พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 262

ฉันดูเวลา เที่ยงคืนแล้ว สีชิงชวนยังไม่กลับมาเลย

ถ้าพูดกันตามเหตุผล แม้ว่ารถของเซียวซือจะพังอยู่ในสถานที่ที่ไกลมากๆ แต่สีชิงชวนก็แทบจะรีบออกไปรับเธอพาไปส่งที่บ้านทันที หรือเขาช่วยซ่อมรถให้เธอด้วยเหรอ?

แต่สีชิงชวนความสามารถมากมายหลายอย่างมาก ไม่แน่ว่าเขาอาจจะซ่อมได้จริงๆ ก็ได้

ฉันล้มตัวลงนอนแล้วปิดไป แต่ยังมีโคมไฟติดผนังที่ไม่สามารถปิดได้ เนื่องจากไม่อนุญาตให้ดับไฟในห้องพักผู้ป่วย เพราะพยาบาลและคุณหมอต้องเข้ามาตรวจดูอาการคนไข้ทุกเวลา

ฉันหลับตาลง ผ่านไปสักพักก็ลืมตาขึ้นมาดูเวลาอีกครั้ง เพิ่งจะผ่านไปแค่ห้านาทีเอง

ฉันคิดว่าอย่างน้อยน่าจะผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงแล้วซะอีก

เวลาผ่านไปช้ามากจริงๆ

ฉันรู้สึกว่าสำหรับสิ่งที่เรียกว่าเวลานี้ ความเร็วในการไหลผ่านไปของมันต้องต่างกันอยู่แล้ว

บางครั้งมันก็ผ่านไปเร็ว แค่ชั่วพริบตาเดียวก็ผ่านไปนานขนาดนั้นแล้วเหรอ

แต่บางครั้งมันก็เหมือนกับลำธารสายเล็กๆ ที่แข็งตัวเป็นน้ำแข็ง ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นิดเดียว

มีเสียงหนึ่งถามฉันขึ้นมาในใจ “เธออยากโทรไปถามเขาหน่อยไหม? ยังไงตอนนี้พวกเธอก็เป็นสามีภรรยากันนะ”

อีกเสียงหนึ่งช่วยตอบแทนฉัน “อย่าลืมนะว่าเธอเคยรับปากเซียวซือไว้ว่าเธอจะช่วยเหลือให้พสกเขาได้สมหวัง ตอนนี้สีชิงชวนแค่ไปช่วยซ่อมรถให้เซียวซือเท่านั้นเอง แต่เธอก็ตีโพยตีพายแล้ว เธอเองก็อย่าแอ๊บให้มันมากได้ไหม? ”

เสียงนั้นเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง “แอ๊บอะไร ฉันแค่ถามว่าทำไมเที่ยงคืนแล้วแต่สามีของตัวเองก็ยังไม่กลับมาอีกก็เท่านั้น ฉันผิดเหรอ? อีกอย่าง ใครให้ตอนนั้นเซียวซือทิ้งสีชิงชวนไปล่ะ และฉันก็ไม่ได้หน้าที่รับผิดชอบช่วยเหลือให้พวกเขาสมหวังอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าสักหน่อย ถ้าสีชิงชวนชอบหล่อน ใครจะไปห้ามได้? ”

อีกเสียงหนึ่งก็เอ่ยขึ้นมาว่า “พูดไปพูดมา ไม่ใช่ว่าเธอถูกสีชิงชวนทำให้สับสนเข้าแล้วหรอกเหรอ? ตอนนั้นเธอยังสาบานอย่างจริงจังอยู่เลยว่าสีชิงชวนไม่ใช่สเปคของเธอ แต่สุดท้ายเธอก็หลีกหนีโชคชะตาที่ถูกเขาจับเป็นเชลยไม่พ้น”

“หนวกหูชะมัด...” ฉันลุกขึ้นจากเตียงมานั่งปิดหู

น่าสนใจจริงๆ ฉันกำลังหนวกถูกเสียงตัวเอง

การต่อสู้ภายในใจของฉันดุเดือดมากจนฉันนอนไม่หลับ ฉันจึงลงไปเดินเล่นในสวนดอกไม้

สวนดอกไม้ในช่วงเวลากลางวันดูสวยงามเป็นอย่างมาก แต่ในช่วงเวลากลางคืนกลับดูมืดมิดน่าหวาดกลัว

ภูเขาเทียมที่ดูสวยงามในตอนกลางวัน ตอนนี้กลับดูเหมือนผีชั่วร้ายที่กำลังแยกเขี้ยวยิงฟันคิดจะพุ่งเข้ามาตะครุบฉัน

ฉันนั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวยาวสักพักหนึ่ง ในตอนที่กำลังจะลุกขึ้น สายตาก็เหลือบไปเห็นสีชิงชวนเดินเข้ามาจากด้านนอกของสวนดอกไม้พอดี

ในที่สุดเขาก็กลับมาแล้ว เขาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วปานสายลม คาดว่าต่อให้จะเป็นผีชั่วร้ายของที่นี่ก็ยังกลัวเขา

ม้านั่งที่ฉันนั่งอยู่ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ทำให้ฉันซ่อนตัวได้พอดี สีชิงชวนจึงไม่เห็นฉัน

ตอนที่ฉันกำลังคิดอยู่ว่าฉันควรจะอธิบายกับเขายังไงดีว่าทำไมฉันถึงมานั่งไม่ยอมหลับยอมนอนอยู่ที่นี่ตอนกลางดึก เขาก็เดินเข้าตึกผู้ป่วยไป

คนฉลาดเฉียบแหลมอย่างสีชิงชวนต้องสังเกตเห็นได้แน่ๆ ว่าที่ฉันไม่ยอมหลับยอมนอนทั้งๆ ที่ดึกดื่นป่านนี้แล้วมีความเกี่ยวข้องกับที่เขาออกไปหาเซียวซือ

ต่อหน้าสีชิงชวนฉันได้สูญเสียเกียรติภูมิไปตั้งนานแล้ว สิ่งเดียวที่ยังพอรักษาเกียรติเอาไว้ได้ก็คือการไม่อยากให้เขารู้ว่าฉันอาจจะเริ่มมีความรู้สึกต่อเขาขึ้นมานิดๆ แล้ว

แม้แต่เฉียวอี้ก็รู้แล้ว มันยังไม่สายเกินไปที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้สีชิงชวนรู้ ฉันหวังว่าเขาจะไม่อยากรู้ไปตลอดกาล หรือไม่พอถึงตอนที่เขารู้ก็เป็นตอนที่ฉันไม่มีความสนใจในตัวเขาแล้ว

ตอนที่เฉียวอี้รู้ เธอบอกว่าฉันตายแน่ๆ

สีชิงชวนเหมือนเป็นระเบิดเวลา ใครก็ตามที่เขาใกล้เขาไม่ตายก็บาดเจ็บ

ตอนนี้ดูแล้ว ถึงจะยังไม่ตายแต่ก็เหลือชีวิตแค่ครึ่งเดียว

เขาแค่ไปส่งเซียวซือกลับบ้านตอนกลางดึก ฉันก็มานั่งโศกเศร้าเสียใจแทบใจสลายอยู่ตรงนี้แล้ว

ฉันยังคงเสียอกเสียใจอยู่กับตัวเอง ฉันเห็นสีชิงชวนวิ่งออกมาจากประตูใหญ่ของตึกผู้ป่วยมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูและมองไปรอบๆ

เขากำลังหาฉันอยู่เหรอ? โอ้ ฉันไม่อยู่ในห้องพักผ็ป่วยตอนกลางดึกแบบนี้ เขาต้องกำลังตามหาฉันแน่

ตอนที่ฉันกำลังจะลุกขึ้นยืน ก็ได้ยินเขากำลังคุยโทรศัพท์ “เฉียวอี้ เซียวเซิงอยู่กับคุณไหม? ”

เขาต้องได้รับคำตอบเป็นการปฏิเสธแน่นอน เขาถึงได้ดูร้อนรนเล็กน้อย “ถ้าเธอไม่ได้อยู่กับคุณแล้วจะไปอยู่ที่ไหนได้บ้าง? ทั้งเมืองฮวานี้ ทุกครั้งที่เธอบาดเจ็บก็จะไปหลบอยู่กับคุณไม่ใช่เหรอ? ”

ฉันบาดเจ็บ? ฉันบาดเจ็บตรงไหน?

หรือสีชิงชวนหมายถึงเรื่องที่เขาไปหาเซียวซืองั้นเหรอ?

เขาน่าจะไม่ฆ่า แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะทรมานฉันยังไงบ้าง

ยุงแทบจะกัดฉันตายอยู่แล้ว ฉันกำลังคิดว่าจะกลับไปที่ห้องพักตอนนี้เลยดีไหม พอพวกเขาถาม ฉันก็จะแกล้งทำเป็นความจำเสื่อม หรือจะแกล้งทำเป็นละเมอดี?

ใช่ ละเมอ

ฉันจะฉวยโอกาสที่ตอนนี้ไม่มีคนอยู่ที่นี่ แอบหนีขึ้นไปข้างบนอย่างเงียบๆ พยายามแกล้งทำท่าทางเหมือนเดินละเมอ เหมือนซากศพเดินได้

และบังเอิญว่าชุดนอนที่ฉันใส่ในวันนี้มันหลวมมากๆ พอดีด้วย ดูเหมือนซากศพเดินได้อยู่นิดๆ

ฉันกลับมาถึงห้องของตัวเอง โทรศัพท์ที่วางอยู่บนเตียงกำลังกะพริบ เป็นสายโทรเข้าจากเฉียวอี้

ฉันกดรับโทรศัพท์แล้วเอามาวางแนบหู “อื้ม เฉียวอี้”

เธอตะโกนออกมาเสียงดังอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เซียวเซิง นั่นเธอเหรอ เธอตัวจริงเหรอ? ”

“ฉันไม่ใช่คนดังสักหน่อย ใครจะมาสวมรอยเป็นฉัน? ”

“อ่า เซียวเซิง ฉันกำลังจะถึงโรงพยาบาลแล้วนะ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? ”

“ไม่ต้องมา ฉันก็อยู่ในห้องพักของฉันนี่แหละ”

“แล้วเธอไปไหนมา สีชิงชวนด่าฉันเหมือนฉันเป็นผี ตอนนี้กำลังตามหาเธอไปทั่วท้องถนน”

“ฉันยืนเหม่ออยู่ในสวนดอกไม้ ฉันเห็นหมดแล้ว”

เสียงเหมือนรถเบรกกะทันหัน ทำให้ฉันตกใจมาก ฉันจึงรีบถามออกไปทันที “เฉียวอี้ เฉียวอี้ เธอไม่เป็นไรนะ! ”

“ไม่เป็นไร ฉันจอดรถเข้าข้างทางเฉยๆ ” เฉียวอี้หอบหายใจ “เธอหมายความว่าเธอเห็นสีชิงชวนกำลังตามหาเธอแล้ว? ”

“อื้ม”

“งั้นทำไมเธอไม่โผล่หน้าออกไป โอ้ๆ ฉันเข้าใจแล้ว” น้ำเสียงของเธอฟังดูตื่นเต้นมาก “เธออยากลองหยั่งเชิงดูว่าสีชิงชวนสนใจเธอหรือเปล่าใช่ไหม? ”

ฉันไม่ได้นึกถึงการแสดงแบบนี้เลยด้วยซ้ำ ต่อให้ฉันรู้ว่าสีชิงชวนสนใจเรื่องการหายตัวไปกลางดึกของฉันมากๆ แล้วมันยังไง ฉันก็ยังอ่านใจเขาไม่ออกอยู่ดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)