พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 263

อารมณ์สนุกสนานของฉันลดต่ำลง “แน่นอนว่ามันไม่ใช่แบบนั้นอยู่แล้ว ฉันขี้เกียจเกินกว่าจะขยับ”

“แต่สีชิงชวนตามหาเธอไปทั่วเมืองฮวาแล้วนะ ถ้าเขารู้ว่าเธอหลอกเขา ฉันคาดว่าเธอต้องน่าอนาถมากแน่ๆ ”

“ถ้าสีชิงชวนไปถามเธอ ก็บอกไปว่าฉันเป็นโรคเดินละเมอ”

“ห้ะ? ละเมอ? ”

“อื้ม เธอกลับบ้านไปเถอะ ขับรถระวังๆ ด้วย”

ฉันวางสาย จากนั้นก็ล้มตัวนอนลงบนเตียง

โทรศัพท์ดังอยู่ตลอดเวลา ดังจนฉันเวียนหัวไปหมด

ถึงจะเป็นการละเมอ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่โทรศัพท์ดังแล้วฉันจะไม่ตื่น

ฉันคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็กดรับสายแล้วเอาโทรศัพท์วางแนบหู เป็นสายจากสีชิงชวน

เขารู้สึกสับสนมึนงงไปทันทีเมื่อจู่ๆ ฉันก็รับโทรศัพท์ “เซียวเซิง? ”

“ฉันเอง”

“คุณอยู่ที่ไหน? ”

“บนเตียงในโรงพยาบาลไง”

“เมื่อกี้คุณไปที่ไหนมา? ”

“ฉันก็หลับอยู่ตลอดเวลานะ! ” ฉันเองก็แสร้งทำเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือ1 ทำเหมือนคนไม่มีความผิดได้เหมือนกันนะเนี่ย

ก็แค่การแสดงเองไม่ใช่เหรอ ฉันเองก็แสดงได้เหมือนกัน!

เขานิ่งเงียบไปสองวินาที ฉันรู้ว่าเขากำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว

และพอได้ยินอย่างนั้นเขาก็เหมือนจะเป็นบ้าขึ้นมาจริงๆ “ผมตาบอดเหรอ? ผมเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องพักของคุณตั้งหลายรอบ แม้แต่ในลิ้นชักผมก็ไม่เห็นคุณเลย แต่คุณมาบอกผมว่าคุณหลับอยู่ตลอดเวลางั้นเหรอ? ”

“ฉันไม่ใช่โดราเอมอนนะ” ฉันพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งมากๆ

ฉันพบว่าในขณะที่ฉันสงบนิ่งมากๆ อีกฝ่ายก็กำลังเป็นบ้า ความรู้สึกแบบนี้ไม่ควรรู้สึกดีจนเกินไป

“เซียวเซิง คุณรู้หรือเปล่าว่าผมแทบจะพลิกแผ่นดินหาทั้งเมืองฮวาแล้ว? ”

“ก็บอกแล้วว่าฉันนอนอยู่ แต่คุณไม่เชื่อฉันเอง” ฉันหาวออกไป “ฉันจะนอนต่อแล้ว แล้วก็นะสีชิงชวน คุณเป็นโรคอารมณ์สองขั้วหรือเปล่า ไหนๆ ในช่วงหลายวันนี้คุณก็อยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนกัน คุณก็ถือโอกาสไปหาหมอหน่อยเถอะ! ”

ฉันวางสายแล้วหลับตาลงแสร้งทำเป็นนอนหลับ

นึกไม่ถึงเลยว่าฉันจะหลอกสีชิงชวนได้ด้วย ต่อให้ละครฉากนี้ที่ฉันแสดงจะห่วยแค่ไหนฉันก็ต้อวแสงดต่อไป ไม่อย่างนั้นฉันได้ถูกสีชิงชวนฆ่าแน่

การแสดงแข็งๆ ต่อให้ใครจะดูออกว่ามันปลอม แต่ฉันก็ต้องแสดง

นี่ก็คือจรรยาบรรณของนักแสดงอย่างหนึ่งเหมือนกัน

ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฉันรู้สึกตลกตัวเองจนจะตายอยู่แล้ว

ไม่นานสีชิงชวนก็กลับมา ฉันหลับตา หูได้ยินเสียงฝีเท้าที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของเขา ราวกับฉันกลายเป็นพื้นหินอ่อนที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา ทุกย่างก้าวที่เหยียบย่ำลงไปจะสามารถเหยียบฉันให้ตายได้

ฉันแสร้งทำเป็นหลับอยู่ สีชิงชวนมายืนอยู่ตรงหน้าเตียงของฉัน ฉันรู้สึกได้ว่าความกดอากาศมันลงต่ำลงไปไม่น้อยทันที

“เซียวเซิง” ฉันฟังออกว่าเขาฉุนเฉียวมาก

ฉันแสร้งทำเป็นหลับตามเดิม แต่จริงๆ แล้วนิ้วมือที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มกลับกำลังสั่นเล็กน้อย

เขาผลักฉันเบาๆ ฉันรู้สึกว่าเขาเมตตาฉันมากๆ แล้ว

คนอย่างฉันที่หลอกเขา ทำให้เขาตามหาฉันไปทั่วเมืองไม่ได้หลับไม่ด้นอนอยู่ครึ่งค่อนคืน เขาจะบีบคอฉันให้ตายก็ไม่เป็นไร

ฉันลืมตาขึ้น และแสร้งทำเป็นขยี้ตาด้วยความสะลึมสะลือ “มีอะไร? ”

ท่าทางของสีชิงชวนทำให้ฉันตกใจมาก

เขาก้มตัวลงมาจ้องมองฉัน ภายในห้องเปิดแค่ไฟติดผนัง ไม่ได้สว่างมากนัก แล้วยังมาถูกร่างกายสูงใหญ่ของเขาบังอีก จึงทำให้ใบหน้าของเขาดูดำทะมึนเป็นอย่างมาก ดวงตาของเขาก็แดงก่ำเล็กน้อย

ดวงตาที่แดงก่ำของเขาเกี่ยวกับที่เขาออกไปช่วยซ่อมรถให้เซียวซือไม่ได้หลับได้นอนมาครึ่งค่อนคืน หรือเกี่ยวกับฉัน?

ฉันข่มความรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเอาไว้ และพยายามมองไปที่เขาด้วยความสงบนิ่ง “ทำไม? ”

“คุณถามผมว่าทำไมเนี่ยนะ? ” เขาชี้ไปที่พยาบาลกับคุณหมอที่ยืนอยู่หน้าประตู “ทุกคนกำลังตามหาคุณ แต่คุณกลับกำลังหลับอยู่เนี่ยนะ? ”

“ก็บอกไปแล้วว่าฉันอยู่ที่เตียงตลอด แต่คุณไม่เชื่อ แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ? ”

ฉันไม่รู้ว่าแววตาของฉันในเวลานี้มันดูเหมือนคนไม่มีความผิดไหม และฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสีชิงชวนจับได้ไหมว่าฉันโกหก แต่ในตอนนั้นเองเฉียวอี้ก็โทรมาหาสีชิงชวนพอดี

“เซียวเซิง” เขามองมาที่ฉันด้วยสายตาเศร้าสร้อย “พรุ่งนี้ไปตรวจดูหน่อยนะ”

“ตรวจอะไร? ”

“ง่ายมากๆ ซีทีสแกนสมอง”

“ทำซีทีสแกนสมองเลยนะ มันง่ายตรงไหน? ” ฉันรู้เลยว่าคำพูดของเฉียวอี้ส่งผลต่อการแสดงของฉันแล้ว ฉันดีใจมากจนอยากจะกระโดดโลดเต้นและร้องออกมาด้วยความดีใจจริงๆ เลย

แต่บนใบหน้ากลับยังคงแสร้งทำเป็นไม่มีความผิดและไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี “สมองของฉันเป็นอะไรไปเหรอ? ”

“ไม่มีอะไร” เขายื่นมือออกมาลูบผมของฉันเบาๆ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากๆ “ไม่เจ็บไม่คัน ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง”

ที่ไหลผ่านออกมาจากดวงตาของเขานั่นคือความสงสารกับความอ่อนโยนเหรอ?

ฉันรู้สึกกลัวเล็กน้อย กลัวว่าสันหนึ่งตัวเองจะถูกเปิดโปงแล้วถูกเขาบีบคอให้ตายจากนั้นก็เฆี่ยนศพ แล้วก็เอาไปฝังจากนั้นก็ขุดขึ้นมาเฆี่ยนศพอีกครั้ง

สีชิงชวนไม่ได้เป็นปีศาจร้าย แต่ฉันโกหกเขานะ คนที่หยิงผยองโอหังอวดดีอย่างเขาจะรับได้ยังไงถ้ามีคนอื่นมาหลอกเขา?

ฉันหลับตาลงแสร้งทำเป็นหลับ แต่จริงๆ แล้วฉันกลัวที่ตะต้องแลกเปลี่ยนสายตากับเขา

ทักษะการแสดงของฉันกับเฉียวอี้มีการพัฒนาขึ้นแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะหลอกสีชิงชวนได้ด้วย

วันรุ่งขึ้น ฉันถูกเข็นเข้าไปในห้องซีทีสแกนเพื่อทำการสแกนสมอง คุณหมอเมตตาอนุญาตให้สีชิงชวนเข้าไปกับฉันด้วย

เขาจับมือของฉันเอาไว้ ราวกับว่าอีกเดี๋ยวฉันจะไม่ได้ถูกเข็นเข้าไปทำการสแกนในเครื่องซีที แต่เป็นเครื่องจักรที่พอเข้าไปแล้วมันจะหั่นฉันออกเป็นชิ้นๆ

“เซียวเซิง” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนจนฉันตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว “คุณทำตัวสบายๆ นะ แป๊ปเดียวก็เสร็จแล้ว ผมจะคอยอยู่ข้างๆ คุณเอง”

“อึก” มือฉันสั่นแรงมาก

เขาจับมือของฉันให้แน่นขึ้น “ไม่ต้องกลัว ผมอยู่ตรงนี้ตลอด”

ฉันกลัวเขาเข้าใจไหม เดิมทีฉันแค่ไม่อยากถูกเขาดุ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเรื่องราวมันจะใหญ่โตไปแล้ว

ฉันยิ้มให้เขาอย่างอ่อนแรง จากนั้นก็ถูกเข็นเข้าไปในเครื่องสแกน

......

[1] แสร้งทำเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือ หมายถึง แสร้งทำเป็นคนอ่อนแอไร้น้ำยา เพื่อหลอกลวงให้ศัตรูตายใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)