พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 389

บรรดานักข่าวพากันส่องลำกล้องมาที่ฉัน เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน แสงแฟลชของพวกเขาจึงสว่างมากเป็นพิเศษ พวกเขาเอาแต่ถ่ายรูปฉันไม่หยุด ราวกับต้องการสาดแฟลชทำให้ฉันตาบอด

สีชิงชวนที่อยู่ข้างๆ ฉันถอดเสื้อคลุมของเขาออกมาคลุมหัวของฉันเอาไว้ และดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอดของเขาอย่างรวดเร็ว

ถึงมันจะรู้ปลอดภัยมากและรู้สึกอบอุ่นมาก แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกแปลกๆ นะ

ถ้าไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ถูกพ่อค้ามนุษย์ล่อลวงไปขาย ถูกช่วยเหลือออกมาอย่างยากลำบาก แล้วรู้สึกอับอายที่จะเจอผู้คน จนญาติที่อยู่ข้างๆ ต้องใช้เสื้อผ้ามาช่วยคลุมหัวให้เธอ

งั้นก็ต้องเป็นนักโทษที่ทำผิดมาแล้วถูกตำรวจจับได้ ถึงจะเอาถุงกระดาษมาครอบหัวของเขาเอาไว้เหมือนกัน

ในช่วงเวลาโกลาหลวุ่นวายแบบนี้ฉันก็ยังจะมาคิดเพ้อเจ้อได้อีกนะ ฉันละนับถือตัวเองเลยจริงๆ

ในขณะที่ศีรษะของฉันอยู่ในอ้อมอกของสีชิงชวน ฉันก็ได้ยินเฉียวอี้กำลังตะโกนใส่พวกเขาว่า “พวกคุณถ่ายอะไรกัน? พวกคุณมาจากสำนักข่าวไหน? ฉันขอบอกพวกคุณไว้เลยนะว่าอย่าได้เขียนอะไรมั่วซั่วออกไปเชียว”

ในเมื่อมีปาปารัซซีมากมายขนาดนี้มาแอบถ่ายฉันอยู่ที่นี่ พวกเขาต้องเขียนอะไรมั่วซั่วออกไปอย่างแน่นอน

และพวกเราเองก็ควบคุมเรื่องพวกนี้ไม่ได้เช่นกัน

ฉันขอแค่เซียวซือไม่เป็นอะไรมากก็พอ ถ้าเธอปลอดภัยดีฉันก็จะขอบคุณมาก

ฉันถูกเฉียวอี้กับสีชิงชวนจับยัดเข้ามาในรถ จากนั้นพวกเขาก็ประกบฉันซ้ายขวา เมื่อดึงผ้าม่านในรถขึ้นมาปิดแล้ว สีชิงชวนจึงปล่อยศีรษะของฉันออกมาจากอ้อมอกของเขา

เขาทำให้ผมของฉันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ฉันนั่งตกตะลึงมือไม้อ่อนด้วยสภาพหัวกระเซอะกระเซิง

เฉียวอี้ยื่นขวดน้ำเย็นมาให้ฉันทันที “ดื่มน้ำหน่อยจะได้ใจเย็นลง เซียวเซิง เธอไม่ต้องกลัวนะ เธอยังมีฉันอยู่! ”

ใช่แล้ว ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นฉันก็มีเฉียวอี้ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเธอก็ช่วยฉันแก้ปัญหาตลอด

สีชิงชวนเคยคิดจะให้เฉียวอี้แสร้งทำเป็นไม่สนใจฉัน จะได้ทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง

แต่ตอนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นกับฉันแล้ว เขาก็จะคอยเป็นโล่กำบังให้ฉันด้วยใช่ไหม?

ถ้าวันหนึ่งฉันเสียพวกเขาไป ฉันก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะเป็นยังไง จะกลายเป็นคนที่อ่อนแอยิ่งกว่าเดิม และกลายเป็นเต่าหัวหดโดยสมบูรณ์ หรือกลายเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นมาได้กัน?

รถพยาบาลที่มีเซียวซืออยู่ในนั้นนำอยู่ด้านหน้าของพวกเรา เมื่อมีรถพยาบาลขับเปิดทางให้ แม้แต่ไฟแดงก็ไม่จำเป็นต้องรอ และมาถึงโรงพยาบาลได้โดยไม่มีอะไรติดขัดตลอดทั้งทาง

ฉันยืนอยู่ที่ประตูรถของพวกเรา มองดูเซียวซือถูกเจ้าหน้าที่พยาบาลยกเธอลงจากรถแล้วยกเธอเข้าประตูโรงพยาบาลไป

ในช่วงหลายวันมานี้เซียวซือเข้าโรงพยาบาลบ่อยมากๆ จริงๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่วันก็เข้าๆ ออกๆ หลายครั้งแล้ว และร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งด้วย

เธอถูกพาเข้าไปในห้องฉุกเฉินเพื่อทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ส่วนพวกเราก็รออยู่ด้านนอก

เฉียวอี้บอกให้ฉันนั่งรอ แต่ฉันจะให้นั่งรอทั้งๆ ที่ร้อนใจอยู่อย่างนี้ได้ยังไงกัน?

ฉันเดินไปเดินมาอยู่หน้าประตูห้องฉุกเฉิน แต่แทนที่ฉันจะทำให้คุณหมอเดินออกมาจากด้านใน กลับทำให้ตำรวจเดินออกมาแทน

ตำรวจหลายนายเดินเข้ามาหาฉัน และถามฉันตรงๆ “คุณคือเซียวเซิงใช่ไหม! ”

ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาอธิบาย ฉันก็รู้แล้วว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เป็นไปได้อย่างมากว่าเซียวหลิงหลิงเป็นคนแจ้งตำรวจ

ฉันพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความตื่นตระหนก “ใช่ค่ะ ฉันเองค่ะ”

สีชิงชวนกับเฉียวอี้ดีดตัวขึ้นมาจากเก้าอี้มายืนอยู่ข้างๆ ฉันทันที พวกเขายืนชิดฉันมากราวกับเป็นผู้พิทักษ์มือซ้ายและมือขวาของฉัน

สีชิงชวนเอ่ยถามออกไปแทนฉัน “มีเรื่องอะไรเหรอครับ? ”

นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้เห็นหลอดไฟแบบนี้ ฉันคิดว่าเลิกผลิตไปแล้วสักอีก!

ในห้องไม่มีหน้าต่างเลย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นนักโทษสถานหนักเสียแล้ว

ยังดีที่พวกเขาไม่ได้ให้ฉันนั่งบนเก้าอี้ที่จะล็อกมือและเท้าเอาไว้ เป็นเพียงเก้าอี้ธรรมดาๆ ทั่วไปเท่านั้น

พวกเขาสั่งให้ฉันนั่งลงด้วยท่าทีจริงจัง ฉันก็ก้มหน้าพลางนั่งลง เหมือนเป็นการก้มหน้ายอมรับความผิด

“เซียวเซิง มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง? คุณต้องเล่าตั้งแต่ต้นจนจบด้วยความซื่อสัตย์ห้ามปิดบังเด็ดขาด”

แน่นอนว่าฉันต้องเล่าออกไปอย่างซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ฉันเริ่มเล่าตั้งแต่เข้าไปที่ตระกูลเซียวอย่างไร ฉันขึ้นไปข้างบนอย่างไร พูดคุยกับเซียวซืออย่างไรบ้าง หลังจากนั้นเธอก็อารมณ์ไม่คงที่จนเวลาต่อมาเธอก็ตกลงไปข้างล่าง ฉันเล่ารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมด จนถึงขนาดที่แม้แต่เครื่องหมายวรรคตอนก็ยังอยากใส่ให้บรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย

พวกเขาคนหนึ่งบันทึกเสียง ส่วนอีกคนหนึ่งใช้ปากกาจดบันทึก ฉันอยากลองดูมากๆ ว่าพวกเขาตกหล่นตรงไหนไปบ้างหรือเปล่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเงยหน้าขึ้นมามองฉัน “เมื่อสักครู่นี้คุณบอกว่าเซียวซือจงใจตกลงไป เพราะต้องการโยนความผิดให้คุณอย่างนั้นเหรอ? ”

ฉันไม่เคยพูดว่าเธอต้องการโยนความผิดให้ฉันเลย ฉันจึงรีบโบกมือและเอ่ยว่า “เซียวซือน่าจะอารมณ์ไม่คงที่ ในตอนที่กำลังยื้อยุดกับฉัน เธอก็พลิกตกลงไปจากราวจับ”

“คุณหมายความว่าเธอตกลงไปเอง คุณไม่ได้ผลักเธอใช่ไหม? ”

“ใช่ค่ะ ฉันจะผลักเธอทำไม? ”

“แต่ตามที่ผู้แจ้งความบอกมาคือคุณเป็นคนผลักเซียวซือลงไปนะ”

“คนแจ้งความคือเซียวหลิงหลิงใช่ไหมละคะ เธอพูดจาซี้ซั้วแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว จริงสิ บนระเบียงนั่นมีกล้องวงจรปิดอยู่ และน่าจะถ่ายเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเอาไว้หมดแล้ว พวกคุณสามารถไปเช็กกล้องวงจรปิดดูได้ค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)