พลิกชะตาฝ่าลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 15

หัวใจของนางสั่นไหวเล็กน้อย เดี๋ยวก่อนนะ นี่ไม่ใช่แต้มบุญหรอกหรือนี่!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เฉียวเจียวเจียวก็รีบเรียกร้านแต้มบุญออกมาทันที

นางจ้องมองอย่างตั้งอกตั้งใจ และมีความสุขขึ้นมาทันที

[อ๊ากกก! แต้มบุญเพิ่มขึ้นเป็น120แล้ว! ท่านแม่ ๆ ท่านช่วยได้มากจริง ๆ!]

[ฮือ ๆ เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด มีเงินมีทองมีประโยชน์กว่าจริง ๆด้วย แค่แป๊บเดียวก็ช่วยผู้คนเอาไว้ได้มากมาย สร้างแต้มบุญได้ถึงหนึ่งในห้าเท่าของชาติที่แล้วของข้าเสียอีก!]

แม้ว่าฮูหยินเฉียวจะไม่เข้าใจแต้มบุญอะไรนั่น แต่เห็นเฉียวเจียวเจียวดีใจขนาดนี้ จึงรู้ว่าที่ตัวเองทำไม่ผิดแน่

“แม่นม จงทำความดีต่อไปอย่าได้หยุด ต่อไปนี้ไม่ต้องให้ข้าสั่ง กำหนดช่วงเวลาสักวันจัดสรรเงินส่งไปให้ทุกเดือน เด็กเหล่านั้นล้วนมีชีวิตที่ยากลำบากกันจริง ๆ”

แม่นมหลิวรีบตอบรับทันใด

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ไม่นานแขกก็ทยอยกันมาถึง

ฮูหยินเฉียวเพิ่งออกจากการอยู่ไฟ แต่สีหน้าของนางไม่เพียงจะไม่เสื่อมโทรม แต่กลับยิ่งเปล่งประกายมากขึ้นเรื่อย ๆ

นางยังคงนั่งรับแขกในห้องโถงด้านหลังไม่ไปไหน ใครที่ได้เห็นฮูหยินของเรือนก็อดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความประหลาดใจ

เฉียวเจียวเจียวฮัมเพลงอย่างภาคภูมิใจ และรูปลักษณ์ที่น่ารักของนางก็ดึงดูดความสนใจของเหล่าฮูหยินทั้งหลาย

ไม่ช้าแขกก็มารวมตัวกันอยู่ที่ห้องโถงด้านหลังแล้ว เฉียวเจียวเจียวถูกทุกคนอุ้มต่อ ๆ กันจนทั่วทั้งงาน และที่ข้อมือและคอของนางก็เต็มไปด้วยสร้อยทองกำไรทองคล้องเต็มไปหมด

“ในเวลานี้ ที่ด้านนอกประตูก็มีเสียงบ่าวตะโกนดังขึ้นมา “ฮูหยินตระกูลหันพาคุณหนูตระกูลหันมาแสดงความยินดี!”

ฮูหยินเฉียวได้ยินเช่นนี้ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันทีดวงตาที่กลมโตของเฉียวเจียวเจียวกับฮูหยินเฉียวมีปฏิกิริยาเหมือนกันทุกประการ สองแม่ลูกมองออกไปทางด้านนอกประตูด้วยสีหน้าตั้งตารอ

ในเวลานี้กลับมีเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นในห้อง

“ตระกูลหัน ตระกูลของพวกเขาไม่ใช่ว่าไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงใด ๆ หรอกหรือ?”

“ชิ ปกติเห็นแกล้งทำตัวสูงส่ง วันนี้กลับกลับคำมาร่วมงานเสียแล้ว?”

ฮูหยินเฉียวได้ยินคำวิจารณ์เหล่านี้ ก็ลุกขึ้นมาขมวดคิ้วทันที

ในเวลานี้มีคนสองคนเดินเข้ามาจากทางด้านนอก

ฮูหยินที่เดินอยู่ทางด้านซ้ายดูเหมือนจะอายุใกล้จะสี่สิบแล้ว แม้ว่าเสื้อผ้าทั้งตัวที่ใส่จะมีสีสันที่สดใสเข้ากับงามฉลองก็ตาม แต่ก็สามารถมองออกว่าเป็นชุดที่เก่าแล้ว

มองไปคิ้วของนางขมวดเล็กน้อย และสีหน้าก็ดูสงบนิ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่มองสำรวจมาของทุกคน กลับไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ

ข้าง ๆ นางมีหญิงสาววัยแรกแย้มที่งดงามคนหนึ่งเดินมาด้วย นางสวมชุดกระโปรงยาวสีเหลืองอ่อน รูปร่างผอมเพรียว และเดินอกผายไหล่ผึ่งอย่างสง่างาม

เฉียวเจียวเจียวมองดูใบหน้าของสาวน้อยคนนั้นอย่างละเอียด นางไม่ได้สวยจนต้องตกตะลึงอะไรเช่นนั้น แต่ที่โดดเด่นก็คือความงามที่ดูเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้ และดูไม่หยิ่งผยองนั่นต่างหาก

[อ๊ากกก! ท่านแม่! เป็นพี่สะใภ้ใหญ่! ว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคตของท่าน! ข้าชอบมากเลย! ฮือ ๆ ๆ มองแวบแรกก็ชอบแล้ว!]

นางแอบชำเลืองตามองไปข้าง ๆ เล็กน้อย สายตาอันอ่อนโยนของนางมองไปที่คุณหนูหัน และถามด้วยรอยยิ้มว่า “แม่นางน้อยคนนี้คือใครหรือ?”

คุณหนูหันเดินขึ้นมาทำความเคารพ นางโค้งคำนับอย่างสง่างามให้ จากนั้นฮูหยินหันก็เอ่ยขึ้นว่า “นี่คือลูกสาวในตระกูลมีนามว่าหย่าเสียน นางท่าทางอ้อนแอ้นเกินไปหน่อย ต้องขออภัยฮูหยินที่ต้องมาเห็นอะไรเช่นนี้”

ฮูหยินเฉียวเป็นแม่สามีที่หมายตานางเป็นลูกสะใภ้แล้ว นางยิ่งดูยังไงก็ยิ่งปลื้มและนางก็รู้จักลูกชายของตัวเองดี แม้เจ้าใหญ่จะเป็นคนมีความคิดลึกซึ้งยากจะเดาออกได้ แต่จริง ๆ แล้วภายนอกที่เห็นทำเป็นเย็นชาแต่ข้างในเป็นคนอบอุ่นมาก เขาต้องได้สตรีที่ทั้งอ่อนโยนและควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เช่นนี้ จึงจะสามารถพูดคุยกับเขาได้

ฮูหยินหันสังเกตเห็นสายตาของฮูหยินเฉียวที่มองลูกสาวของนางอย่างพึงพอใจ จึงอดไม่ได้ที่จะตกใจจนหัวใจเต้นรัว ๆ

ได้ยินว่าบุตรชายคนโตของจวนเฉียวอายุสิบแปดปีแล้ว และเป็นทั่นฮวาที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองหลวง แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้แต่งงาน...

ความคิดของฮูหยินหันมาหยุดถึงแค่ตรงนี้เท่านั้น นางไม่กล้าจะคิดต่อแล้ว

เพราะฐานะของตระกูลหันยังห่างชั้นกับตระกูลเฉียวอยู่มาก และชื่อเสียงของนายท่านก็ไม่ดีเสียด้วย ถ้าหย่าเสียนได้แต่งงานกับตระกูลชนชั้นสูงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ เกรงว่าจะน้อยเนื้อต่ำใจได้

ในห้องนี้แม้ฮูหยินทั้งหลายจะไม่กล้าแสดงความคิดเห็นออกมา แต่ก็มองหน้ากันไปมา พร้อมกับพากันคาดเดาความคิดลึก ๆ ของฮูหยินเฉียว

ในเวลานี้มีเสียงตะโกนดังมาจากทางด้านนอกประตูอีกครั้ง “ฮูหยินตระกูลเมิ่งพาคุณหนูตระกูลเมิ่งมาแสดงความยินดี!”

เดิมทีเฉียวเจียวเจียวยังจมอยู่กับความงามของพี่สะใภ้อยู่ไม่สามารถหลุดออกจากภวังค์ได้ ตอนนี้พอได้ยินชื่อตระกูลเมิ่งก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที

[นางเอก! นางเอกมาอีกแล้ว]

[รีบให้นางมาดูรัศมีที่โดดเด่นของพี่สะใภ้ตัวจริงของข้า ให้นางได้รู้ว่าคุณหนูสมัยโบราณที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีจากครอบครัวขุนนางมีดีไม่แพ้ผู้หญิงที่ทะลุมิติมาหรอก!]

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาฝ่าลิขิตสวรรค์