พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 135

เซียวหลิงหลิงเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจ

ตอนนี้ฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากสองสถานการณ์ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้ฉันอยากได้มาก ทว่าสัญญานี่จะเซ็นตอนนี้ไม่ได้ แต่คุณน้าเธอหมายถึง ถ้าฉันไม่รับความหวังดีตอนนี้ เธอก็จะยกเลิกการตัดสินใจนี้ของเธอซะ และมันทำให้ฉันลำบากใจมากๆ

“คุณแม่ เรื่องใหญ่ขนาดนี้คุณแม่ก็ให้เวลาเซียวเซิงคิดหน่อยสิคะ อย่าบังคับเธอเลย เรื่องนี้เราไม่เห็นต้องรีบสักหน่อย” เซียวซือตบหลังมือฉันเบาๆ “เอาแบบนี้แล้วกันเซียวเซิง เธอเอากลับไปอ่านให้ละเอียดอีกทีก็ได้ เอาไปให้ทนายเธอดู ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ค่อยเซ็น จริงๆ แม่ฉันแค่หวังดี อย่าทำให้ต้องไม่สบายใจกันไปหมดเลย มันไม่ดีหรอก”

ฉันหันไปยิ้มให้เธออย่างซาบซึ้ง เฉียวอี้ชอบบอกว่าเซียวซือเจ้าเล่ห์ ความจริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้น ฉันคิดว่าเซียวซือเป็นคนดี

“เซียวซือ ลูกอยู่ฝ่ายไหนกันแน่?” คุณน้าพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ฉันอุตส่าห์ตัดสินใจเรื่องนี้ไปแล้ว ถ้าถึงพรุ่งนี้ฉันก็ไม่รู้ด้วยแล้วนะว่าจะยังไง เซียวเซิง ตอนนี้ฉันจะให้เธอลองพนันดูสักรอบ ถ้าเธอคิดว่าฉันหลอกเธอ งั้นเธอจะไม่เซ็นก็ได้ ฉันบอกเธอตามตรงว่าพรุ่งนี้เธอจะไม่มีโอกาสนี้อีกแล้ว เธอไม่รับความหวังดีจากฉัน เรื่องที่ฉันควรทำฉันก็ทำไปหมดแล้ว ไม่ได้ทำให้พ่อเธอผิดหวังแล้ว เซียวซือ เอาสัญญานั่นคืนมาให้แม่!”

เซียวซือขมวดคิ้ว “คุณแม่คะ คุณแม่จะบีบเธอไปทำไม?”

“เป็นแม่เลี้ยงนี่มันยากนะ สู้อุตส่าห์หวังดีกับเธอ ก็ยังถูกเธอมองว่าเป็นคนไม่ดี ช่างเถอะๆ ฉันว่าฉันเป็นคนเลวต่อไปน่ะดีแล้ว”

คุณน้าลุกขึ้นแล้วแย่งสัญญาในมือฉันไป

“เซียวเซิง เธอทิ้งโอกาสนี้เองนะ ฉันจะสอนอะไรเธอให้นะ ชีวิตคนเราก็เหมือนการเล่นพนันนั่นแหละ เธอต้องอาศัยความสามารถในการตัดสินใจของตัวเองมาตัดสินใจว่าเกมนี้เธอจะแพ้หรือชนะ? ในชีวิตคนเรามีเรื่องมากมายที่ต้องเลือก ถ้าเธอเลือกถูกก็คือถูก เลือกผิดก็ผิด เธอมีสิทธิ์ในการเลือก ฉันก็มีสิทธิ์ในการเรียกความหวังดีของฉันคืนเหมือนกัน”

“คุณน้า” ฉันลุกขึ้นอย่างรีบร้อน “เอาแบบนี้ได้ไหมคะ คุณน้าให้ฉันส่งสัญญาไปให้ทนายของฉันดูได้ไหม ห้านาที ขอเวลาแค่ห้านาทีค่ะ คุณน้าให้เวลาหนูห้านาทีได้ไหมคะ?”

คุณน้ายิ้มเย็น “แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ? เธอไม่เชื่อฉัน แถมหาคนมาช่วยเธอดู แล้วฉันยังต้องให้เวลาเธออีก ตอนนี้ฉันทำการค้าขายกับเธออยู่เหรอ? ฉันได้ขอเงินเธอสักนิดไหม? ให้เธอฟรีๆ ยังจะคิดเล็กคิดน้อยให้มากความอีก พ่อเธอคงจะตาบอดไปแล้วจริงๆ ที่ยกหุ้นให้เธอมากมายขนาดนั้น เธอเป็นซะแบบนี้ แล้วจะดูแลบริษัทให้ดีได้เหรอ?”

“ข้อเรียกร้องของเซียวเซิงก็ไม่ได้มากไปนะคะ คุณแม่รออีกแค่ไม่กี่นาทีจะเป็นไรไป?”

เซียวซือช่วยฉันขอร้องคุณน้า ความสำคัญของเซียวซือในใจคุณน้ามากกว่าของเซียวหลิงหลิงแน่นอนอยู่แล้ว

คุณน้าโยนสัญญาลงบนร่างของเซียวซือ “ก็ดูไปสิ ยังไงถ้าจะเซ็นก็ต้องเซ็นภายในคืนเท่านั้น พรุ่งนี้เธอจะไม่มีโอกาสนี้อีกแล้ว เธอควรรู้ไว้ซะ ว่าไม่ควรปล่อยให้โอกาสหลุดมือ และเวลาที่ผ่านไปมันย้อนกลับมาไม่ได้“

คุณน้าหมุนตัวขึ้นไปยังชั้นบน จากนั้นเซียวซือก็ส่งสัญญามาให้ฉัน “ทำอะไรก็ต้องละเอียดรอบคอบถึงจะปลอดภัย เธอให้เพื่อนที่เป็นทนายของเธอดูก่อนเถอะ เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย แม่ฉันเตรียมการล่วงหน้าโดยที่ไม่ได้มาปรึกษากันก่อน เพราะฉะนั้นอย่าว่าแต่เธอเลย แม้แต่ฉันก็ตกใจเหมือนกัน”

ฉันหันไปขอบคุณเซียวซือ จากนั้นก็ถ่ายรูปสัญญาส่งไปให้หนีอีโจว และอธิบายให้เขาเข้าใจคร่าวๆ

หนีอีโจวตอบกลับมาเร็วมาก เขาบอกว่าเขาอ่านสัญญาแล้วก็ดูไม่มีปัญหาอะไร ตราบใดที่สัญญาไม่มีการผูกมัด มันก็เป็นแค่สัญญาโอนบ้านธรรมดาๆ ใบหนึ่ง หลังจากที่ฉันเซ็นชื่อลงไปและไปทำเอกสารรับรองการโอนบ้านที่สำนักงานที่ดินแล้ว บ้านหลังนั้นก็จะกลายเป็นของฉัน

เมื่อได้ยินหนีอีโจวพูดแบบนั้นฉันจึงวางใจขึ้นมาก เพราะเดิมทีตอนที่ฉันอ่านสัญญาฉันก็คิดว่ามันไม่มีปัญหาอะไร

เธอเดินมาส่งฉันที่หน้าประตู เราสองคนเดินผ่านลานหน้าบ้านที่เงียบสงัด ตอนที่กำลังเดินผ่านสวนดอกไม้ที่รกร้างไร้คนดูแล ฉันก็อดมาได้ที่จะเอ่ยปากออกมา “ดอกไม้ในสวนดอกไม้ส่วนใหญ่คุณพ่อเป็นคนปลูกเองกับมือ ทำไมถึงทำให้มันกลายเป็นแบบนี้ล่ะ?”

“ปกติคุณพ่อไม่ปลูกดอกไม้หรอก ท่านปลูกเพราะแม่เธอชอบ หัวใจของพ่อฉันมันไม่เคยอยู่ที่แม่ฉันเลย ตอนนี้เขาจากไปแล้ว จะให้แม่ฉันต้องเห็นภาพดอกไม้ที่ปลูกอยู่เต็มสวนพวกนี้เหรอ ท่านจะทนไหวได้ไงล่ะ? เซียวเซิง บางครั้งก็อย่าเรียกร้องอยากได้อะไรมากนักเลย ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง ตาชั่งในชีวิตคนเราถึงจะสมดุล”

คำพูดของเซียวซือพูดได้ค่อนข้างตรงประเด็น เธอส่งฉันที่หน้าประตูใหญ่แล้วมองไปยังด้านนอก “ไม่ได้มีรถมาส่งเธอหรอกเหรอ?”

“ตอนเช้าจะมีรถของตระกูลสีไปส่งฉันทำงานน่ะ ส่วนปกติตอนเย็นฉันจะกลับรถคันเดียวกับเฉียวอี้”

“ตอนนี้มันดึกมาแล้วนะ” เซียวซือมองนาฬิกาข้อมือ “เดี๋ยวฉันเรียกคนขับรถของที่บ้านให้ไปส่งเธอแล้วกัน”

“ไม่รบกวนดีกว่า ฉันค่อยเรียกแท็กซี่เอาก็ได้”

“แถวนี้แท็กซี่หายาก” เซียวซือพูดเสียงราบเรียบ “เธอก็รู้นี่ เธอไม่ต้องเกรงใจหรอก” เซียวซือชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “ถ้าเธอไม่ไว้ใจ งั้นฉันไปส่งเธอก็ได้”

“เอ่อ ไม่ใช่นะ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ฉันรีบโบกมือเป็นพัลวัน

“ไม่เป็นไร ธรรมชาติของมนุษย์ ฉันไปส่งเธอเอง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)