พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 331

ฉันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและตรวจร่างกายทั้งหมด ตั้งแต่พยาบาลถึงหมอล้วนแต่เป็นผู้หญิง แถมยังมีนักจิตวิทยามาพูดอยู่ข้างฉันด้วยเสียงอ่อนโยนเบาๆ

ฉันรู้สึกว่าไม่จำเป็นขนาดนั้น ตอนนี้สภาพจิตใจฉันดีขนาดไหน ไม่ได้ต้องการการดูแลแบบนี้ มันทำให้รู้สึกเหมือนฉันเป็นผู้หญิงที่ถูกทำร้ายทางเพศอย่างรุนแรง

สีชิงชวนอาจเข้าใจผิด หรือไม่ก็โอเวอร์เกินไป

ที่จริงเดิมทีนั้นตรวจด้วยตาเปล่าสองนาทีก็เสร็จแล้ว แต่เหล่าคุณหมอกลับตรวจไปแทบจะหนึ่งชั่วโมงแล้ว

ฉันรู้สึกว่าผิวหนังทุกส่วนบนร่างกายของฉันถูกพวกเขาตรวจดูแทบจะทุกส่วนแล้ว บทสรุปสุดท้ายคือฉันไม่ได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และฉันก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสใดๆ แต่แค่บนหน้าอกฉันมีรอยที่โดนเล็บข่วน

หลังจากที่ตรวจเสร็จแล้ว พยาบาลเข็นฉันออกมาจากในห้องตรวจ ฉันเห็นมีตำรวจไม่กี่คนกำลังรอฉันที่ประตูทางเข้า ตำรวจหญิงที่เป็นหัวหน้าสองคนค่อยๆ ถามนักจิตวิทยา “อาการคุณนายสีตอนนี้สามารถตอบคำถามพวกเราได้ไหมคะ ?”

จิตแพทย์มองมาที่ฉันอย่างเป็นกังวล และหลังจากที่เขาตรวจมองอาการเบลอๆ ของฉันแล้ว เขาก็พยักหน้ายืนยันว่า "ตอนนี้อาการของคุณนายสีค่อนข้างดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร"

ดังนั้นพวกเราจึงมาถึงห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาล ตำรวจได้สัมภาษณ์ฉันอย่างใกล้ชิด และฉันก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกเขาฟัง

บรรดาตำรวจเอาจริงเอาจังมาก พลางอัดเสียงและพลางจดบันทึกจดบันทึก ราวกับว่าเป็นคดีอาญาร้ายแรงอย่างไรอย่างนั้น

ตอนที่ฉันพูด พวกเขายังถามแทรกขึ้นมาเป็นบางครั้ง อาจเป็นเพราะสีชิงชวนยืนอยู่ พวกเขาจึงกดดันมาก

“คุณนายสีคะ” เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงเขียนบันทึกอย่างย่อ จากนั้นเงยหน้ามามองฉัน “คุณได้ยินผู้ต้องสงสัยคนที่หนึ่งกำลังคุยกับผู้ต้องสงสัยคนที่สองหรือไม่คะ ?"

“ผู้ต้องสงสัยคนที่สอง ?” ฉันสับสนเล็กน้อย

“ก็คือเซียวซือค่ะ” เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง

“ไม่ได้ยินนะคะ” ฉันรีบพูดทันที “ตอนแรกฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ ว่าตอนที่ฉันเขาไปฉันไม่เห็นใครเลย ตอนที่ฉันเตรียมจะออกมาจากในห้อง ฉันเห็นคนนั้นเดินออกมาจากในห้องน้ำ ในระหว่างนั้นฉันไม่ได้ยินเขากับเซียวซือสนทนากันหรือคุยทางโทรศัพท์ใดๆ กันเลย”

“งั้นก็น่าจะคุยกันไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะ” เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงบอกฉันอย่างมั่นใจ

เขามั่นใจขนาดนี้แล้วยังจะมาถามฉันทำไม

ฉันเงยหน้ามองสีชิงชวน “ที่จริงทางฉันไม่ได้ยินอะไรเลยนะคะ และก็ไม่สามารถแน่ใจมากพอว่าเซียวซือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

สีชิงชวนยืนตัวตรงเหมือนต้นสนต้นหนึ่ง และก็เหมือนเสาคอนกรีตต้นหนึ่ง เหมือนเป็นคนที่ไร้ความรู้สึก

คำให้การของผู้ต้องสงสัยคนที่หนึ่งได้ทำให้ต้องเรียกเซียวซืออกมาแล้ว เขาบอกว่าเซียวซือโทรไปหาเขาให้เขาลงมือปฏิบัติภารกิจ แถมในมือถือเขายังเจอรูปที่เซียวซือส่งให้ตาอ้วน

นั่นก็หมายความว่าเซียวซือทำจริง ทำไมฉันถึงรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่นัก ?

ฉันมักรู้สึกว่าเซียวซือไม่เหมือนคนที่จะทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ แต่ถ้าเป็นแม่เลี้ยง ก็มีโอกาสเป็นไปได้

เซียวซือไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายฉัน อีกอย่างฉันได้ยกตำแหน่งท่านประธานให้เขาแล้วด้วย และฉันก็คิดจะไปต่างประเทศแล้ว แต่แค่ได้รับบาดเจ็บก็เท่านั้นเอง

ตอนนี้ที่ฉันเดินกะเผลก มันไม่สามารถเป็นการคุกคามเขาได้โดยสิ้นเชิง ฉันมองไปที่สีชิงชวน “คุณคิดผิดหรือเปล่าคะ ?”

“คุณเป็นผู้เสียหายที่พูดแทนผู้ต้องสงสัยคนแรกที่ผมเคยเจอ” เขาพูด

เหล่าตำรวจบันทึกคำให้การเสร็จก็กลับไป สีชิงชวนพาฉันกลับบ้าน ระหว่างทานฉันถามเขาว่า “ตอนนี้เซียวซืออยู่ที่ไหนคะ ?”

“อยู่ที่สถานที่กักกัน”

“เขายอมรับแล้วเหรอคะ ?”

“ไม่พูดอะไรเลย แต่เขาพูดว่าไม่พูดก็ไม่สำคัญ หลักฐานหนักแน่น”

“หากถูกตัดสิน เซียวซือจะติดคุกไหมคะ ?”

“ยุยงพยายามข่มขืน สองถึงห้าปี”

ฉันรับสายและเอามาแนบข้างหู เสียงตีโพยตีพายของเฉียวอี้ดังออกมาจากในโทรศัพท์ “เซียวเซิง ตอนนี้เธอเป็นไงบ้าง ? ฉันเคยบอกตั้งนานแล้วว่าเซียวซือคือสุดยอดโสเภณี ฉันจะทำให้เขาต้องได้นั่งอยู่ในคุกจนรากงอกไปเลย ! ถึงจะรากไม่งอก ฉันก็จะทำให้เขาตายอยู่ในคุก ไม่มีวันได้ออกมา !”

“เฉียวอี้ เธอใจเย็นๆ ก่อนสิ” ฉันยังไม่อารมณ์รุนแรงเท่าเขาขนาดนั้น “ตอนนี้ยืนยันไม่ได้ว่าเซียวซือเป็นคนทำรึเปล่า ?”

“ยังยืนยันคนไม่ได้อีกเหรอ จับมือดมได้แล้วต่างหาก”

“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ?” ฉันถามเขา

“ฉันไปสถานีตำรวจมา เพิ่งจะออกมาจากข้างใน”

“เธอไปทำอะไรที่สถานีตำรวจ ?”

“พบคนเก็บข้อมูลให้ชัดเจนไง ฉันกลัวว่าสีชิงชวนจะปกป้อง ก็เลยต้องถามให้ชัดเจน”

เสียงโทรศัพท์ของฉันค่อนข้างดัง สีชิงชวนได้ยินอยู่ข้างๆ อย่างชัดเจน

“ถ้าฉันต้องการปกป้องเขา ฉันจะไปบอกเธอทำไม” เขาท่าทางนิ่งๆ

เฉียวอี้ตวาดอยู่ในโทรศัพท์มือถือ “อย่าเพิ่งพูดจาดูดีแบบนั้นไปหน่อยเลย รอถึงตอนที่เขาได้ติดคุกจริงๆ ก่อนแล้วค่อยว่ากัน เซียวเซิง ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปรับเธอเดี๋ยวนี้ !”

ในขณะนั้นเองสีชิงชวนได้เอาโทรศัพท์ที่อยู่ในมือฉันไป “ภรรยาฉันแน่นอนว่าต้องไปกับฉัน เฉียวอี้ เธอรู้จักตำแหน่งของเธอให้ดี ที่เป็นแค่เพื่อนธรรมดาคนหนึ่ง”

เฉียวอี้พูดในโทรศัพท์มือถือเสียงดัง “เพื่อนธรรมดาอะไรกัน ? พวกเราเป็นพี่น้องกัน เป็นประเภทที่ว่าสนิทมากกว่าพี่น้องแท้ๆ ซะอีก !”

เฉียวอี้เสียงดังจนฉันปวดหัว ฉันเลยบอกเขาว่าคืนนี้ฉันจะกลับบ้านตระกูลสีก่อน มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน

ฉันเป็นคนที่เจอเรื่องตกใจแท้ๆ แต่ฉันกลับต้องมาปลอบเขาซะงั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)