ตอนที่120หน้าต่างมีหู
จางยวี่โหร่วและหลิงจือเข้าพระราชวังด้วยกันคนหนึ่งไปเยี่ยมเสียนเฟยคนหนึ่งไปเยี่ยมซูเฟย
ซูเฟยก็จะได้เป็นแม่สามีของหลิงจือในไม่ช้ารอนางอภิเษกสมรสกับองค์ชายสองแล้วก็ต้องเรียกพระนางว่าพระมารดาคำหนึ่งอีกทั้งซูเฟยเป็นคนง่ายๆมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลิงจือคาดว่าจะไม่มีความขัดแย้งระหว่างแม่และลูกสะใภ้หลังจากที่นางได้อภิเษกสมรสแล้วจริงๆต้องมีความสุขเต็มเปี่ยมมีความรักใคร่ปรองดองกันแน่ๆ
ความรักล้วนพึ่งพาซึ่งกันและกันไม่สงสัยเลยว่าทำไมหลิงจือชอบเข้าวังไปเยี่ยมยามที่ว่างเว้นแม้แต่นางได้ไปพระตำหนักอ๋องสองเพียงไม่กี่ครั้งล้วนเป็นเป่ยจื่อหัวมาหานางตลอด
เป่ยจื่อหัวยังมีคำบ่นต่อว่าในเรื่องนี้ยังได้บ่นต่อหน้าซูเฟยไปหลายครั้งพระนางซึ่งกำลังจะเป็นยายคนนี้ได้แย่งเอาสะใภ้ของเขาไปแล้ว
ในเมื่อได้เข้าพระราชวังด้วยกันทำไมจึงต้องแยกจากกันไปที่พระราชวังของเสียนเฟยโดยตรงมิดีกว่าหรือแล้วค่อยไปเรียกซูเฟยพร้อมกันทุกคนได้พูดคุยหัวเราะด้วยกันก็ไม่เลวนัก
ต่อให้ไม่ใช่เหตุเพราะพวกนางเดิมความสัมพันธ์ระหว่างซูเฟยกับเซียนเฟยก็ดีมากมาตลอดแต่ตอนนี้รุ่นหลังของพวกนางก็ได้ใกล้ชิดกันนี่เห็นได้ชัดมากว่าเป็นเรื่องดี
เป่ยจื่อหัวไม่พลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้เป็นธรรมดาก็ตามเข้ามาร่วมสนุกสนานด้วยกัน
เดิมองค์หญิงฉางลื่อได้ถูกเสียนเฟยอุ้มไว้ในอ้อมแขนเมื่อเห็นจางยวี่โหร่วและหลิงจือมาพลันดิ้นออกจากอ้อมแขนของนางวิ่งด้วยฝีเท้าน้อยนิดมาหาพวกนาง
“ป้ายวี่โหร่วป้าจือเอ๋อ”
จางยวี่โหร่วรีบอุ้มนางขึ้นมาแล้วจูบไปบนใบหน้าน้อยๆของนางหลายครั้ง
เจ้าสาวน้อยที่น่ารักนี่ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเช่นนี้ทุกครั้งที่ได้เห็นนางหัวใจก็แทบจะหลอมละลายออกมาแล้ว
องค์หญิงฉางลื่อเป็นสมบัติอันล้ำค่าน้อยๆซึ่งเป็นที่รักโปรดปรานของทั้งพระราชวังยากที่จะให้ผู้คนไม่รักชอบนางได้หลิงจือที่มีนิสัยเงียบๆก็ยังถูกเร้าขึ้นมาเห็นจางยวี่โหร่วอุ้มนางก็ยื่นมือออกมาคิดจะกอดแต่ครึ่งทางกลับถูกรั้งไว้
“พระเชษฐารอง!”เมื่อองค์หญิงฉางลื่อได้เห็นเป่ยจื่อหัวปรากฏขึ้นพลันก็มีเรียกคำหนึ่งอย่างมีความสุขอีกนี่เป็นพระเชษฐาที่รักนางตามใจนางที่สุด
ในบรรดาพระเชษฐาทั้งหมดที่นางชื่นชอบที่สุดคือพระเชษฐารองคนนี้แล้ว
เป่ยจื่อหัวมองนางทั่วหน้าแสดงรักโปรดปรานหลังจากนั้นเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของนางเบาๆครั้งหนึ่ง
“ป้าจือเอ๋ออะไรกันภายหน้าเจ้าควรเรียกนางว่าพระเชษฐนี”
“พระเชษฐนี?”ฉางลื่อเบิ่งตาโตทั้งคู่ที่เยิ้มฉ่ำจ้องดูนางแววตาเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ“พระเชษฐาสองเจ้าหลอกคนป้าจือเอ๋อยังไม่ได้แต่งงานกับท่านแล้วนางจะเป็นพระเชษฐนีของหนูได้ยังไงป้าจือเอ๋อสวยมากแบบนี้รอหนูโตขึ้นแล้วหนูจะแต่งงานกับนางน่ะ?”
คำพูดนี้ของนางแย่เล่นจนทำให้คนทั้งห้องอดไม่ได้ต้องหัวเราะออกมา
สาวน้อยห้าหกขวบอย่างนางกลับกล้าพูดคำพูดเช่นนี้ออกมาน่ารักเกินไปแล้ว
“อะไรตอนนี้เปิ่นหวังยังไม่ได้อภิเษกสมรสจือเอ๋อเข้าประตูมาเจ้ากลับเริ่มที่จะคิดถึงพระชายาในอนาคตของเปิ่นหวังแล้วพระเชษฐารองอะไรก็ยอมให้เจ้าได้แต่มีเพียงจือเอ๋อให้ไม่ได้”
เป่ยจื่อหัวทำท่าราวกับล่มสลายออกมาแต่ในน้ำเสียงกลับไม่ได้มีความหมายต่อว่าสักกึ่งยังเต็มไปด้วยความรักโปรดปราน
ซูเฟยหัวเราะพลางกล่าวว่า“พูดขึ้นมาแล้วเจ้ากับจือเอ๋ออยู่ร่วมกันยังเป็นด้ายเส้นแดงที่ฉางลื่อช่วยจูงให้น่ะ”
เป็นเช่นนี้จริงๆเวลานั้นถ้าไม่ใช่นางดึงความสนใจของเป่ยจื่อหัวมายังร่างหลิงจือพวกเขาทั้งสองอาจจะไม่ได้มีบุพเพสันนิวาสเช่นนี้ตอนนี้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันก็ได้พึ่งอาศัยองค์หญิงฉางลื่อน่ะ
ฉางลื่อจูบบนใบหน้าของจางยวี่โหร่วกล่าวเสียงเล็กเสียงน้อยว่า“ถ้างั้นพูดตกลงกันดีโอ้ป้ายวี่โหร่วมาเยี่ยมหนูบ่อยๆสัญญากันเกี่ยวก้อย”
พวกเขาทั้งหมดได้ชุมนุมอยู่ด้วยกันคงไม่สามารถพูดคุยในประเด็นหัวข้อเพียงเรื่องเด็กหรอกน่ะนอกจากนี้ฉางลื่อยังเด็กไม่สามารถมีส่วนร่วมในกิจการของผู้ใหญ่
ดังนั้นเสียนเฟยจึงรับสั่งให้นางกำนัลอุ้มฉางลื่อไปพักผ่อนพวกเขายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกัน
แน่นอนก็ต้องเป็นเรื่องอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาทซึ่งเป็นเรื่องวิเคราะห์นอกเหนือเรื่องต่างพรรคต่างพวกในราชสำนักในส่วนลึกของพระราชวังก็เป็นเหตุผลเดียวกัน
เดิมองค์รัชทายาทยังทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่มีภัยคุกคามแต่อย่างใดทว่าตอนนี้องค์รัชทายาทได้อภิเษกสมรสกับเฉินซูเสียนแล้วพวกเขาทั้งหมดทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงวิกฤตอันตรายแล้ว
ซูเฟยก็มิอาจผลักภาระออกไปนอกกายสมัยก่อนเฉินกั๋วกงได้ดึงพวกเขาแม่ลูกเข้าเป็นพรรคพวกมากล้วนถูกพวกเขาปฏิเสธหลังจากนั้นโอรสของพระนางได้ประกาศอย่างเปิดเผยยืนอยู่ข้างจางยวี่โหร่วที่ท้องพระโรงอีกเป็นปฏิปักษ์กับพวกเขานี่บ่งชี้ชัดว่าได้ฉีกหน้าแตกหักกันไปแล้ว
ตอนนี้เฉินซูเสียนได้อภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาทนี่ไม่ใช่เผยไต๋ว่ามาเพื่อแก้แค้นหรือ?
ถึงแม้ว่าพวกเขาแม่ลูกไม่ได้มีใจทะเยอทะยานกันมากขนาดนั้นแต่ก็มิสามารถไร้การเคลื่อนไหวอยู่นิ่งๆรอคอยให้ถูกผู้คนรังแก
คนข้างในกำลังพูดคุยปรึกษาหารือกันอย่างลับๆใครมิอาจรู้ได้ขณะนี้ข้างนอกมีเงาร่างหนึ่งกำลังลับๆล่อๆอยู่
จางยวี่โหร่วอยู่ใกล้ประตูที่สุดเวลานี้จู่ๆนางได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอกเสียงหนึ่ง“หลันเชียงเจ้าอยู่ที่นี่ทำอะไร?”
หลันเชียง...ไม่ใช่นางกำนัลคนนั้นที่รินเหล้าพิษให้องค์รัชทายาทที่งานเลี้ยงในพระราชวังหรือ?ตอนนั้นจางยวี่โหร่วก็บอกว่าหล่อนเป็นสายลับของลี่เฟยและเป่ยจื่อห้าวซึ่งได้แซมไว้ข้างกายเสียนเฟยตอนนี้ดูเหมือนแล้วเป็นอย่างนี้จริงๆ
ตอนนี้พวกเขาเจ้านายมากมายขนาดนี้กำลังพูดคุยกันอยู่ข้างในนั้นทั้งยังได้ถอยออกไปทั้งทางซ้ายและทางขวาแต่หล่อนยังคงลับๆล่อๆอยู่ข้างนอกเห็นได้ชัดว่าหล่อนคิดจะแอบฟังเอาข่าวหลังจากนั้นไปแจ้งให้ลี่เฟยทราบล่วงหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...