ตอนที่ 403 อ๋องเย่
ซุนกงกงพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง หม่อมฉันดูแลท่านอ๋องและองค์หญิงมาจนเติบใหญ่ หม่อมฉันยังจำเมื่อครั้งองค์ชายยังอายุได้ห้าปี ในตำหนักของไทเฮากล่าวว่าอยากปัสสาวะได้พุ่งไกลกว่าหม่อมฉันและไม่ว่าผู้ใดก็ตาม”
ซือถูเย้นสำลักจนไอ ปั้นสีหน้าแก้เก้อ “เรื่องนี้มันก็ผ่านมานานแล้วและข้าคิดว่ากงกงจำผิดมาตลอด ที่กงกงพูดถึงคือท่านพี่สาม เขาค่อนข้างขยันทำเรื่องเหล่านี้อยู่บ้าง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามอย่าไปพูดถึงเลย ข้าเพียงอยากถามเจ้าว่ายินดีที่จะทำเรื่องบางเรื่องเพื่อองค์หญิงหรือไม่? ”
ซุนกงกงพยักหน้า “หม่อมฉันยินดีไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม”
ซือถูเย้นกล่าว “เช่นนั้นก็ตกลง ” เขาก้าวเข้าไปหา กระซิบข้างหูซุนกงกง ซุนกงกงเผยสีหน้าตกใจ
“องค์ชายจะวางแผนเช่นนี้จริงหรือ? ”
“ถูกต้องแล้ว” ซือถูเย้นตอบ “เจ้าวางใจเถอะ หากเสด็จแม่จับได้ข้าจะรับแทนเจ้าเอง”
“หม่อมฉันไม่กลัว” ซุนกงกงเผยยิ้ม “หม่อมฉันอายุมากแล้ว ไม่สนใจสิ่งใดแล้ว”
ซือถูเย้นกล่าว “ถ้าเช่นนั้นข้าขอขอบคุณกงกงแทนองค์หญิง”
ซือถูเย้นก้าวออกไปได้สองก้าว ซุนกงกงพูดตามหลังเขาไป “องค์ชาย หม่อมฉันจำได้ท่าเป็นท่าน มิใช่อ๋องหลี่ชิน”
ซือถูเย้นถึงกับเซ รีบจ้ำเดินจากไปทันที
หลังจากออกมาจากตำหนัก ซือถูเย้นก็ออกคำสั่งกับจื่นเฉิง “เจ้าจงสั่งให้คนติดตามดูเหลียงสู้หลิน ดูว่าเขาไปที่ใด”
“พ่ะย่ะค่ะ” จื่นเฉิงรับสั่ง
วันนี้หลีโม่อารมณ์ดีอย่างมาก นางไปพบหูฮวนซีแต่ซือถูเย้นไม่รู้ วนตามหาไปทั่วตำหนักอ๋องเหลียงและตำหนักขององค์หญิงก็ไม่เจอตัวนาง องครักษ์จินมาเห็นเกิดเห็นใจจึงกล่าวออกไป “องค์ชายหาพระชายาอยู่ใช่หรือไม่เพคะ? นางไปที่ตระกูลหู”
ซือถูเย้นตอบด้วยอารมณ์คุกรุ่น “เจ้าไปรีบพูดเล่า”
“องค์ชายมิได้เอ่ยถาม” องครักษ์จินตอบอย่างใสซื่อ
“เหตุใดนางจึงไปที่ตระกูลหู? ” ซือถูเย้นไม่โต้เถียงเขาให้มากความ
“หม่อมฉันมิอาจทราบได้”
ซือถูเย้นคิดอยู่สักพักก่อนมุ่งไปยังที่ตระกูลหู
เพิ่งก้าวเข้าไปถึงหน้าประตูตระกูลหูก็พบหลีโม่ก้าวออกมา เขาดุทันที “คราวหลังหากเจ้าไปที่ใดบอกข้าเสียหน่อยได้หรือไม่ มีเรื่องด่วนจะมาพบเจ้าก็ไปหาไม่พบ เจ้าทำข้าร้อนรนจนจะตายอยู่แล้ว”
“มีเรื่องอันใดหรอกหรือ? ” หลีโม่เห็นเขาร้อนรนจนนั่งไม่ติดจึงถามออกไป
“แน่นอนว่าเป็นเรื่องด้วย ขึ้นรถม้าเสียก่อนข้าจะบอกเจ้า” ซือถูเย้นดึงนางขึ้นรถม้าทันทีไม่กล่าวความมากมาย
หลังจากขึ้นรถม้าแล้ว เขาบอกคำกำหนดการของฮองไทเฮาให้นางทราบ หลีโม่ได้ฟังแล้วจึงกล่าว “เป็นเรื่องที่ดีนี่นา นี่เป็นเรื่องด่วนหรือ? ”
“อื้อ นี่เป็นเรื่องด่วน ด่วนมากเสียด้วย” ในใจลึกๆ ของ ซือถูเย้นเถียงสะท้อนคำขึ้นมามากมาย บอกว่าเขาคิดถึงนางไม่ได้หรือ? คำเช่นนี้จะบอกออกไปไม่ได้ หากพูดไปละก็หมาป่าก็คงกระโดดขึ้นไปบนฟ้าได้ไปแล้ว
“เรื่องนี้มิใช่เรื่องด่วนอะไร กลับไปค่อยคุยกันก็ได้นี่นา” หลีโม่กล่าว
“เจ้ามาหาหูฮวนซีทำไมหรือ? ” ซือถูเย้นถาม
หลีโม่มองเขา “มาถามเรื่องบางเรื่อง”
“ถามว่าอย่างไร? ”
“เรื่องนี้ควรถามไถ่เสียนานแล้ว แต่ก็โดนเรื่องอื่นเข้ามาแทรกอยู่เสมอ บัดนี้นับว่าควรมาถามความคืบหน้า ข้าจึงนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้” หลีโม่จ้องมองเขาไม่วางตา
ซือถูเย้นถูกนางจ้องมองทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง “เรื่องใดกัน? ”
“เจ้ายังจำตอนที่เราแต่งงานกับได้หรือไม่? เรื่องที่ข้าถูจับตัวไป”
สีหน้าซือถูเย้นเปลี่ยนไปครู่หนึ่งก่อนกลับมาเป็นปกติ “เรื่องนี้หรือ? ข้าจำได้อยู่แล้ว ครานั้นข้าร้อนใจเกือบตาย”
“เรื่องนั้นข้าก็ไม่แน่ใจ ตอนเด็กเขาเคยขโมยของของข้าไป เขามีสหายมากมายและเขาก็ดีกับสหายของเขาเช่นกัน”
“ที่ข้ากล่าวคือเป็นพี่น้องลำดับที่เท่าใด? เขาดีกับเจ้าที่สุดหรือไม่? ” หลีโม่อดกลั้น แต่น้ำเสียงที่พูดออกมาแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
ซือถูเย้นยืดตัวขึ้น “พูดถึงพี่น้องข้า นี่ก็ถือว่ามีสำนักศิษย์พี่ศิษย์น้องมากมาย ไม่ขาดแคลนยอดฝีมือเลยในแต่ละแคว้น ได้ยินว่าผู้นำยุทธพบก็เป็นศิษย์พี่น้องของเขาเช่นกัน แต่หากเป็นพี่น้องของข้าผู้นี้ ไม่ได้สลักสำคัญแต่อย่างใด”
หลีโม่กรอกตา ข้าจะโกรธไม่ได้ ห้ามโกรธ หากโกรธขึ้นมาจะต้องอารมณ์จะต้องระเบิดเป็นแน่
“เจ้าสั่งให้เขาจับข้าหนีใช่หรือไม่? เจ้าให้เขาลักข้าเข้าไปในบ่อโคลนใช่หรือไม่? ” หลีโม่ถามด้วยอารมณ์มาคุ
“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร………” ซือถูเย้นทำท่าราวกับว่าถูกใส่ความ หลีโม่พูดขึ้นเสียงเย็น “หากพูดความจริงข้าจะอภัยให้ แต่ถ้าเจ้ากล้าทำไม่กล้ารับล่ะก็ ข้าจะกลับตำหนักท่านแม่ของข้าประเดี๋ยวนี้”
ซือถูเย้นก้มหัวลงยอมแพ้ “ใช่ ใช่แล้ว ข้าสั่งเอง แต่ว่า…” เขาเงยหน้าขึ้นมาทันที ดวงตาฉายแววจริงจัง “แต่ข้าทำผิดหรือ? ตอนนั้นข้าไม่รู้ว่าเจ้าสาวในเกี้ยวเป็นเจ้า หรือว่าเจ้ายินยอมให้ข้าแต่งงานกับหญิงอื่น? เจ้าเห็นด้วยหรือ? ”
หลีโม่เห็นว่าเขายอมรับแล้ว เดิมทีเขาคิดสารพัดวิธีที่จะเอาคืนเขา แต่เมื่อได้ยินเขาแก้ตัว คำแก้ตัวนั้นถือว่ามีเหตุมีผลทีเดียว นี่มัน….
“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น….”
“แล้วเจ้าหมายความว่าอย่างไร? หากในเกี้ยวไม่ใช่เจ้า เป็นหญิงอื่น เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร? จะยอมแต่งเข้าเรือนหอกับนางไปตามฟ้าตามดินหรือว่าจะโยนนางไว้ในห้องสุขาเล่า? เจ้าว่ามาสิ” ซือถูเย้นกลับมาทำท่าทางเคร่งขรึม ขึ้นเสียงเข้ม
“นี่….”
“ไม่ต้องมาอ้ำๆ อึ้งๆ รีบว่ามาเสีย”
หลีโม่กลุ้มใจ นางตกอยู่ในสถานการณ์ถูกกระทำเสียแล้ว
“เจ้าว่ามาสิ พูดเลย” ซือถูเย้นไม่ยอมปล่อยนางไปง่ายๆ กดดันด้วยการถามนางย้ำๆ “ตอนนั้นข้าทำเพื่อเจ้า รู้ดีว่านั่นเป็นงานแต่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่จัดเตรียมให้ ข้าก็ยังกล้าต่อรองเชียวนะ นำเจ้าสาวที่ตระเตรียมนั้นโยนออกไป แต่หญิงผู้นั้นกลับเป็นเจ้า เจ้ากล้าหรือ? กล้าติเตียนข้าหรือ? เพียงข้าแค่อยากจะแต่งงานกับเจ้าเท่านั้น เจ้ายังโกรธตีโพยตีพายโทษข้ารึ เจ้าจะทำให้ข้าเจ็บปวดหรือ? ”
หลีโม่แหวกม่าน “อาลู่ ทางข้างหน้าช้าไปหน่อยนะ ข้ามีเรื่องต้องจัดการ”
อาลู่ราชรถม้าพูดพึมพำ “ช้าอะไรกัน ทะเลาะกันก่อนสิ ยังไม่ได้ตีกันสักตั้งเลยนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...