พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 135

ตอนที่ 135 ฮูหยินละ

จวนเฉิงเสี้ยงมีสวนดอกไม้สองแห่ง ด้านหน้า 1 สวน ด้านหลังอีก 1 สวน

ด้านหน้าใหญ่ไม่เท่าด้านหลัง สวนดอกไม้ทั้งสองแห่งมีสระน้ำอยู่ 1 สระ เพียงแค่เว้นระยะห่างของสิ่งปลูกสร้างไว้เท่านั้น

สวนดอกไม้ด้านหลังมีสิ่งปลูกสร้างที่ถูกสร้างขึ้นมาในเวลาต่อมา ฮุบเอาพื้นที่ของประชากรมาสร้าง เรื่องนี้เคยเกิดการทะเลาะเบาะแว้งขึ้นมาก่อน แต่ต่อมานายหญิงแก่ได้ล้วงเงินออกมาซื้อด้วยตัวเอง ข่าวครางจึงได้เงียบหายไป

สวนดอกไม้ด้านหลังมีป่าไผ่อยู่แห่งหนึ่ง ป่าไผ่แห่งนี้เคยมีอยู่มาก่อน เพียงแต่สร้างกำแพงล้อมรอบจวนเฉิงเสี้ยงไว้เท่านั้น เมื่อทำการล้อมรอบแล้ว หลังจากนั้นก็ทำการสร้างศาลาไว้สองสามหลังตรงสวนดอกไม้ด้านหลัง สร้างภูเขาจำลองในสระน้ำ

แต่หลายปีมานี้สวนดอกไม้ด้านหลังแห่งนี้มีคนมาแวะเยี่ยมชมน้อยมาก เพราะในป่าไผ่มีงูพิษอาศัยอยู่ เฉิงเสี้ยงเสี้ยก็เคยออกคำสั่งให้ไปจัดการ แต่ก็ไม่จบสิ้นเสียที ยิ่งนานวันเข้า ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามา

เมื่อสักครู่หลิงหลงฮูหยินก็มีคนมารายงาน บอกว่าหลี่ซื่อมาที่นี่ ดังนั้นนายหญิงแก่จึงต้องมาที่นี่ด้วย หากเปลี่ยนเป็นวันปกติละก็ นางไม่มีทางมายังสวนดอกไม้ด้านหลังแห่งนี้แน่นอน

วันนี้มีการแสดงละคร ทำให้หลี่ซื่อได้ออกไป เพราะตอนนี้นางได้สูญเสียการมองเห็นแล้ว อีกทั้งนางก็ไม่ชอบการไปมาหาสู่กับผู้อื่นอีกด้วย ดังนั้นถึงนางจะได้ออกไป นางเองก็ทำได้เพียงแค่นั่งอยู่ในศาลาอยู่เพียงผู้เดียว

นางวางแผนจะให้เฉินเอ้อเข้าไปพัวพันกับหลี่ซื้อ เมื่อมีคนเขาได้ยินเสียงทะเลาะเบาะแว้งของพวกนาง เฉินเอ้อได้เปิดเผยเรื่องส่วนตัวระหว่างเขากับหลี่ซื่อ ทำให้คนฮือฮากัน ก่อนจะเข้าสู่แผนการขั้นที่สอง

แต่หลี่ซื่อไม่ออกมา ความคิดนี้จึงไม่เป็นผล นางพยายามเปลี่ยนความคิด ด้วยการพูดเรื่องไม่ดีต่อหน้าชุยไท่เฟยและนายหญิงแก่ ดึงดูดให้นายหญิงแก่และชุยไท่เฟยเข้ามาเป็นพวก หลังจากนั้นก็ดึงดูดหยางมามา และให้เฉินเอ้อเข้ามามีส่วนร่วมด้วย จากนั้นก็เริ่มเกมส์ที่มันไม่สำเร็จเมื่อครั้งที่แล้วอีกครั้ง

เช่นนั้น นางพาชุยไท่เฟยและนายหญิงแก่เฉินเดินเข้าไป ตามแผนการที่วางไว้

ดังนั้น ในตอนที่ชุยไท่เฟยให้นางพาหลี่ซื่อออกมานั้น นางได้โต้แย้งกลับไป เพราะก่อนที่หลี่ซื่อจะออกมานางได้ถูกไท่เฟยตำหนิยกใหญ่ จนหลี่ซื่อต้องกลับไปยังลานเสี้ยจื้อ ส่วนตัวเองก็ไม่มีข้ออ้างพาไท่เฟยไปเดินเข้าไปหาแต่อย่างใด

แต่ นึกไม่ถึงว่าหลิงหลงฮูหยินจะมาบอกว่าหลี่ซื่อจะไปยังสวนดอกไม้ด้านหลัง ฟ้าคงเป็นใจช่วยเหลือจวนเฉิงเสี้ยง ทำลายชื่อเสียงของหลี่ซื่อ

ในขณะที่ย่างเท้าอย่างเอ้อระเหยไปตามเส้นทางนี้ ทอดมองทัศนียภาพบนผิวน้ำ และทอดมองไปยังดอกไม้ในสวน นางสนมหลายนางเดินตามกันมาจากที่ไกล ๆ ผีเสื้อผึ้งน้อยบินดอมดมอยู่บนดอกไม้ เป็นภาพที่สวยสดงดงามมาเสียจริง

ทางด้านนั้น หลิงหลงฮูหยินที่เจ้าเล่ห์เหลี่ยมเพทุบายชอบกลั่นแกล้งผู้อื่นได้พาผู้มียศถาบรรดาศักดิ์กลุ่มหนึ่งเดินเข้าไปในสวนดอกไม้ บอกว่าจะพาทุกคนไปดูดอกโบตั๋นและดอกเบญจมาศที่เพิ่งจะเบ่งบานออกมาใหม่

เสี้ยโล่เยว่และเสี้ยฟางเอ๋อร์กำลังสนทนาเกี่ยวกับแผนการของพวกนางเป็นการส่วนตัว เสี้ยฟางเอ๋อร์เกิดความรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันใด เดิมทีนางนั้นเป็นคนที่ชอบยั่วยุมาก และชอบมองทุกคนเป็นคนน่ารังเกียจและน่าขบขันที่สุด ดังนั้น ทั้งสองคนก็นำคุณหนูตระกูลสูงส่งเหล่านั้นเดินเข้าไปสวนดอกไม้ด้านหลัง

หลังจากที่เฉินเสี้ยงเสี้ยไปรับอ๋องเหลียงมาแล้ว ก็ทำการบอกกล่าวว่าด้านหลังสวนดอกไม้นั้นมีป่าไผ่อยู่แห่งหนึ่งบรรดานักศิลปะและนักประพันธ์ชื่นชอบป่าไผ่เป็นที่สุด เมื่อเสนอว่าจะพาไปดู เฉิงเสี้ยงเสี้ยย่อมพาพวกเขาไปเยี่ยมชมอย่างเบิกบานใจ

ถ้าเช่นนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งสี่คนก็เดินเข้าไปยังสวนดอกไม้ด้านหลัง

หลีโม่มองคนเหล่านี้จากด้านหน้าของระเบียงทางเดิน พร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากออกมาอย่างเย็นชา

เฉินหลิ่วหลิ่วมองไปทางทุกคนไปยังสวนดอกไม้ด้านหลัง ด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยสนใจนัก “องค์ชายเหล่านั้นล้วนแต่โอบล้อมนาง”

หลีโม่ยิ้มน้อยๆ “เจ้าอยากจะไปเล่นกับพวกเขาไหม?”

“ไม่อยาก แต่หากไม่เล่นก็คงจะหาสามีไม่ได้” เฉินหลิ่วหลิ่วพูดขึ้นด้วยความโดดเดี่ยว

หลีโม่มองไปทางดวงตาที่แปรเปลี่ยนเป็นโศกเศร้าเสียใจอย่างรวดเร็วของนาง “หลิ่วหลิ่ว จริงๆแล้วเจ้าไม่จำเป็นต้องเชื่อเรื่องโชคชะตาอะไรก็ได้นะ”

เฉินหลิ่วหลิ่วมองไปทางนาง “ข้าไม่รู้ แต่ข้าเชื่ออย่างลึกซึ้งมาโดยตลอด ข้าไม่อยากตาย โลกใบนี้ยังมีความงดงามอีกมากมายที่รอข้าอยู่”

หลีโม่ขมวดคิ้ว “ข้าเคยพบเจอกับเซียวโธ่มาก่อน แต่ไม่รู้สึกว่าเขาจะชอบแม่นางที่จับเข็มเย็บปักถักร้อยแต่อย่างใดเลย”

“งั้นแสดงว่าเขารังเกียจข้า หาข้ออ้างที่จะปฏิเสธข้า” นางเดินไปพลางพูดไปพลาง พร้อมกับชำเลืองมองไปรอบทิศทาง “จะว่าไปแล้วทำไมจวนเฉิงเสี้ยงถึงได้ใหญ่มากมายเช่นนี้ละ? นี่เราก็เดินกันมานานมากแล้ว ยังไม่เห็นสวนดอกไม้ด้านหลังแต่อย่างใดเลย”

“ใหญ่มากจริงๆ” หลีโม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องของการฮุบที่ดินของผู้อื่นมา แล้วใช้สิ่งที่เรียกว่าเงินอุดปากไว้ แต่นายหญิงแก่ได้เชิญเจ้าของทรัพย์สินเหล่านั้นมา ในฐานะที่โดนรังแกและกดขี่ จึงทำการให้เงินทองเล็กๆน้อยๆไป เป็นอุปสรรคต่อจวนเฉิงเสี้ยง ชาวบ้านเหล่านั้นจึงทำได้เพียงแค่โกรธแต่ไม่กล้ากล่าวคำใดออกมา

เมื่อทำการสอบถามแล้ว จวนเฉิงเสี้ยงไม่มีความสมเหตุสมผลสักนิดเดียว

ก่อนหน้านั้นประมาณครึ่งชั่วยาม หยางมามาได้พาหลี่ซื่อเดินเข้าไปยังสวนดอกไม้ด้านหลัง

หลังจากที่เดินไปสักพัก หลี่ซื่อก็บอกว่าเหนื่อยแล้ว หยางมามาจึงช่วยประคองนางเข้าไปพักผ่อนห้องพักส่วนตัวของในสวนดอกไม้ด้านหลัง

ห้องพักส่วนตัวอยู่ด้านหน้าของป่าไผ่ ปกติแล้วที่แห่งนี้จะมีคนเข้ามาใช้บริการน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งงูเขียวหางไหม้ ที่อยู่ทางด้านป่าไผ่แห่งนั้น ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถกำจัดออกไปได้ เหล่าบ่าวก็ไม่เข้ามาเฉียดใกล้แต่อย่างใด

หลังจากที่ประคองหลี่ซื่อเข้าไปพักในนั้นแล้ว หยางมามาก็นั่งลงในศาลาด้านนอกของห้องพักหลังนั้น พร้อมกับนำถุงกระดาษออกมาจากอ้อมแขน ซึ่งห่อขนมไว้อยู่ในนั้น นางยังไม่ได้ทานอาหารเช้าของวันนี้เลย นางจึงได้นั่งทานขนมอยู่ในศาลาแทน

เมื่อทานขนมไปได้แค่ 1ชิ้น ก็เห็นชุ่ยยุ่นกูกูที่คอยติดตามข้างกายของนายหญิงแก่เดินเข้ามา “นี่ใช่หยางมามาใช่หรือไม่?”

หยางมามาขมวดปมคิ้ว ก่อนจะกวาดสายตามองไปทางชุ่ยยุ่นกูกู โดยไม่พูดอะไร

ชุ่ยยุ่นกูกูถือที่ตระกร้าอยู่ในมือขึ้นมา “หยางมามามาทำอะไรที่นี่หรือ? ฮูหยินละ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม