พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 466

ตอนที่ 466 นางจะกลับวัง

ซุนฟางเอ้อร์เห็นนางเอากวนอิมหยกคืนไป ก็เอื้อมไปแย่งโดยไม่รู้ตัว หูฮวนซีไม่ปล่อยมือ ในใจก็คิด ถ้าไม่เอาก็คืนมาแล้วกัน ข้าเอาเอง เหลาไท่ไท่ของข้ายังโวยวายอยากได้อยู่เลย

“เจ้าบอกมา ว่าทำไมต้องเอากวนอิมนี้มาให้ข้า ข้ารู้ว่าของที่เจ้าให้หลีโม่คือกำไลทองคำ” เสียงซุนฟางเอ้อร์เริ่มนิ่งลง สีหน้าก็ดีขึ้น

หูฮวนซีได้แต่ปล่อยมือ ให้นางหยิบกวนอิมนั้นไป ในใจก็คิดคำพูดไว้แล้ว “ของที่ข้าหลีโม่และเพื่อนคนอื่นล้วนเป็นกำไลทองคำ เพราะว่าอยากให้พวกนี้ช่วยข้าโฆษณา สร้างกระแสความนิยมในท้องตลาด ข้าหมายความว่า พวกนางใส่กำไลทองข้าแล้วเดินในเมือง จะทำให้เกิดเป็นกระแส นี่เป็นวิธีทางธุรกิจของข้า ส่วนที่ให้กวนอิมหยกแก่เจ้า เพราะคิดว่าเจ้าเหมือนกวนอิมหยกขาวนี้ ภายนอกดูเยือกเย็น พอจับนานแล้วรู้สึกอบอุ่น ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น”

ยังไม่ยอมรับอีก!

ซุนฟางเอ้อร์ลูบคลำกวนอิมหยก ก็อุ่นๆจริงๆ แล้วพูดเบาๆว่า “เจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆหรือ?”

“แล้วจะให้ข้าคิดอย่างไร?” หูฮวนซีถามกลับ

ซุนฟางเอ้อร์พูดว่า “ข้านึกว่าเจ้าอยากจะตีสนิทข้า แล้วเป็นไส้ศึกให้หลีโม่”

หูฮวนซีตะลึง นางพูดตรงๆเช่นนั้นเลยหรือ? ตามฐานะนางแล้ว และความคิดของนาง นางไม่น่าจะพูดตรงเช่นนี้

น่าจะคิดซับซ้อนกว่านี้ น่าจะต้องอ้อมค้อมหลายตลบ

ไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ ยังดีที่นางรับมือได้ทัน

หูฮวนซีพูดอย่างทำอะไรไม่ถูกว่า “เป็นไส้ศึกอะไรกันเล่า? ข้ายุ่งวุ่นวายทั้งวัน จะมีเวลาที่ไหนไปเป็นไส้ศึก อีกอย่าง ข้าไม่มีตำแหน่งราชการ ไม่ได้มียศตำแหน่ง มิอาจไปล่วงล้ำเรื่องของราชสำนัก เรื่องของเจ้ากับหลีโม่ทำไมข้าจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว”

ซุนฟางเอ้อร์เหมือนจะรับฟังคำพูดของนาง แล้วก็เอาสร้อยกวนอิมหยกคล้องที่คออีกครั้ง หูฮวนซีกลืนน้ำลาย เพราะกวนอิมหยกของนางแท้ๆ ความงามที่ผิดพลาด

“ได้ ในเมื่อเจ้าให้ข้า ข้าก็มีของให้เจ้าเช่นกัน ” ซุนฟางเอ้อร์กล่าว นางเอาขวดอะไรสักอย่างออกมาจากแขนเสื้อ แล้ววางลงบนโต๊ะ “ในนี้มียาเม็ดหนึ่ง ข้าให้เจ้า”

หูฮวนซีหยิบขึ้นมาดู “ยาหรือ?”

นางไม่ได้ป่วยเสียหน่อย!

“เป็นยาพิษ” ซุนฟางเอ้อร์กล่าว

“อะไรนะ? เจ้ายาพิษข้ามาทำไม? ” ถ้านางจะทำร้ายคนจริงๆ ก็ไม่ถึงกับต้องใช้ยาพิษหรอก

“เจ้าเอาไปให้เสี้ยหลีโม่” ซุนฟางเอ้อร์กล่าว

“เอาไปให้นางทำไม? เจ้าจะให้ยาพิษกับนางหรือ?” ตอนนี้หูฮวนซีไม่เข้าใจจริงๆ ไม่รู้ว่านางจะมีแผนอะไร ยังลองใจนางอีกหรือ?

“ใช่แล้ว เจ้าเอาไปให้นางก็แล้วกัน ” ซุนฟางเอ้อร์ไม่ได้บอกเหตุผล ลุกขึ้นแล้วก็เดินไปเลย

“รอเดี๋ยว เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าอยากให้นางทำไมไม่เอาไปให้เอง? จะให้ข้าเอาไปให้ทำไม?”

“เอาให้นาง จะได้แก้ปมในใจนาง นางจะได้หายสงสัย”

สำหรับซุนฟางเอ้อร์แล้ว เรื่องที่น่าสงสัยมันน่าปวดหัว นางคิดว่าต้องเป็นกันทุกคน

หูฮวนซีมองนางเดินจากไป แล้วใช้ผ้าเทยาพิษออกมาดู ยามีสีดำสนิท เหมือนกับทาด้วยยางรักสีดำ เป็นเงาๆ พอลองดม ก็ไม่มีกลิ่นอะไร

หูฮวนซีไม่รู้ว่าควรเอาไปให้หลีโม่หรือไม่ เพราะเป็นอย่างที่หลีโม่บอก ว่าซุนฟางเอ้อร์คนนี้มีจิตใจยากแท้จะหยั่งถึง

คิดอยู่พักใหญ่ หูฮวนซีก็ตัดสินใจเอายาไปให้หลีโม่

หลีโม่ได้เห็นยาพิษนั่น ก็เงยหน้าถาม “ซุนฟางเอ้อร์เอามาให้เจ้าหรือ? นางว่าอย่างไรบ้าง?”

“นางบอกว่าสามารถแก้ปมในใจเจ้าได้” หูฮวนซีตอบ

“แก้ปมในใจข้างั้นหรือ? ”หลีโม่คิด ปมในใจนางตอนนี้ก็คือ ฮองไทเฮาถูกวางยาได้อย่างไร ซุนฟางเอ้อร์เคยเข้าวังไปจริง แต่นางนางถามซุนกงกงแล้ว เขาบอกซุนฟางเอ้อร์ไม่เคยเข้าใกล้ฮองไทเฮาเลย อีกอย่าง ทุกอย่างอยู่ภายในสายตาของซุนกงกงตลอด นางไม่มีโอกาสวางยาพิษแน่

“เสี้ยฮ่าวหราน เจ้าเคยอ่านตำราพิษ รู้เรื่องพิษกู่นี่มากน้อยเพียงใด” หลีโม่ถาม

เสี้ยฮ่าวหรานส่าหัว “ไม่มากนัก ในตำราจดบันทึกเรื่องของพิษกู่นี้น้อยมาก อีกอย่าง กู่นี้ใช้หนอนพิษมาทำเป็นยาพิษ ต่างกับสิ่งที่ข้าร่ำเรียน”

“ดูเหมือนว่า ข้าต้องศึกษาเจ้าพิษกู่นี่เสียหน่อยแล้ว ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวคนใกล้ตัวถูกวางยาพิษแล้วจะช่วยอะไรไม่ได้” หลีโม่กล่าว

“ท่านพี่ ให้ข้าไปทำเองก็ได้ ” เสี้ยฮ่าวหรานกอดหลีโม่เบาๆ ข้าจะปกป้องท่านพี่เอง ข้าก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ”

หลีโม่ซาบซึ้ง “น้องพี่โตขึ้นแล้ว”

ถ้าทุกคนใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนเสี้ยฮ่าวหรานกันหมด โลกใบนี้จะสวยงามมาก

หลีโม่เอาเรื่องยาพิษนี้ไปบอกซือถูเย้น ซือถูเย้นก็ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่เอามือลูบแหวนหยกตัวเอง หลีโม่เห็นหน้าของเขาก็รู้ว่าเขาโกรธมาก

จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ทุกคนก็รู้ว่า การสิ้นพระชนม์ของฮองไทเฮาต้องมีเงื่อนงำ และก็สงสัยซุนฟางเอ้อร์กับกุ้ยไท่เฟยอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีหลักฐานเท่านั้น

พักใหญ่ ซือถูเย้นก็พูดว่า “นางจะต้องชดใช้”

หลีโม่กอดเขาเบาๆจากข้างหลัง คิดในใจว่า อำนาจนี่มันน่ากลัวจริงๆ ทำให้จิตใจคนเลวร้ายได้ขนาดนี้ ถึงกับไม่สนใจญาติสนิทมิตรสหาย

“นางจะย้ายกลับเข้าวัง” ซือถูเย้นกล่าว

“อืม ฮ่องเต้อนุญาตแล้วหรือ?” หลีโม่เดินมาข้างหน้า แล้วนั่งลง

“ไม่ต้องรอฮ่องเต้อนุญาต นางเป็นกุ้ยเฟยของท่านพ่อ สามารถอยู่ในวังได้”

“แล้วใครจะใหญ่สุดในวังหลัง?”

“ต้องไม่ใช่นางแน่ แต่ว่า นางเข้าฝ่ายอี๋เฟย ตอนนี้อี๋เฟยและหมุยเฟยทำหน้าที่ดูแลวังหลัง ก็เหมือนกับนางมีอำนาจอยู่ครึ่งหนึ่ง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม