พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 151

“ปาปารัสซี่กุเรื่องขึ้นมาเอง ความจริงมันไม่มีอะไร” คำอธิบายของฉันมันดูว่างเปล่า

ก็แค่พาหมาไปเดินเล่นไม่ใช่เหรอ ก็แค่ไปทานข้าวกับหนีอีโจวมาไม่ใช่เหรอ? ฉันเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา แต่เรื่องที่จู่ๆหนีอีโจวมาสารภาพรักกับฉันมันคือเรื่องจริง เพราะแบบนี้ ฉันถึงยังไม่กล้ามองหน้าสีชิงชวน ท้ายที่สุดแล้วพวกปาปารัสซี่ก็เห็นว่าเป็นเรื่องสนุกและอยากให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ แถมยังชอบยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย

“คุณกับทนายพาหมาไปเดินเล่นอยู่ดีๆ ทำไมถึงกอดกันล่ะ?”

“เพราะว่า เพราะว่า” ฉันเม้มปาก

“อยู่ๆเขาสารภาพรักกับคุณใช่ไหม?”

ฉันแอบมองไปที่เขา ยังไม่ทันดูออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหนก็รีบก้มหน้าลงอีกครั้ง

“แล้วคุณเคยคิดไหมว่าปาปารัสซี่มาได้อย่างไร? ปาปารัสซี่ทำไมต้องแอบถ่ายคุณ พวกเขารู้ได้ยังไงว่าคุณอยู่กับทนาย? แล้วอีกอย่าง ทำไมทนายถึงต้องเลือกสารภาพรักกับคุณในเวลานี้ด้วย?”

ฉันเงยหน้าขึ้นมามองที่สีซิงซวน มันเหมือนมีบางอย่างแฝงอยู่ในคำพูดของเขาเมื่อกี้ ฉันยังคงคิดและไตร่ตรองอยู่ แล้วเขาก็เฉลยคำตอบออกมา “คนที่เรียกปาปารัสซี่มาก็คือตัวทนายเองไง”

“เป็นไปไม่ได้” ฉันรีบปฏิเสธคำพูดของเขาทันที “อีโจวไม่มีทางที่จะทำแบบนี้”

“อย่าพึ่งมั่นใจไปซะทุกเรื่อง”

“แรงจูงใจล่ะ?”

“โปรโมทตัวเองออกสื่อพร้อมกับได้ตัวคุณไปด้วยไงล่ะ”

“เขาไม่ใช่ดาราสักหน่อย ทำไมต้องอยากโปรโมทตัวเองออกสื่อด้วย”

“ทนายก็ต้องการเป็นที่รู้จัก ไม่อย่างงั้นใครจะว่าจ้างเขาให้ว่าความล่ะ?”

“เขามีธุรกิจอื่นๆอีกมากมาย”

“ใช่สิ ธุรกิจเป็นสิบๆอย่างของเขายังสู้รับงานเป็นทนายความหนึ่งคดีของอาจารย์ไห่เหอของเขาไม่ได้เลย คุณว่าเขาจะเต็มใจยอมทำงานหนักไปตลอดชีวิตเหรอ?”

“ไม่นะ หนีอีโจวไม่ใช่คนแบบนั้น”

“คุณรู้จักเขามากแค่ไหน?”

“เราโตมาด้วยกัน”

“เหอะๆ” สีชิงชวนมือข้างหนึ่งยันตัวลิฟต์ไว้ มืออีกข้างแกะเนคไทออก ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร เลยถอยหลังไปหนึ่งก้าว

เขาแสยะยิ้ม “คุณรู้จักเขาตอนอายุเท่าไหร่ล่ะ ตอนเขาอายุสิบกว่าขวบ? คุณรู้ไหมว่าความชั่วร้ายของคนจะค่อยๆปรากฏชัดเจนขึ้นตามอายุ พวกคุณเพียงแค่เคยเล่นด้วยกันในวัยเด็ก คุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับหนีอีโจวไหมล่ะ?”

“คุณอย่าใส่ร้ายเขา”

ขณะนี้เองประตูลิฟต์ก็ได้เปิดออก เขาได้ก้าวเดินออกไปอย่างไว “คุณก็ลองใช้สมองของคุณคิดดูให้ดีๆนะ พวกคุณได้กลับมาเจอกันนานขนาดนี้แล้ว เขาไม่เคยที่จะสารภาพรักกับคุณเลยแต่กลับมาสารภาพรักยามคับขันแบบนี้เนี่ยนะ”

“สีชิงชวน” ในใจฉันอึดอัดมาก แต่ไม่สามารถหาคำอธิบายใดเพื่อมาโต้แย้งความหมายของเขา

“คุณรู้สึกว่าพี่เสี่ยวฉวนของคุณมีความรักที่ยาวนานให้กับคุณ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังไม่เคยลืมคุณ” ทันใดนั้นสีชิงชวนก็หยุดลงอย่างกะทันหัน จนฉันเกือบชนเขาเข้า รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณรู้ไหมว่าตอนที่เขาไปเรียนที่อเมริกาเขาเคยจีบผู้หญิงมาแล้วกี่คน?แล้วคุณรู้ไหมว่าเขาเคยอยู่กินกับผู้หญิงมาแล้วกี่คน? วันนี้ไปบ้านของแมรี่ พรุ่งนี้ไปบ้านของลี่ลี่ มันช่างมีความสุขเหลือเกินเนอะ”

“สร้างภาพไงล่ะ” ริมฝีปากของเขาประกบกับริมฝีปากของฉัน ริมฝีปากของเขานุ่มมาก ทักษะการจูบก็ล้ำเลิศ แต่ทำไมสมาธิของฉันถึงกระเจิดกระเจิง

เขาใช้สายตาสยบฉัน “คุณเองก็ควรให้ความร่วมมือหน่อย”

“ทำแบบนี้มันจอมปลอมเกินไปไหม เราทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน จำเป็นต้องกระหายจนอดใจไม่ไหวตอนที่ฉันทำสปาเลยเหรอ กลับไปที่บ้านแล้วค่อยจู๋จี๋กันไม่ได้เหรอ?”

“กลับบ้านแล้วจะมีคนมองเหรอ?” เขากอดฉันแน่นกว่าเดิม ใต้คางของเขามีหนวดสั้นๆ เหมือนเข็มเล็กๆที่คอยทิ่มแทงใบหน้าฉัน

ฉันสับสนขึ้นมาทันที “ทำไมคุณถึงชอบผู้ชายล่ะในเมื่อคุณเองก็มีฮอร์โมนเพศชายสูงขนาดนี้?”

เขาจูบฉันอย่างดูดดื่ม พอได้ยินเสียงงึมงำจากปากฉันตอนเราจูบกันเขาเลยหยุดแล้วมองหน้าฉัน “เรื่องนี้ให้มันผ่านไปไม่ได้ใช่ไหม?”

ฉันแค่กำลังวิเคราะห์อยู่ ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะพูดเรื่องนี้

โถงทางเดินมีคนผ่านไปมาอยู่ตลอด ฉันพยายามดิ้นรนในอ้อมกอดของเขา “พอได้แล้วมั้ง คนเห็นตั้งเยอะแยะแล้ว”

พูดจบเขาจึงยอมปล่อยฉัน จากนั้นก็จูบที่ปากฉันอีกครั้ง “เข้าไปสิ เดี๋ยวค่อยเจอกัน”

ฉันหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสีชิงชวนสักที รีบวิ่งเข้าห้องทำสปาเพื่อไปทำสปาหน้า คิดว่าช่างทำสปาหลายๆคนคงเห็นแล้ว แต่สายตาที่พวกหล่อนมองฉันมันแปลกมาก แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่สายตาของความอิจฉา ถ้าเป็นเมื่อก่อน เวลาพวกหล่อนเห็นฉันกับสีชิงชวนจู๋จี๋กันพวกหล่อนจะอิจฉาอย่างแน่นอน แต่ว่าตอนนี้สายตาที่พวกหล่อนมองมันไม่ใช่สายตาอิจฉา พวกหล่อนรู้ว่าฉันเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่สีชิงชวนใช้สำหรับประชาสัมพันธ์เท่านั้นเอง เนื้อหาที่ซ่อนอยู่ในสายตาพวกหล่อนมันหลากหลายมาก ความรู้สึกหลายๆอย่างมารวมอยู่ด้วยกัน อย่างเช่น ความสงสาร ความสมเพช หรือบางคนอาจมองเหมือนกำลังดูเรื่องสนุกๆ ฯลฯ

ความจริงฉันมองความรู้สึกที่แสดงออกมาบนใบหน้าของใครๆ ได้ออกหมดแหละ แต่ยกเว้นของสีชิงชวน ฉันเอนตัวลงนอน พวกหล่อนทำหน้าให้ฉัน ใช้อุปกรณ์แข็งๆนวดไปมาบนใบหน้าของฉัน ฉันไม่ชอบการทำเสริมสวย ฉันคิดว่าผิวพรรณที่ดีมันคือสิ่งที่ธรรมชาติได้ให้มา คอยบำรุงนิดหน่อยก็เพียงพอแล้ว เมื่อคืนฉันนอนดึกไปหน่อย ตอนนี้พอเอนตัวลงนอนแบบนี้เกิดความง่วงขึ้นมา ฉันจึงค่อยๆหลับไป ระหว่างที่สะลึมสะลือ มีคนกำลังนวดหน้าให้ฉันอยู่ ฉันรู้สึกว่ามือมันใหญ่ไปหน่อย ข้อกระดูกชัดเจนมาก และการนวดก็ไม่ค่อยเบามือ ฉันเหมือนถูกปลุกตื่นมาทันที เมื่อลืมตาขึ้นฉันตกใจมากเมื่อเห็นว่าคนที่นวดให้ฉันคนนั้นคือสีชิงชวน เป็นเพราะฉันนอนอยู่ จึงเห็นหน้าที่กลับหัวกลับหางของเขา คิ้วที่เหมือนดาบสองเล่มของเขาอยู่ด้านล่างสุด มันเหมือนหนวดหย่อมเล็กๆสองหย่อม มองขึ้นไปแล้วมันดูตลกมาก แต่ฉันก็กลับยิ้มไม่ออก ฉันจึงลุกขึ้นมานั่ง แล้วชนเข้ากับคางของเขาอย่างจัง

เขาร้องขึ้นมาเบาๆแล้วเอามือจับคางเอาไว้ “เซียวเซิง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)