พลิกชะตาฝ่าลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 14

ฮูหยินจั่วได้ยินดังนั้นสีหน้าก็บึ้งตึงทันที “ทำไมหรือ น้องสาวคิดว่าหนิงเอ๋อร์ของพวกเราไม่คู่ควรกับเทียนจิงอย่างงั้นหรือ?”

เฉียวเจียวเจียวก็พูดขึ้นมาทันที

[มาแล้ว ๆ ท่านแม่ สวนนางกลับให้หน้าหงายไปเลย! ดูสิว่านางจะหน้าด้านได้อีกนานไหม!]

ถ้าเป็นเมื่อก่อน พอฮูหยินจั่วทำสีหน้าเย็นชา ฮูหยินเฉียวจะต้องทำหน้ายิ้มปลอบใจอย่างแน่นอน

แต่ว่าในขณะนี้ในตอนนี้ ฮูหยินเฉียวกลับนั่งนิ่งเหมือนภูเขาอยู่ที่เตียงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

และนางก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า “พี่สะใภ้ท่านอย่าเพิ่งโมโหเลย จริง ๆ แล้วเป็นเพราะเจ้าใหญ่มีความคิดเป็นของตัวเองสูงเกินไป”

พอฮูหยินจั่วได้ยินก็หัวเราะอย่างไม่สบอารมณ์ “นับแต่โบราณกาลมาการแต่งงานของลูกก็เป็นพ่อแม่และแม่สื่อเป็นคนตัดสินใจ ถึงแม้เทียนจิงเด็กคนนั้นจะมีความคิดยังไง แต่เรื่องการแต่งงานยังไงก็ไม่ใช่พวกเจ้าเป็นคนตัดสินหรอกหรือ?”

ฮูหยินเฉียวทำสีหน้าสงบนิ่ง “ข้าทำเรื่องบังคับใจลูกไม่ได้หรอก”

ฮูหยินจั่วหัวเราะออกมาด้วยความโกรธทันที “ความหมายของน้องก็คือหากหนิงเอ๋อร์ครองคู่กับเทียนจิง ถือเป็นการฝืนใจเทียนจิงอย่างงั้นหรือ?

ฮูหยินเฉียวจึงแอบพูดเหน็บแนมกลับเล็กน้อยว่า “นี่พี่สะใภ้เป็นคนพูดเองนะเจ้าค่ะ น้องไม่ได้หมายความเช่นนี้เลย”

ฮูหยินจั่วลุกขึ้นยืนทันทีและสีหน้าก็เขียวปั๊ด ก่อนจะพูดจาถากถางมาว่า

“ตอนนี้น้องสาวเปลี่ยนเป็นคนวางท่าใหญ่โตและเบ่งอำนาจเสียแล้ว ในเมืองหลวงต่างพูดกันว่าตระกูลเฉียวเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทอย่างมาก เกรงว่าคงจะต้องตาองค์หญิงองค์ไหนแล้วกระมัง”

ฮูหยินเฉียวได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็นิ่งเฉยทันที ดวงตาหงส์คู่งามจ้องฮูหยินจั่วไม่วางตา

“พี่สะใภ้ เรื่องซุบซิบเช่นนี้ก็อย่าพูดถึงอีกเลย ตระกูลเฉียวของพวกเราทำอะไรก็ทำตามหน้าที่ และจงรักภักดีต่อกษัตริย์และบ้านเมือง ไม่กล้าคิดอะไรที่ไม่ดี”

“ส่วนเรื่องการแต่งงานของหนิงเอ๋อร์ ถ้าหากพี่สะใภ้ใจร้อน ข้าจะให้ท่านพี่ช่วยคัดกรองหนุ่มดี ๆ เหล่านั้นให้ คุณหนูของจวนเหยี่ยนกั๋วกงทั้งคนย่อมไม่ให้น้อยเนื้อต่ำใจอยู่แล้ว”

นี่เป็นครั้งแรกที่ฮูหยินเฉียวแสดงบารมีของการเป็นนายหญิงของตระกูลต่อหน้าฮูหยินจั่ว รัศมีที่แค่ทำท่านิ่งๆ ก็ดูน่าเกรงขามแล้ว ทำเอาฮูหยินจั่วถึงกับต้องสยบลง

“เจ้า...เจ้า...”

ฮูหยินจั่วพูดไม่ออกอยู่นาน สุดท้ายก็พูดด้วยความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟว่า “งานแต่งงานของหนิงเอ๋อร์มีแม่คนนี้กังวลก็พอ ไม่กล้าไปรบกวนเจ้าฮูหยินเฉียวหรอก!”

ฮูหยินเฉียวได้ยินเช่นนี้ก็อุ้มเฉียวเจียวเจียวไปวางลงบนหมอนนุ่ม ๆ ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “เรื่องนี้มีพี่สะใภ้คอยจัดการ ย่อมต้องสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว”

ฮูหยินจั่วมีสีหน้าโกรธจัดและกัดฟันแน่นเอ่ย “วันนี้คิดเสียว่าข้าไม่ได้มาก็แล้วกัน ธรณีของตระกูลเฉียวสูงส่งเกินไป จนข้ามิกล้าอาจเอื้อมมาเหยียบได้!”

นางเองก็ไม่เชื่อว่า จั่วเหอจิ้งจะกล้าเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาต่อหน้านางจริง ๆ

ฮูหยินเฉียวกลับทำเพียงตบเฉียวเจียวเจียวเบา ๆ และปากก็พูดอย่างครุ่นคิด “น้องไม่สะดวกไปส่ง พี่สะใภ้ไปดีมาดีนะเจ้าคะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของฮูหยินจั่วก็บูดเบี้ยวขึ้นมาทันทีนางมองไปที่ฮูหยินเฉียวอย่างลึกซึ้ง และสะบัดแขนเสื้อไปด้วยความโกรธ

ตอนนี้ตระกูลเฉียวของพวกเขาเป็นที่สะดุดตาจนเกินไปจริง ๆ นั่นแหละ

แต่ว่าความโปรดปรานที่ได้รับเกียรติเช่นนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์อันใดเลย

เฉียวจงกั๋วตัดสินใจอุ้มเฉียวเจียวเจียวมาอยู่ต่อหน้าทุกคน เมื่อถึงตอนนั้นไม่แน่ว่าอาจจะได้ยินความลับอะไรอีกก็เป็นได้ ตระกูลเฉียวของพวกเขาจะได้เตรียมแผนรับมือล่วงหน้าจะได้คว้าโอกาสเอาไว้ก่อน

เทียบเชิญสำหรับแขกที่จะมางานเลี้ยงครบหนึ่งเดือนฮูหยินเฉียวเป็นคนคัดกรอกด้วยตัวเองกับมือ นางจงใจเพิ่มตระกูลหันของรองเสนาบดีกรมโยธาเข้าไปด้วย โดยหวังว่าจะได้เห็นลูกสะใภ้ของนางล่วงหน้าก่อน

ในวันงานฉลองครบหนึ่งเดือน ฮูหยินเฉียวได้แต่งตัวอย่างพิถีพิถันให้เฉียวเจียวเจียว

เจ้าตัวเล็กนอนอยู่บนเตียงด้วยดวงตากลมโตแบ้ว และผิวของนางก็ขาวเนียนนุ่ม บนศีรษะยังมัดผมเป็นจุกเล็ก ๆ อีกทั้งวันนี้ยังสวมชุดสีแดงสดใสและรองเท้าหัวเสือ ภาพที่เห็นช่างน่ารักน่าชังเหมือนตุ๊กตาในภาพวาดตอนเทศกาลจริง ๆ

ฮูหยินเฉียวกอดเฉียวเจียวเจียวเอาไว้ในอ้อมแขนไม่ห่างอก ปากก็เอ่ยถามแม่นมหลิวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า

“ทางด้านหอจิ้วจี้ ส่งของไปหมดแล้วหรือยัง?”

แม่นมหลิวทำสีหน้าดีใจและพยักหน้ารัว ๆ “ฮูหยิน ท่านวางใจเถอะ วันนี้ส่งไปตั้งแต่เช้าตรู่เลยเจ้าค่ะ แล้วก็ใช้ชื่อของคุณหนูน้อยในการส่งไปด้วย”

“เด็กเหล่านั้นไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่ ไม่มีบ้านให้กลับไปพักพิง น่าสงสารจริง ๆ เจ้าค่ะ ตอนนี้ต้องขอบคุณฮูหยินและคุณหนูน้อยที่มีเมตตาชีวิตถึงได้ดีขึ้นมาก”

เฉียวเจียวเจียวเพิ่งเคยได้ยินชื่อหอจิ้วจี้เป็นครั้งแรก และเพิ่งจะรู้ว่าท่านแม่ของนางทำความดีในนามของตัวเองมาโดยตลอด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาฝ่าลิขิตสวรรค์