พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี นิยาย บท 2

เฉียวเนี่ยนชะงักงัน หัวใจที่คิดว่าไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วยังคงเต้นผิดจังหวะเพราะเสียงที่คุ้นเคยนั้น

นางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มในรถม้า

เป็นแม่ทัพหนุ่มที่ถูกแต่งตั้งผู้นั้น อดีตคู่หมั้นของนาง เซียวเหิง

นางแทบจะคุกเข่าลงทันที “บ่าวคารวะแม่ทัพเซียวเจ้าค่ะ”

คิ้วของเซียวเหิงขมวดเข้าหากันเล็กน้อย สายตากวาดมองข้อเท้าของนางแวบหนึ่ง เอ่ยถามเสียงเรียบว่า “แม่นางหลินจะกลับจวนหรือ?”

เฉียวเนี่ยนหลุบตามองเข่าทั้งสองข้างของตัวเอง แล้วพยักหน้า “เจ้าค่ะ”

สิ้นเสียงก็เงียบไปพักหนึ่ง

เซียวเหิงรอให้นางพูดต่อ

เพราะเมื่อก่อน ต่อหน้าเขานางมักมีเรื่องพูดไม่จบตลอด

เขาไม่ชอบคนพูดมาก แต่เห็นแก่มิตรภาพของทั้งสองตระกูลจึงไม่ตําหนินางมากเกินไป แต่ก็ไม่เคยปิดบังความเบื่อหน่ายของตัวเอง

บางครั้งถูกรบกวนจนรําคาญจริงๆ ก็จะหยิบขนมกล่องหนึ่งออกมาอุดปากนาง ทุกครั้งที่ถึงเวลานั้น นางมักจะดีใจเหมือนเด็กๆ แต่ปากที่หนวกหูนั้นอย่างมากก็อุดได้แค่ครึ่งก้านธูปเท่านั้น

นึกไม่ถึงว่าไม่ได้เจอกันสามปี นางตอบแค่คําสั้นๆ คําเดียว

เซียวเหิงลงจากรถม้า ไม่ได้เข้าไปประคองนาง เพียงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าเข้าวังไปรายงานพอดี แม่นางหลินสามารถนั่งรถม้าของข้ากลับไปได้”

เฉียวเนี่ยนคิดจะปฏิเสธตามสัญชาตญาณ แต่เพิ่งจะอ้าปาก น้ำเสียงเย็นชาของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ได้รับบาดเจ็บก็อย่าฝืนเลย แม่นางหลินไม่ทําเพื่อตัวเอง ก็ควรคิดถึงฮูหยินเฒ่าหลินบ้าง”

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม

เฉียวเนี่ยนนึกถึงฮูหยินเฒ่าที่รักและเอ็นดูนางมากที่สุด นึกถึงว่าตอนนี้ตนสามารถออกจากกรมซักล้างได้ต้องเป็นฮูหยินเฒ่าที่ขอร้องฮองเฮาด้วยตัวเองแน่ หากรู้ว่านางเดินกลับไปด้วยอาการข้อเท้าเคล็ดเช่นนี้ ฮูหยินเฒ่าจะต้องเสียใจแน่นอน

ดังนั้นจึงไม่ปฏิเสธอีก ตอบเสียงต่ำ “บ่าวขอบคุณแม่ทัพเซียวเจ้าค่ะ”

พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปที่รถม้า

เมื่อเดินผ่านข้างกายเขา ร่างกายของนางยังคงแข็งทื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อเทียบกับสามปีก่อน เซียวเหิงสูงขึ้นไม่น้อย และกำยำขึ้นไม่น้อยด้วย

ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้เพิ่งได้รับชัยชนะกลับมา ทั้งตัวยังเหมือนถูกย้อมไปด้วยกลิ่นอายสังหารที่ชวนให้ใจหายใจคว่ำในสนามรบ จนนางแค่เดินผ่านเขาไป หัวใจก็เต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุ

นางเคยรักเซียวเหิงอย่างเร่าร้อน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยตอบรับก็ตาม

ตอนนั้นนางรู้สึกว่าเซียวเหิงเหมือนน้ำแข็งก้อนหนึ่ง เย็นชาและห่างเหินกับทุกคน แต่ขอแค่ตัวเองมีความกระตือรือร้นมากพอ ไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะต้องถูกหลอมนางละลาย

แต่ต่อมาเมื่อได้เห็นเซียวเหิงมองหลินยวนด้วยสีหน้าอ่อนโยนและเอ็นดู เฉียวเนี่ยนจึงเข้าใจว่า หลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ไม่ใช่ตนพยายามแล้วก็จะได้ผล

บางคนถูกลิขิตให้ได้รับสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถได้รับตลอดชีวิตโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก

ดังนั้น วันนั้นตอนที่เห็นเซียวเหิงปกป้องหลินยวน และใช้สายตาอันดุร้ายเตือนนาง คําพูดที่โต้แย้งเพื่อตนเองเหล่านั้นก็ถูกนางกลืนลงท้องไปจนหมด

พ่อ แม่ พี่ชาย และคนที่นางรักมากที่สุด

พวกเขาทั้งหมดเลือกที่จะยืนเคียงข้างหลินยวนและหวังให้นางรับบาปแทน

จริงๆ แล้วมีประโยคหนึ่งที่หลินเย่ว์พูดถูก

นางได้เสวยสุขแทนหลินยวนมาสิบห้าปี บาปสามปีนี้ถือว่านางคืนให้กับหลินยวนแล้ว

แต่น้อยใจไหม?

ย่อมต้องน้อยใจเป็นธรรมดา

ทั้งๆ ที่นางไม่เคยทําอะไรเลย แต่คนที่รักนางและปกป้องนางกลับยื่นคมมีดใส่นางเพียงแค่ชั่วข้ามคืน

จะไม่น้อยใจได้ยังไงล่ะ?

อุณหภูมิในรถม้าอุ่นกว่าข้างนอกไม่น้อย ภายในรถมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นกลิ่นหอมที่เซียวเหิงใช้เป็นประจํา

บนโต๊ะเตี้ยด้านข้างมีเตาอุ่นมือและขนมกล่องหนึ่งวางอยู่

เฉียวเนี่ยนจําได้ว่าร้านนั้นเป็นร้านที่หลินยวนชอบกินที่สุด

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี