พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 150

สิ่งที่เข้ามาในสายตาก็คือพาดหัวขนาดใหญ่ที่มีสีดำและเป็นตัวหนา ‘เมียเกย์ต่อต้าน นัดพบชายคู่รักในเวลากลางคืน’

เกิดเรื่องอะไรกัน?

ฉันเปิดเข้าไปในเนื้อข่าว หน้าแรกเป็นรูปรูปหนึ่ง ฉันประหลาดใจที่พบว่าคนในรูปก็คือฉันกับหนีอีโจว ในถนนเส้นเล็กๆ ที่มีต้นไม้สองฟากฝั่งที่เราเดินด้วยกันเมื่อคืนนี้ เขาประคองใบหน้าของฉันและมองฉันด้วยความรักและตั้งใจ

ทันใดนั้น ฉันก็นึกถึงแสงสีขาวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เพิ่งรู้ตัวก็ตอนนี้เอง นั่นมันคือแสงแฟลช แสงแฟลชของกล้องถ่ายรูป

รีเฟล็กซ์อาร์กของฉันนี่มันยาวจริงๆ ผ่านไปตั้งหนึ่งคืนถึงเพิ่งรู้สึกตัว

ฉันถูกแอบถ่าย เริ่มตั้งแต่ตอนที่ฉันและหนีอีโจวกลับมาที่บ้านของเขา ตอนที่เขาเปิดประตูก็มีคนแอบถ่ายอยู่ด้านหลังเราแล้ว ไม่น่าล่ะฉันถึงเห็นว่าที่ประตูมีแสงสว่างจากแสงสะท้อน

ฉันเลื่อนลงไปด้านล่าง และมันก็มีรูปที่เราเข้าไปในบ้านของหนีอีโจวด้วยกัน แถมยังมีรูปเงาของเราตอนอยู่ที่หน้าต่างบ้านเขาด้วย ฉันและหนีอีโจวกำลังพาเจ้ามาร์ชเมลโล่ไปเดินเล่น สุดท้ายคือหนีอีโจวกอดฉันอย่างแนบแน่น และฉันก็แข็งทื่อราวกับพลองฟืนอยู่ในอ้อมกอดเขา

ปาปารัสซีเขียนรายงานข้อความข่าวว่า ‘เจ้าสัวทางการเงินเป็นชู้กับผู้ช่วยชายระหว่างงานแต่งงาน สารภาพรักชวนขนลุกในพิธีวางศิลาฤกษ์ เมียเกย์ต่อต้านอย่างเดือดดาล นัดเจอทนายคุยเรื่องหย่าในเวลากลางคืน กอดรัดฟัดเหวี่ยงและจูบกันอย่างดูดดื่มจนได้ภาพถ่ายต่อเนื่องถึงเก้าช็อต’

ภาพถ่ายเก้าช็อตกับผีน่ะสิ ตาข้างไหนพวกเขาเหรอที่เห็นว่าเราจูบกันน่ะ

แต่ว่ามุมที่ปาปารัสซีถ่ายมาได้มันทำให้อยากแทงพวกเขาให้ตายๆ ไปซะจริงๆ เห็นๆ อยู่ว่าไม่ได้จูบกัน แต่กลับถูกพวกเขาถ่ายซะเหมือนจนฉันเองก็เริ่มจะเชื่อ

มือที่กำลังถือโทรศัพท์ของฉันสั่นระริก นี่มันเรียกว่าเรื่องอะไรเหรอ

หลายคนบอกว่าฤดูใบไม้ร่วงมีเรื่องมาก แต่ตอนนี้ยังเป็นฤดูใบไม้ผลิอยู่เลย ทำไมเรื่องมันเยอะขนาดนี้ล่ะเนี่ย?

เฉียวอี้รู้แล้ว เกรงว่าทั้งเมืองฮวาก็คงรู้กันหมดแล้ว

ฉันล้างหน้าล้างตาและเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างลวกๆ แล้วเดินออกมาจากห้อง แต่ขณะที่เดินอยู่ที่ระเบียงทางเดินกลับเจอเข้ากับพี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รอง ฉันสงสัยมากว่าพวกเธอตั้งใจจะมาขวางทางฉันไว้

“นี่ เซียวเซิง เธอเก็บอาการไม่อยู่เกินไปนะ เจ้าสามเปิดเผยรสนิยมทางเพศ ส่วนเธอก็มีชู้ เธอใจร้อนเกินไปหรือเปล่า อย่างน้อยให้หย่าก่อนค่อยว่ากันก็ได้ ไม่งั้นเธอจะไม่ได้เงินสักสตางค์นะ”

ฉันก้มหน้าและเดินผ่านร่างพวกเธอไป แต่พี่สะใภ้รองกลับคว้าข้อมือของฉันไว้ เธอกดเล็บที่ทำมาลงบนหลังมือของฉัน “เซียวเซิง อย่าคิดว่าแกล้งทำเป็นหูหนวกตาบอดแล้วจะปล่อยมันผ่านไปได้นะ”

“พี่สะใภ้รองคะ นี่มันเป็นเรื่องของฉันกับสีชิงชวน ไม่เกี่ยวกับพวกคุณ!” ฉันออกแรงดึงมือของตัวเองออกมาฝ่ามือของเธอ

การต่อต้านครั้งแรกของฉันทำให้พี่สะใภ้รองอ้าปากหวอและหันไปสบตาพี่สะใภ้ใหญ่ “ตอนนี้เธอทำเรื่องน่าอับอายแบบนี้แล้วยังไม่ยอมให้คนอื่นวิจารณ์อีกเหรอ?”

“นั่นมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับพวกคุณ”

พวกเธอนี่น่าเบื่อจริงๆ วันวันจ้องแต่จะเยาะเย้ยฉัน ไม่มีอะไรทำกันหรือไง?

ฉันมาที่เซียวซื่อกรุ๊ปก็รู้สึกว่าพนักงานรักษาความปลอดภัยและพนักงานต้องรับที่ชั้นล่างต่างก็มองฉันด้วยท่าทีแปลกๆ

ฉันรีบมายังห้องทำงานของตัวเอง จากนั้นเฉียวอี้รีบลากฉันเข้าไปในห้องแล้วล็อกประตูทันที แต่สีหน้าของเธอกลับมีแต่ความตื่นเต้น

“ไม่เลวเลยนี่เธออะ เร็วทันใจดีจริงๆ ไหนว่ามาซิ ใครเป็นคนสารภาพรักก่อน?”

“บ้าเหรอ” ฉันนั่งลงบนเก้าอี้แล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมหน้าตัวเอง “ฉันต้องตายแน่ๆ”

“ตายอะไร คนมีอำนาจเท่านั้นเหรอที่จะทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ คนอื่นทำไม่ได้หรือไง! มีแค่สีชิงชวนเหรอที่จะไปมั่วเซ็กส์ได้ แต่เธอทำไม่ได้งี้เหรอ?”

“เฉียวอี้…” ฉันเรียกชื่อเธออย่างอ่อนแรง

“ฉันไม่ได้บอกว่าเธอมั่วเซ็กส์ ฉันหมายถึงของเธอมันคือรักแท้ ทำไมจะมีไม่ได้?”

เฉียวอี้เขย่าไหล่ฉันอยู่ตลอดจนสมองฉันกระเพื่อมไปหมดแล้ว

“เปล่านะ เฉียวอี้”

“จูบกับพี่เสี่ยวฉวนเป็นไงบ้าง?”

“ไม่ได้จูบ”

“เอ่อ หงจีกรุ๊ปไหนเหรอ?”

“ก็คือ” เฉียวอี้อดไม่ได้ที่จะพูดแทรกขึ้น “ก็คือคุณนายคนที่อ่านกลอนรักให้สีชิงชวนกับป๋ออวี่ไง!”

ฉันขนหัวลุกทันทีที่ได้ยิน สีชิงชวนคว้าข้อมือฉันไว้ “ไปเปลี่ยนชุดแล้วก็ทำผมหน่อย”

เขาลากฉันเดินไปทางประตู เฉียวอี้จึงเดินมาแย่งตัวฉัน “สีชิงชวน คุณอย่าเอาเซียวเซิงมาเป็นฉากบังหน้านะ คุณกล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ”

สีชิงชวนและเฉียวอี้เป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงด้วยกันทั้งคู่ ทั้งสองดึงฉันทั้งซ้ายและขวา ดึงจนฉันแทบจะแยกออกเป็นสองซีกแล้ว

ฉันพูดออกมาอย่างอ่อนแรง “เฉียวอี้ เจ็บ”

เฉียวอี้สงสารฉัน เธอจึงรีบปล่อยมือทันที “ไม่เป็นไรใช่ไหมเซียวเซิง”

“เธอช่วยฉันดูหน่อยนะ ตอนบ่ายเดี๋ยวฉันกลับมาจัดการ”

ฉันถูกสีชิงชวนลากออกไปจากห้องทำงาน เพื่อนร่วมงานหลายคนที่อยู่ด้านนอกแอบมองเราด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ

ฉันถูกสีชิงชวนจับยัดเข้าไปในลิฟต์ เขายืนอยู่ด้านหน้าฉัน และฉันก็รู้สึกกดดันมาก ฉันพยายามมองตรงไปด้านหน้า แต่ก็มองเห็นเพียงแค่เนกไทของเขาเท่านั้น มันมีลายแถบสีฟ้าสลับเทาและยังมีด้ายไหมสีเงินด้วย รวมๆ แล้วก็คือเรียบง่ายและมีราคาแพง

เขาเงียบไม่พูดจา ทำให้บรรยากาศมันเงียบแปลกๆ ฉันจึงกระแอมไอและเอ่ยปากทำลายความเงียบลง “สีชิงชวน ปาปารัสซีตั้งใจทำให้เข้าใจผิด จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้น”

“งั้นเป็นแบบไหน?” เขาถามออกมาอย่างเยียบเย็น

“คือฉันกับหนีอีโจวไปทานข้าวกัน กินเสร็จก็พาหมาไปเดินเล่น”

“พาหมาเดินเล่น เดินจนกอดกันเลยงี้เหรอ?” เขาครางในลำคอ ลมหายใจเป่ารดอยู่ที่ผมซอยบนหน้าผากฉัน

มันคันมาก และฉันก็กลัวมากเช่นกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)