พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 402

ตอนที่ 402 กำหนดวันแต่งงาน

เช้าตรูเมื่อดำเนินเรื่องอย่างเป็นทางการ ซือถูเย้นเรียกใต้เท้าชุยเข้าเฝ้า “ได้ยินฮองไทเฮากล่าวว่าเจ้าเสนอเหลียงสู้หลินให้ขึ้นเป็นพระราชบุตรเขย ใช่หรือไม่?”

ใต้เท้าชุยตอบรับ “พ่ะย่ะค่ะ องค์ชายได้ทราบแล้วหรือเพคะ? แม่ทัพเหลียงกระตือรือร้นนัก ซื่อสัตย์และจิตใจดี ที่สำคัญเขายังมีความสัมพันธ์ธ์ลึกซึ้งกับองค์หญิงเช่นกัน”

ซือถูเย้นยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ฟังคำชมไม่ขาดปากของใต้เท้าชุย เล่นแหวนหยกที่อยู่ในมือ “ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าท่านใต้เท้าชุยรู้จักกับตระกูลเหลียงด้วย”

ใต้เท้าชุยสะดุ้งโหยง โบกไม้โบกมือปฏิเสธ “ท่านอ๋องโปรดอย่าเข้าใจหม่อมฉันผิด ข้าน้อยมิได้ไปมาหาสู่กัน เพียงแต่แม่ทัพเหลียงผู้นี้เคยช่วยชีวิตหม่อมฉัน หม่อมฉันจัดเลี้ยงเพื่อเป็นการขอบคุณ แต่เขามิอาจมาได้ หม่อมฉันเชิญอยู่หลายที จากนั้นก็ได้เจรจาหารือกัน จึงได้รู้ว่าเขาเป็นคนของตระกูลเหลียงที่ไม่ได้สละสำคัญแต่อย่างใด เพราะไถ้ฝู้ไม่ชอบพอเขาเท่าไหร่นัก มีเพียงความกดดันย่ำเหยียบ”

“เคยช่วยชีวิตเจ้าหรือ? เกิดเรื่องอันใดขึ้นเล่า?” ซือถูเย้นจ้องไปที่เขา รอคอยคำตอบ

ใต้เท้าชุยกล่าว “เมื่อสามวันก่อนหม่อมฉันกำลังกลับจวนถูกลอบสังหาร โชคดีที่เหลียงสู้หลิน บังเอิญผ่านมาพอดิบพอดี ต่อสู้กับผู้ลอบสังหารช่วยชีวิตหม่อมฉันเอาไว้ ไม่เช่นนั้นเกรงว่าหม่อมฉันจะเกิดเป็นโศกนาฏกรรมอันโดดเดี่ยว”

“มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ? ” ซือถูเย้นเริ่มขุ่นเคือง “บุตรสวรรค์บนดิน กล้าประทุษร้ายขุนนางของแคว้นต้าโจวเชียวรึ จับผู้ลอบสังหารได้หรือไม่? ”

“จับไม่ได้เพคะ หนีไปเสียได้” ใต้เท้าชุยกล่าวอย่างไม่ถือสาอะไร “ไม่เป็นอันใด หน้าที่ของข้าต้องตัดสินโทษผู้คน มีคนใช้เงินลอบวางทำร้ายถึงชีวิตก็ไม่แปลก”

“เรื่องจำพวกนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้นหรือไม่” ซือถูเย้นถาม

” ไม่เคยขอรับ นี่เป็นครั้งแรก ดังนั้นหม่อมฉันจึงไม่ทันได้ระวัง”

“คราวหน้าก็ระวังให้มากเสียหน่อย ข้าจะสั่งให้คนตามคุ้มกันความปลอดภัยของใต้เท้า อ่อ ใช่แล้ว เจ้ากล่าวว่าเขาและองค์หญิงสนิทสนมกัน เล่าลือมาจากที่ใด? ” ซือถูเย้นถามขึ้น

ใต้เท้าชุยกล่าวอย่างยิ้มๆ “คืนนั้นหม่อมฉันได้พูดคุยกับเขาอย่าลึกซึ้ง จึงได้รู้ว่าเขาชื่นชมในตัวองค์หญิงมาตลอด แต่รู้ตัวว่าตนอยู่ในฐานะต่ำศักดิ์ มิกล้าตีตนสนิทสนม เพราะในใจของเขามีเพียงองค์หญิงจึงไม่แต่งงานกับผู้ใด เป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งเหลือเกิน”

“เขาวานให้เจ้าเสนอเป็นพระราชบุตรเขยหรือ? ”

“มิใช่พ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่ว่าหลังจากที่ได้ฟังเขากล่าวคำเหล่านี้ออกมา หม่อมฉันจึงถามเขาว่าจนบัดนี้ยังอยากสมรสกับองค์หญิงหรือไม่ เขากล่าวว่าเป็นความหวังที่มีมาตลอด แต่เขาทราบดีว่าฮองไทเฮามองไม่เห็นเขาจึงไม่กล้าเสนอตนออกไป เหตุนี้หม่อมฉันจึงส่งหนังสือถึงฮองไทเฮา และถือโอกาสทดแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิต”

ซือถูเย้นพยักหน้า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”

หลังจากนั้นเขาก็ถามถึงเหตุการณ์ที่โดนลอบฆ่าอย่างละเอียด หลังจากถามไถ่เสร็จสรรพเขาก็มีแผนในใจทันที

หลังจากเสด็จออกจากตำหนัก เขาให้จื่นเฉิงออกไปตรวจสอบเรื่องนี้ในกลางดึก

“ท่านอ๋องอยากรู้ว่าผู้ใดผู้เบื้องหลังการลอบฆ่าหรือพ่ะย่ะค่ะ? ” จื่นเฉิงถาม

“ถูกต้องแล้ว ใต้เท้าชุยกล่าวว่าศิลปะการต่อสู้ของผู้ลอบฆ่าผู้นั้นไม่ได้ฝีมือสูงมากนัก เขาไม่มีความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้ถ่องแท้ สู้อยู่ไม่กี่ทีก็หนีไป การต่อสู้ของเหลียงสู้หลินนั้นทำให้เขาบาดเจ็บแต่กลับหนีไปเสียได้ ไม่น่าสงสัยไปหน่อยหรือ? ”

จื่นเฉิงพูดต่อ “ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเป็นกังวลต่อใต้เท้าชุย เหตุนี้จึงตามไปจับผู้ลอบฆ่าไว้ไม่ทัน”

“ใต้เท้าชุยไม่มีบาดแผล ทั้งยังสั่งคนให้มาดูแล และไม่ต้องตามไป เหลียงสู้หลินต่อสู้ฝีมือดี ทหารวังสามสี่คนไม่แม้กระทั่งเข้าไปหาเขา การต่อสู้ของนักลอบสังหารโดยปกติเขาไม่ต้องออกแรงถึงสิบกระบวนท่าก็ควรจะจับตัวได้แล้ว”

“ถ้าเช่นนั้นก็เป็นการแสดง ใต้เท้าชุยไม่ประสีประสาการต่อสู้ ดังนั้นจึงดูสถานการณ์ไม่ออก” จื่นเฉิงตบมือฉาดใหญ่ “หม่อมฉันจะไปตรวจสอบประเดี๋ยวนี้”

ต้องตรวจสอบเหตุการณ์ในคืนนั้น ไม่ได้ยากเย็นนัก จื่นเฉิงไปพบใต้เท้าชุยเพื่อวาดบรรยายลักษณะของผู้ลอบสังหารที่ตามเขาในคืนนั้น จากนั้นไปพบตันชิงเสี้ยนจู่เพื่อวาดรูปลักษณะออกมา ใต้เท้าชุยให้การณ์ว่าผู้ร้ายได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังไม่มีตราประทับออกเมือง เช่นนั้นคนผู้นี้จึงยังอยู่ในเมือง หากมีบาดแผลจักต้องไปหาหมอรักษาอย่างแน่นอน ตรวจสอบที่จวนหลายหลังของแพทย์ จากนั้นก็ได้ตัวผู้ที่คล้ายกับรูปที่ให้การ

ผู้นี้พักอยู่ที่โรงแรมตงหลาย เป็นคนซุยโจว จากการพกตราสำมะโนครัวประชากรซุยโจว เข้าเมืองนี้มาเป็นเวลาครึ่งปีกว่าแล้ว ทุกเดือนจะไปที่ศาลว่าการเพื่อประทับตราอย่างต่อเนื่อง นั้นหมายความว่าผู้นี้วางแผนจะอาศัยอยู่ในเมืองนี้

เมื่อจื่นเฉิงตรวจสอบดู เขาแทบไม่ได้ทำสิ่งใด และไม่ได้ทำงาน แต่ในทุกๆ เดือนเขามีเงินพอกับค่าใช้จ่าย กินอยู่เสื้อผ้าหรูหรามั่งมี ราวกับมีคนเลี้ยงดู

แต่ต้องหาวงศ์ตระกูลเพื่อนาง ตระกูลของเขาให้กำเนิดคนโง่เง่ามายี่สิบกว่าปีแล้ว

เหลียงสู้หลินตอบกลับไปทันที “พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันมีใจให้องค์หญิงมานานแล้ว หากหม่อมฉันได้สมรสเป็นสามีภรรยากับองค์หญิง หม่อมฉันก็มิอาจลังเล”

ฮองไทเฮาพยักหน้าด้วยความพออกพอใจ “เช่นนั้น หากเจ้าได้สมรสกับองค์หญิง ต้องพำนักอยู่ในตำหนักขององค์หญิง และออกห่างมาจากตระกูลเหลียงมาเพียงผู้เดียว เงินทองหรือแม้แต่สมบัติใดก็ตามก็มิอาจเอามาได้ เจ้ายินยอมหรือไม่? ”

เหลียงสู้หลินตอบรับ “หม่อมฉันยินยอม! ”

ฮองไทเฮาเผยยิ้มเล็กน้อย “ดี เจ้ากลับไปเตรียมตัวเสียก่อน ข้าจะสั่งคนให้ไปจัดเตรียม วันพรุ่งตอนเช้าตรู่จะประกาศออกไปให้ประชาชนได้ทราบ เรื่องวันสมรสจะจัดในวันถัดไป อาจกระทันหันไปเสียหน่อยแต่เจ้าก็รู้ดีว่ามันมิอาจเลี่ยงไปทางอื่นได้อีก”

“หม่อมฉันไม่สนใจว่างานแต่งงานจะยิ่งใหญ่หรือไม่ เป็นห่วงแต่เพียงเจ้าสาวเท่านั้น” เหลียงสู้หลินกล่าวอย่างหนักแน่นแต่นุ่มนวล ในดวงตามีหยาดน้ำตาคลอ

ฮองไทเฮาเห็นดังนั้น เขารักองค์หญิงมากเสียจริง ถอนหายใจแผ่วเบา “เอาเถอะ เจ้าไปเตรียมตัวเสีย”

แม้ว่าคนผู้นี้จะไม่ใช่คนที่องค์หญิงชอบพอ แต่เขาชอบพอซือถูจิ้ง นั้นดีกว่าคนที่เข้ามาเพราะแก้วแหวนเงินทองเสมอ ซือถูจิ้งนั้นเป็นหญิงสาวจิตใจบริสุทธิ์ นางชื่นชอบเรื่องราวที่จริงใจ

หลังจากที่เหลียงสู้หลินออกไป ฮองไทเฮาก็มองไปที่ซือถูเย้น “ถ้าเช่นนั้นเรื่องนี้ก็ตกลงตามนี้? ”

“เสด็จแม่เป็นพี่สะใภ้ของท่านอา ท่านและเสด็จอาพูดสิ่งใดนับเป็นที่สิ้นสุด” ซือถูเย้นแย้มยิ้ม

ฮองไทเฮาจ้องมองเขา “เจ้ายิ้มพิลึกมีเลศนัย ข้าว่าเจ้าเก็บอันใดไว้”

ซือถูเย้นหัวเราะร่า “เสด็จแม่ ลูกเพียงยิ้มเพราะดีใจ ท่านอาจจะได้แต่งงานเชียวนะ”

หลังพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืนและขอตัวลา ก้าวออกประตูตำหนักก็พบซุนกงกง ซุนกงกงโค้งคำนับซือถูเย้น เขาหยุดยืนมองซุนกงกง “กงกงกำลังมองว่าท่านอาซือถูจิ้งโตขึ้นแล้ว ใช่หรือไม่? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม