พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 426

ฉันคิดกับเธอเป็นพี่สาวคนหนึ่งเสมอ แต่เธอกลับเห็นฉันเป็นศัตรู ฉันมองว่าเธอเป็นคนดีมาตลอด แต่เธอกลับเห็นฉันเป็นคนโง่

ฉันหมดคำจะพูด แต่ฉันจะไม่เป็นลูกแกะให้เธอเชือดอย่างที่เคยอีก

ที่จริงแล้วการประชุมครั้งนี้เป็นงานบังหน้า จัดต่อไปไม่ได้แล้ว

เมื่อฉันกลับไปถึงห้องทำงานก็รีบโทรหาหนีอีโจวทันที ให้เขามาที่บริษัทฉัน

หนีอีโจวใช้เวลาไม่นานก็มาถึง ฉันเอาข้อตกลงโอนกรรมสิทธิ์ให้เขาดู หลังจากอ่านเสร็จก็บอกฉันว่า "ไม่มีอะไรผิดปกติ ส่วนข้างบนก็เป็นลายเซ็นของเธอจริงๆ"

ฉันไม่ยินยอม "จะฉันปล่อยเซียวซื่อกรุ๊ปไปอย่างนี้เหรอ"

ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงไม่สนใจ แต่ตอนนี้ฉันได้เห็นหน้ากากจอมปลอมของเซียวซือแล้ว ฉันไม่ยินยอมให้เธอเอาของของฉันไป

เธอไม่ได้เอาไป แต่เธอฉวยมันไป นั้นคือของที่คุณพ่อให้ฉัน และเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเอามันไป

"แต่" ฉันพูดกับหนีอีโจว "ฉันจำได้ว่าตอนฉันเซ็นไม่มีเอกสารสองสามหน้านี้เลย เธอต้องเพิ่มเข้าไปทีหลังแน่นอน"

ฉันนึกได้กะทันหันว่าหลังจากที่ฉันเซ็นชื่อ วันรุ่งขึ้นฉันก็ยังไม่ค่อยสบายใจ จึงเอาให้หนีอีโจว ขอให้เขาช่วยดูให้

เมื่อเขาบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรฉันถึงโล่งใจ

แต่ถ้าข้อตกลงโอนกรรมสิทธิ์สองหน้านี้ถูกเพิ่มเข้าไปทีหลัง ทำไมหนีอีโจวจะดูไม่ออก?

"คุณดูให้ดีๆ อีกรอบ" ฉันบอกเขา "เมื่อตอนที่ฉันเอาข้อตกลงนี้ให้คุณดู ไม่มีข้อตกลงโอนกรรมสิทธิ์แน่นอน ตอนนั้นคุณก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนนี้คุณบอกว่าข้อตกลงโอนกรรมสิทธิ์นี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ยังไงก็ต้องมีที่ไหนสักที่มีปัญหาสิ"

"เซียวเซิง" หนีอีโจวจับมือฉัน "ไม่ต้องตื่น ใจเย็นๆ ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรกับข้อตกลงนี้ จากมุมมองของมืออาชีพทางกฎหมายแล้ว ข้อตกลงนี้ไม่มีปัญหาอะไรเลย"

ฉันเอาข้อตกลงโอนกรรมสิทธิ์กระท่อมไม้หลังเล็กที่แม่เลี้ยงเคยให้เซ็นออกมา เมื่อเอาลายเซ็นทั้งสองมาเปรียบเทียบ ลายเซ็นทั้งสองเหมือนกันอย่างกับแกะ

“พวกเขาต้องเล่นตุกติกในข้อตกลงใดข้อตกลงหนึ่งแน่นอน”

“แต่มันก็อธิบายอะไรไม่ได้เลย? นอกจากบอกว่าลายเซ็นบนนั้นเป็นของคุณจริงๆ แล้วยังอธิบายอะไรได้อีกล่ะ?”

สิ่งที่หนีอีโจวพูดดูเหมือนจะมีเหตุผล แต่ก็เหมือนจะไม่มีเหตุผลเช่นกัน

ทุกอย่างทำให้ฉันสับสนไปหมด

ฉันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้ ฉันจะหลงกลพวกเขาอย่างสับสนมึนงงแบบนี้ไม่ได้

หากหนีอีโจวบอกว่าไม่มีปัญหา ฉันก็ไปถามหาจากทนายคนอื่นๆ ดู

ถึงทุกคนจะบอกว่าไม่มีปัญหา ฉันก็ไม่ยอม ถึงแม้ว่าจะต้องฟ้องยังไงก็จะฟ้องแน่นอน

ทันใดนั้นก็มีคนมาเคาะประตู เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความสงบสองสามคนเดินเข้ามาหาฉันและพูดว่า "เซียวเซิง ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ขอให้คุณเก็บข้าวของ เชิญออกจากเซียวซื่อกรุ๊ปไป!"

“ฉันไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงนั้น พวกคุณไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉันออกไปแบบนี้”

“อะไรแบบนี้ไม่ต้องมาบอกเรา พวกเราแค่ทำตามคำสั่งของท่านประธาน”

“ฉันต่างหากที่เป็นประธาน อย่ามาคิดไล่ฉันด้วยแผนชั่วร้ายพวกนี้!”

ฉันไม่สนใจว่าตอนนี้จะดูดีหรือเปล่า แต่การโน้มน้าวของหนีอีโจวทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูก

บวกกับที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังรีบเร่ง ตอนนี้ฉันก็ทำได้แค่ออกจากเซียวซื่อกรุ๊ปไปก่อน

เรียกได้ว่าฉันออกจากเซียวซื่อกรุ๊ปอย่างเศร้าหมอง และมีสื่อมากมายรออยู่ที่หน้าประตูของเซียวซือ

โชคดีที่ฉันไม่ได้เอาอะไรออกจากเซียวซื่อกรุ๊ป ฉันแค่หิ้วกระเป๋าตัวเองออกมาจากเซียวซื่อกรุ๊ป ทันทีที่ไปถึงประตู ฉันก็ถูกนักข่าวไล่และขวางเอาไว้

พวกเขามองฉันอย่างรอดูเรื่องอื้อฉาว และฉันรู้ว่าพวกเขาไม่ชอบฉันมาตลอด

ตอนนี้บางสื่อก็เป็นแบบนี้ รอซ้ำเติมคนตกอับ

ใครที่ตกอยู่ในสถานะอ่อนแอก็จะโจมตีคนนั้นอย่างรุนแรง

หนีอีโจวพาฉันออกจากฝูงชนที่จอแจ และคำถามรุนแรงของนักข่าวเหล่านั้นยังดังก้องอยู่ในหูของฉัน

"เซียวเซิง ขอทราบได้ไหมว่าคุณเซ็นข้อตกลงนั้นด้วยความเต็มใจหรือไม่? หรือว่าคุณเซ็นโดยที่ไม่รู้อะไร"

“ทนายของคุณไม่ได้บอกเหรอว่าอย่าเซ็นสัญญาหรือข้อตกลงง่ายๆ”

"คนข้างๆ คนนี้เป็นทนายของคุณหรือเปล่า เขาดูฉลาดมาก"

ฉันหยุดและมองไปที่ใบหน้าของนักข่าวพวกนี้ แม้ว่าทุกคนจะยิ้มแย้ม แต่ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มนี่มีแต่เสียงเยาะเย้ย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)