พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 260

หลังจากที่เฉียวอี้ออกไป ฉันถึงรู้สึกสบายหูขึ้นมาหน่อย หล่อนหวังดีกับฉัน แต่น่าเสียดายที่ฉันใจไม่สู้ ฉันไม่เคยช่วงชิงอะไรมาก่อน เพราะฉันคิดมาตลอดว่าโลกนี้มีความยุติธรรมเสมอ ของบางอย่างถ้าเป็นของเรา มันก็ต้องเป็นของเรา ถ้าไม่ใช่ของเรา แย่งไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฉันแค่นั่งอยู่ในที่ของฉัน แล้วรอรางวัลร่วงหล่นลงจากฟากฟ้าแบบนั้นก็พอ

พอเลิกงานสีชิงชวนก็ปรากฏตัวให้เห็นอย่างตรงเวลา แต่เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว เซียวซือมากับเขาด้วย เซียวซือถือดอกปักษาสวรรค์มาช่อใหญ่ ดอกไม้ชนิดนี้จะไม่ได้มีอยู่ตามร้านดอกไม้ทั่วๆ มันมีเอกลักษณ์มาก ฉันมักรู้สึกเสมอว่าเกสรแหลมที่เหมือนปากนกจะทิ่มแทงฉันให้ตายได้

“เซียวซือ” ฉันทักทายเธอ จากนั้นเธอก็เอาดอกปักษาสวรรค์จัดใส่ในแจกัน ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน “เซียวเซิง ได้ยินมาว่าเธอป่วยหนักไม่ใช่น้อย ฉันก็พื่งรู้เหมือนกัน”

“ไม่ได้หนักมากหรอก ยังไม่ถึงขั้นป่วยหนักจนเกินเยียวยาได้” สีชิงชวนตอบแทนฉัน

เขาจะดูใจดำอย่างนี้เสมอ คำที่พูดออกมาแต่ละคำ จะทำให้คนฟังรู้สึกไม่พอใจ โทรศัพท์ของสีชิงชวนดังขึ้น แล้วเขาก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก เหลือแค่ฉันกับเซียวซือที่อยู่ในห้อง ฉันกับเธอไม่ค่อยคุยอะไรกันอยู่แล้ว อีกอย่าง ยิ่งอยู่ฉันก็ยิ่งไม่เข้าใจในตัวเธอ บวกกับที่เฉียวอี้บอกกับฉันอยู่บ่อยๆว่าเธอเป็นคนตอแหล พอนานๆเข้า ฉันก็เริ่มระแวงขึ้นมาเล็กน้อย

เซียวซือนั่งข้างเตียงแล้วมองฉัน “ได้ยินมาว่าเป็นเพราะว่าเธอตากฝนถึงได้ไม่สบายใช่ไหม?”

“ก่อนหน้านี้ก็เป็นหวัดแล้วค่ะ ไอหนักมาหลายวันเลย” ฉันตอบ

“อ้อ” เธอตอบอย่างอ่อนโยน “เธออยู่ตัวลำพัง ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆนะ”

เป็นคำพูดที่ดีนะ ฉันพยักหน้าให้เธอ “ขอบคุณค่ะ”

“ชิงชวนเขาน่ะ บางทีก็แปลกจริงๆ เดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ อาจเพราะว่าเขาทะนุถนอนอ่อนโยนต่อผู้หญิงคนอื่นไม่เป็น ฉะนั้นเธอพยายามอย่ายั่วโมโหเขานะ” เซียวซือพูดถูกประเด็นมาก แต่ที่เธอบอกว่าผู้หญิงคนอื่นสี่คำนี้ ฉันฟังแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่

ฉันไม่ได้อยากจะเป็นผู้หญิงคนอื่นของสีชิงชวน แต่ว่าในสายตาของเซียวซือ ฉันก็คือผู้หญิงคนอื่นอย่างที่เธอบอกล่ะมั้ง ยิ่งอยู่ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่า ความรู้สึกที่เซียวซือมีต่อสีชิงชวน กลับไม่ได้ไร้ความปรารถนาอย่างที่เธอพูดไว้ ฉันรู้สึกว่าเธอต้องการสีชิงชวนมาก แค่ใช้วิธีอ้อมเท่านั้น อ้อมจนฉันแทบจะดูไม่ออก การที่เรานั่งอยู่เฉยๆแบบนี้ มันทำให้รู้สึกวางตัวไม่ค่อยถูก และเราก็ไม่ได้พูดคุยอะไรอยู่แล้วด้วย ฉันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานเฉียวอี้ได้เอาขนมขบเคี้ยวมากมายมาให้ฉันด้วย อยู่ในตู้บนหัวเตียงหมดเลย

ฉันจึงดึงผ้าห่มออก ลุกขึ้นจากเตียงแล้วหยิบให้เธอ “พี่เซียวซือ ฉันมีสตอว์เบอรี่เคลือบช็อกโกแลตอร่อยๆอยู่นะ”

“ไม่เป็นไร” เธอขวางฉันไว้ “ฉันไม่ชอบกินขนม”

ผ้าห่มได้ถูกเปิดออกแล้วเธอก็จ้องไปที่เตียง ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังดูอะไรอยู่ จากนั้นฉันก็หันไปมอง ทีนี้แหละ ทำตัวไม่ถูกเลย บนเตียงมีชุดนอนเซ็กซี่ๆที่เฉียวอี้ซื้อให้ฉันเมื่อกี้นี้อยู่ ไม่เพียงเป็นแค่ชุดนอนที่บางดั่งปีกจักจั่นหรอกนะ ยังมีบิกินี่อยู่ข้างในอีกด้วย แต่เนื้อผ้ามันบางและเบากว่าบิกินี่ทั่วๆไป ยังไงฉันก็รู้สึกว่าใส่มันกับไม่ใส่ไม่ได้แตกต่างอะไรกันเท่าไหร่

แย่แล้ว เมื่อกี้ฉันยัดชุดนอนไว้ใต้ผ้าห่มโดยไม่ตั้งใจแล้วลืมไปเลย และฉันก็ไม่ได้สนใจมัน ตอนนี้ถูกเซียวซือเห็นซะแล้ว ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี ฉันอ้าปากค้าง ไม่รู้จะพูดยังไงดี? บอกว่านี่ไม่ใช่ของฉันงั้นเหรอ? เป็นของนางพยาบาลลืมไว้ที่นี่งั้นเหรอ? ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไร เซียวซือก็พูดขึ้นมาก่อน

น้ำเสียงของเธอยังคงดูนิ่ง แต่เหมือนจะปะปนด้วยการเสียดสีเล็กน้อย “ได้ยินมาว่าปอดเธออักเสบ ใส่แบบนี้แล้วมันจะทำให้เป็นหวัดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมไหม? ถึงจะเป็นฤดูร้อน แต่แอร์ในโรงพยาบาลก็ค่อนข้างจะเปิดไว้เย็นมากเลยนะ”

“อันนี้….” ถ้าบอกว่ามันไม่ใช่ของฉัน มันจะดูเป็นการเสแสร้งเกินไปไหม?

ฉะนั้น ฉันทำได้แค่เลือกที่จะพูดไปมั่วเพื่อให้มันผ่านไป เซียวซือก้มหน้าลง มุมปากกระตุกเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากำลังยิ้มอะไร พวกเรานั่งลงพร้อมกันโดยที่อึดอัดวางตัวไม่ถูก ฉันจัดผ้าห่มดีๆอีกที แล้วปิดชุดนอนที่เซ็กซี่นั้นไว้ เซียวซือนั่งได้สักพักแล้วลุกขึ้นมา เห็นว่าเธอกำลังจะกลับ ฉันก็โล่งอกขึ้นมาทันที

“พี่เซียวซือคะ ขอบคุณดอกไม้ที่พี่เอามาให้นะ สวยมากเลยค่ะ” พูดตามมารยาทไปแบบนั้นแหละ

เธอกลับไม่ได้สนใจในสิ่งที่ฉันพูด วางมือไว้บนเคาร์เตอร์บนหัวเตียงแล้วมองฉัน เธอมองฉันอย่างน่าขนลุก ฉันกำลังจะถามเธอว่าเป็นอะไร เธอก็พูดขึ้นมาว่า

“เซียวเซิง เธอใช้วิธีนี้เพื่อดึงชิงชวนไว้ ไม่ให้หย่ากับเธอชั่วคราวเหรอ?”

“เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่เห็นนะ”

“อื้ม ฉันรู้ เธอกลับไปได้แล้ว!”

ลิฟต์ได้เปิดออก แล้วเซียวซือเดินเข้าลิฟต์เลย ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่านี่คือได้อธิบายไปแล้วหรือยัง ฉันจะขายเฉียวอี้ไม่ได้นะ ผู้หญิงคนนั้นอยากให้ฉันได้เจอกับอะไรดีๆจากใจจริง ฉันมองดูเซียวซือจากไปอย่างเซื่องซึม ตัวเลขหน้าลิฟต์ค่อยๆลงจากชั้นสิบสองไปยันชั้นใต้ดิน จากนั้นฉันก็เดินกลับเข้าไปในห้อง ฉันคิดว่า ในสายตาของเซียวซือ ฉันเป็นแค่คนที่มีภาพลักษณ์ไม่ดีคนหนึ่ง ตอนที่รู้ความลับของเธอแรกๆ เคยสัญญาไว้อย่างใจมั่นว่าจะคืนสีชิงชวนให้กับเธอ แต่แล้วก็ซื้อชุดนอนเซ็กซี่ๆมายั่วยวนสีชิงชวนอีก คิดๆแล้วฉันยังรู้สึกดูถูกตัวเองเลย

ฉันกลับไปที่ห้องอย่างหมดอาลัยตายอยาก พอเปิดประตูก็เห็นสีชิงชวนยืนอยู่ข้างเตียงฉัน ในมือได้ถือครึ่งบนของบิกินี่ที่เป็นหนึ่งในชุดนอนขึ้นมาดู ในหัวของฉันเหมือนมีเสียงที่ถูกคนอื่นยิงด้วยปืนลูกซองดังขึ้น นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมแม้แต่สีชิงชวนก็ยังมาเห็นของเน่าๆของฉันพวกนี้ได้? ฉันไม่ได้จะใส่มันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และก็ไม่ได้อยากเอามันออกมาด้วย แต่ว่า มันถูกพวกเขาเห็นกันหมดแล้ว!

รู้สึกอายมาก อยากให้เวลาหยุดไว้เพียงแค่นี้ ฉันจะได้เข้าไปแย่งชุดนอนมาจากมือเขามา แล้วลบความทรงจำช่วงเวลานี้ของเขา น่าเสียดายที่ฉันไม่ใช่คนเหนือมนุษย์ และฉันก็ไม่ได้มาจากต่างดาว

“สีชิงชวน” ฉันพูดจาสะเปะสะปะ “วางของที่อยู่ในมือคุณลงนะ”

เขาไม่เพียงไม่วางมันลง ยังชูขึ้นสูงให้ฉันดูอีกด้วย “นี่คืออะไร?”

เขาใช้สองนิ้วจับสายเสื้อในไว้ เสื้อในที่ทั้งบางและเล็กลอยไปมาในอากาศ ฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกลายเป็นผู้หญิงสำส่อน ที่ถูกใครบางคนจับได้

“มันคือ คือผ้าเช็ดหน้า” ฉันทำได้แค่พูดไปมั่ว

สีชิงชวนหัวเราะฉัน “คุณคิดว่าผมคือคนโง่เหรอ คิดว่าผมไม่รู้เหรอว่านี่มันคืออะไร?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)