างมือฉันใกล้ๆ นี่เอง แค่ฉันยื่นมือออกไปก็สามารถหยิบขึ้นมาได้ แต่ฉันจะไม่เซ็น คนที่เกลียดฉันเข้าไส้แต่กลับมอบสิ่งที่ฉันอยากได้มากที่สุดให้ฉัน อีกอย่างคนที่เธอเกลียดที่สุดไม่ใช่ฉันแค่คนเดียว แต่ยังมีแม่ฉันด้วยอีกคน
เซียวหลิงหลิงเห็นท่าทางลังเลของฉันแล้วก็โกรธมาก จากนั้นก็แย่งสัญญาในมือของฉันไป
“ไม่เซ็นก็ไม่ต้องเซ็น ทำเหมือนพวกเราทำร้ายเธออย่างงั้นแหละ เธอไม่อยากได้ก็ดี พวกเราก็ไม่ได้อยากให้หรอก งั้นถ้าเธอไม่อยากได้จริงๆ ก็เอาบ้านนั่นมาให้ฉันเถอะ!”
“ไสหัวไปไกลๆ เลย” คุณน้าจ้องหน้าเธออย่างโหดเหี้ยม “ไม่มีอะไรเธอก็ไปได้แล้ว เธออย่ามากวนฉันที่นี่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...