พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 674

บทที่ 674 ข้าเชื่อเจ้าแล้ว

อานหรานมีอาการไข้ขึ้นตอนกลางดึก โชคดีที่มีเทียนจีจื่อเฝ้าดูแลอยู่ด้านข้าง ตอนเที่ยงคืน ไข้ลดลง เทียนจีจื่อสั่งคนมาป้อนน้ำข้าว แล้วป้อนยา อาการค่อยดีขึ้น

แต่เขาได้สั่งคนไปรายงานให้กับอ๋องลั่วชินทราบแล้ว บอกว่าอาการขององค์หญิงอานเลวร้ายลง

ก่อนที่อ๋องลั่วชินจะมาถึง เทียนจีจื่อพูดกับอานหรานว่า “เมื่อกลางวันกระหม่อมพูดกับท่านอ๋องว่า องค์หญิงจะกลับไปวันนี้”

องค์หญิงอานจ้องมองดูเขา แววตามองดูเหมือนกับไม่เคยรู้จักคนคนนี้มาก่อน ดูแปลกหน้ามาก แล้วก็เกรงใจขนาดนั้น “ขอบคุณ”

“ได้ยินพวกบ่าวใช้พูดว่า หลังจากที่ท่านอ๋องไปจากตำหนักหลานเซียง ก็นั่งอยู่ในห้องหนังสือตลอด ไม่ทานข้าวไม่กลับห้อง”

องค์หญิงอานไม่พูดอะไร ใบหน้าขาวซีดหลังจากไข้ขึ้นสูง ขาวซีดจนน่าตกใจ

นางหลับตาลง เหมือนเหนื่อยจนอยากที่จะนอนหลับ

เทียนจีจื่อจึงไม่พูดอะไรอีก ยังคงเฝ้านางอยู่ด้านข้าง

ตอนก่อนที่อ๋องลั่วชินจะมาถึง องค์หญิงอานก็มีไข้สูงขึ้นมาอีก เทียนจีจื่อขมวดคิ้ว “ทำไมถึงเป็นแบบนี้? เดิมก็ไข้ลดแล้วนี่”

องค์หญิงอานเหมือนได้ยินเสียง ค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็เอียงหัวหลับต่อไป

อ๋องลั่วชินมาถึงอย่างรวดเร็ว เขาเดินเข้ามาอย่างร้อนใจ ถามขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “เป็นอย่างไรบ้าง?”

เทียนจีจื่อจับดูชีพจร ได้ยินคำถามแล้วแต่ก็ยังไม่ตอบ รอตรวจชีพจรเสร็จแล้วค่อยตอบ

“เป็นอย่างไร?” อ๋องลั่วชินเห็นเขาปล่อยมือแล้ว ไม่ทันรอให้เขาพูด ก็รีบถามขึ้นก่อนแล้ว

อ๋องลั่วชินก็รู้สึกแปลกใจมาก “องค์หญิงเป็นคนที่แข็งแรงมาก ดูเหมือนนางจะถูกพิษ บาดแผลทำให้เป็นไข้ เมื่อกี้ลดลงแล้ว สักพักแล้วก็ร้อนขึ้นมาอีก”

“ถูกพิษ?” อ๋องลั่วชินตกใจมาก “เจ้าตรวจดูดีแล้วหรือ? นางถูกพิษได้อย่างไร?”

“ไม่แน่ชัด ถึงแม้จะถูกพิษ บางทีก็อาจจะเป็นการถูกพิษเมื่อก่อนหน้านี้มานานแล้ว แต่หลายปีมานี้ องค์หญิงน่าจะทานยาระงับไว้เอง เพียงแต่ตอนนี้บาดเจ็บสาหัสทำให้ร่างกายอ่อนแอ จึงมีอาการลุกลาม”

เทียนจีจื่อไม่ได้พูดเท็จ เขาสงสัยว่าองค์หญิงอานถูกพิษมานานแล้ว พิษไม่ได้ถูกถอนมาตลอด เพียงแต่ทานยาหรือใช้วิธีอื่นระงับไว้

อ๋องลั่วชินนั่งลงด้านข้างเตียง มองดูสีหน้าขาวซีดใบนั้นขององค์หญิงอาน ร่างกายของนางสั่นเทา นี่เป็นอาการของคนที่มีไข้สูง ถึงแม้จะไม่มีความรู้ทางการแพทย์ เขาก็ดูรู้

“เด็กโง่” เขายื่นมือ สัมผัสใบหน้าของนาง คิดถึงภาพตอนที่นางฆ่าตัวตาย ยังคงทำให้เขารู้สึกหัวใจแทบสลาย รีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว

“ท่านอ๋อง ท่านยังไหวไหม?” เทียนจีจื่อมองดูสีหน้าของเขา แล้วถามขึ้นด้วยเสียงเบา

อ๋องลั่วชินส่ายหัว “ไม่ดี ข้ารู้สึกไม่ดีเลยสักนิด”

เทียนจีจื่อถอนหายใจเบาๆ “กระหม่อมจะไปเขียนสูตรยาใหม่ ท่านอ๋องอยู่เป็นเพื่อนองค์หญิงสักครู่”

“ได้” อ๋องลั่วชินรับปากอย่างไม่รู้ตัว

เทียนจีจื่อเดินไปแล้วหลายก้าว แล้วหันหัวกลับมา “ท่านอ๋อง ตอนที่กระหม่อมทำแผลให้กับองค์หญิง พบว่าบนร่างกายของนางมีรอยบาดแผลมากกว่าสามสิบแห่ง หลายปีมานี้ นางน่าจะถูกลอบฆ่ามาตลอด”

อ๋องลั่วชินเงยหัวขึ้น หางตาประกายแววแห่งความโกรธ “อะไรนะ?”

สีหน้าเทียนจีจื่อโศกเศร้า “แค่คาดเดา แต่องค์หญิงแห่งราชวงศ์คนหนึ่ง ใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ทุกวัน ไม่ไปมีเรื่องกับใคร บาดแผลพวกนี้คงไม่ใช่นางทำร้ายตัวเอง”

“ท่านมีอะไรจะพูด ก็พูดมาตรงๆ” อ๋องลั่วชินลุกขึ้นมาในทันใด ดวงตามีบางสิ่งค่อยๆปกคลุม แววตาแห่งความโกรธกำลังปะทุ

“อานหราน…” เขาเรียกด้วยเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก

“ท่านพี่สาม ข้าง่วงแล้ว” อานหรานหันหัวไปทางอื่น “วางใจนาง ฟ้าสว่างแล้วข้าจะรีบไป ข้าไม่รบกวนเจ้า”

“ไม่” ทันใดนั้น อ๋องลั่วชินตะคอกเสียงดัง เหมือนดั่งภูเขาพังทลาย สั่นสะเทือนจนหูขององค์หญิงอานอื้อ “ท่านพี่สามชื่อข้า”

องค์หญิงอานหันหัวมา น้ำตาไหลเอ่อล้น นางเม้นริมฝีปากไว้แน่น ไม่ยอมส่งเสียงร้องไห้ ความดื้อรั้นอย่างน่าสงสารแบบนี้ อ๋องลั่วชินเห็นแล้ว ก็เจ็บปวดใจที่สุด

“อานหราน ขอโทษ” ปกติอ๋องลั่วชินเป็นคนที่ใจแข็งมาก เห็นน้องสาวเป็นแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นไหว และเขาก็ไม่ได้ใจแข็งขนาดนั้นจริงๆ

“ข้าไม่กล้าสู้หน้าเจ้า ไม่กล้าสู้หน้าพี่สะใภ้สาม” อานหรานร้องไห้เสียงดัง เหมือนร้องไห้เอาความทุกข์ทรมานที่เจอมาทั้งหมดออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ดูโศกเศร้าน่าสงสารมาก

นางร้องไปด้วยพูดไปด้วยว่า “หากเจ้ายังไม่เชื่อ สามารถไปตามหาคนที่เคยรับใช้พี่สะใภ้สามในวันนั้น พวกนางยังไม่ถูกฆ่าปิดปาก ไปถามตอนนี้ จะต้องบอกความจริงแก่เจ้าแน่ วันนั้น พวกนางไม่กล้าพูดหรอก”

อ๋องลั่วชินหลับตาลง น้ำตาก็หล่นไหลตกลงมา เจ็บปวดทรมานมาก โกรธจนแทบไม่อาจหักห้ามไว้ได้

วันนั้น คนที่รับใช้พระชายา หลังจากที่พระชายาฆ่าตัวตายแล้ว ก็หายสาบสูญไปทั้งหมด

ตอนที่พวกนางหายสาบสูญไป ในจวนอ๋องก็มีสิ่งของมีค่าบางส่วนหายไปด้วย คิดว่าพวกนางคงรีบนี้ไปอย่างกะทันหัน เพราะพวกนางรู้ว่าหากไม่หนี คนที่ต้องตายก็คือพวกนาง

เขาจะไปสืบ จะไปสืบเรื่องราวในวันนั้นให้ชัดเจน ความแค้นที่ขืนใจภรรยากับฆ่าลูก เขาจากไม่แก้แค้นไม่ได้

“อานหราน ทำไมเจ้าไม่บอกข้าเร็วกว่านี้?” เขาอดกลั้นต่อความเจ็บปวด แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความตำหนิ

องค์หญิงอานเอามือปิดหน้า แล้วก็ร้องไห้เสียงดัง ร้องไห้อย่างเจ็บปวด ดูแล้วก็เหมือนเจ็บปวดอย่างที่สุด “ข้าไม่กล้า... ขอโทษ ข้าไม่กล้า... ถ้ากลัวตาย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม