พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี นิยาย บท 1

แคว้นจิ้ง ยี่สิบแปดเดือนสิบสอง

มันเป็นวันที่อากาศกำลังหนาวเย็นพอดี

เฉียวเนี่ยนซักเสื้อผ้าชุดสุดท้ายในตอนเช้าเสร็จ ยังไม่ทันเช็ดมือที่หนาวจนชาให้แห้งก็ได้ยินนางกำนัลอาวุโสจากกรมซักล้างตะโกนเรียกนางว่า “เฉียวเนี่ยน เร็วเข้า จวนโหวมีคนมารับเจ้าแล้ว!”

นางยืนอึ้งอยู่ที่เดิม

จวนโหว ช่างเป็นคําที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยยิ่งนัก

นางเคยเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ของจวนโหวมาสิบห้าปี แต่เมื่อสามปีก่อนกลับได้รับแจ้งว่าตนเองเป็นตัวปลอม

เป็นนางกำนัลอาวุโสที่ทําคลอดในตอนนั้นที่เห็นแก่ตัว นำลูกของตัวเองกับคุณหนูของจวนโหวแลกเปลี่ยนกัน และก่อนตายก็ค้นพบมโนธรรมและบอกความจริงออกมา

เฉียวเนี่ยนจําได้แม่นว่าวันนั้นที่ท่านโหวสองสามีภรรยาได้รู้จักกับหลินยวนลุกสาวแท้ๆ นั้นตื่นเต้นแค่ไหน พวกเขากอดกันทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ ส่วนนางยืนมองอยู่ข้างๆ อย่างทําอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ที่ตัวเองเรียกมาสิบห้าปี ทําไมจู่ๆ ถึงไม่ใช่พ่อแม่ของตัวเองแล้ว

อาจเป็นเพราะมองเห็นความผิดหวังของนางได้ ท่านโหวหลินจึงสัญญากับนางว่า นางยังคงเป็นคุณหนูของจวนโหว และยังให้หลินยวนเรียกนางว่าพี่สาว แม้แต่ฮูหยินหลินก็ยังบอกว่า พวกเขายังคงรักนางเหมือนลูกสาวแท้ๆ

แต่วันนั้นพวกเขาเห็นหลินยวนทําถ้วยขององค์หญิงแตกด้วยตาตัวเอง เห็นสาวใช้ของหลินยวนผลักความผิดนี้มาที่นาง เห็นนางถูกองค์หญิงตําหนิ เห็นนางถูกส่งมาเป็นทาสรับใช้ที่กรมซักล้างแห่งนี้ พวกเขากลับยืนปกป้องหลินยวนอยู่ข้างๆ ไม่พูดสักคําตั้งแต่ต้นจนจบ

นางก็รู้แล้วว่านางไม่สามารถเป็นลูกสาวของพวกเขาได้อีกต่อไปแล้ว

“เฉียวเนี่ยน มัวนิ่งอยู่ทําไม? อย่าให้ท่านโหวน้อยรอจนร้อนใจสิ!” เสียงเร่งเร้าของนางกำนัลอาวุโสดึงความคิดเฉียวเนี่ยนกลับมา

นางเงยหน้าขึ้นมองไปทางประตูกรมซักล้าง ก็เห็นร่างสูงตระหง่านยืนอยู่ด้านนอก แสงแดดในฤดูหนาวส่องกระทบร่างของเขาจนดูราวกับมีประกายส่องมาจากตัวเขา

เมื่อเห็นใบหน้าที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยนั้น หัวใจของเฉียวเนี่ยนที่ไม่รู้สึกอะไรมานานก็บีบรัดอย่างเจ็บปวดโดยไม่ทันตั้งตัว

เป็นหลินเย่ว์

พี่ชายที่นางเรียกมาสิบห้าปี พี่ชายที่เคยเดินทางไปเจียงหนานที่อยู่แสนไกลเพื่อตามหาไข่มุกราตรีที่หายากที่สุดในโลก และพี่ชายที่ผลักนางลงจากชั้นสองเพื่อหลินยวน

ไม่ได้เจอกันสามปี ความรู้สึกคับข้องใจที่หายไปสามปีนั้นพลันพรั่งพรูออกมา

เฉียวเนี่ยนหายใจเข้าลึกๆ และระงับความคับข้องใจนั้นไว้ ใบหน้ายังคงไร้อารมณ์ใดๆ

นางเดินไปหาหลินเย่ว์ เดินเข้าไปใกล้ด้านหน้าแล้วคุกเข่าลงทําความเคารพ น้ำเสียงราบเรียบ แฝงไปด้วยความห่างเหิน “บ่าวคารวะท่านโหวน้อยเจ้าค่ะ”

ก่อนมา หลินเย่ว์ก็เคยความเพ้อฝันถึงฉากที่พวกเขาพี่น้องได้พบกัน

คิดไปคิดมา ตามนิสัยเดิมของนาง ไม่ก็โผเข้ากอดเขา ออดอ้อนไปพลางร้องไห้พลางบ่นน้อยใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ไม่ยอมพบเขาแม้แต่ครั้งเดียว

คาดไม่ถึงว่านางจะเดินมาหาเขาอย่างใจเย็นและคุกเข่าลง

นี่คือน้องสาวที่เขาตามใจมาสิบห้าปีเชียวนะ!

ความดื้อรั้นและเอาแต่ใจของนาง ความเย่อหยิ่งของนางล้วนถูกตามใจโดยเขา

ทําไมตอนนี้กลับ...

หลินเย่ว์รู้สึกเพียงว่าหัวใจของตัวเองถูกมือที่มองไม่เห็นฉีกกระชากอย่างรุนแรง มือที่ไพล่หลังกําแน่น ลําคอเหมือนถูกมือข้างหนึ่งจับไว้ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วจึงเอ่ยปาก “ท่านย่าคิดถึงเจ้ามาก ฮองเฮาเห็นแก่ความชราของนาง อนุญาตให้เจ้าออกไปจากที่นี่ได้”

พูดจบประโยค หลินเย่ว์ก็รู้สึกว่าน้ำเสียงแข็งกระด้างเกินไป เขาขมวดคิ้วแล้วโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อประคองเฉียวเนี่ยนให้ลุกขึ้น จงใจพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ตามพี่กลับบ้านเถอะ!”

ดวงตาที่ก้มต่ำของเฉียวเนี่ยนพลันสั่นไหวระริก

ตามพี่กลับบ้านเถอะ!

ใครจะรู้ว่าประโยคสั้นๆ นี้นางรอคอยมานานแค่ไหนแล้ว

ช่วงที่มากรมซักล้างครั้งแรกนั้น นางเฝ้ารอคอยหลินเย่ว์มารับนางกลับบ้านแทบทั้งวันทั้งคืน

แต่วันแล้ววันเล่า ความหวังก็กลายเป็นความผิดหวัง จนถึงตอนนี้นางไม่มีความเพ้อฝันใดๆ เกี่ยวกับการกลับจวนโหวอีกแล้ว

บทที่ 1 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี