เมื่อออกจากสนามบินแล้ว เย่เฉินก็ขับรถ BMW ของเซียวชูหรันโดยส่งต่งรั่งหลินกลับไปที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงก่อน
ระหว่างทาง เซียวชูหรันยังชวนให้ต่งรั่งหลินไปที่บ้านตัวเอง แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงต่งรั่งหลินก็ไม่เห็นด้วยเลย
แม้จะพูดว่าถ้าไปที่ Tomson Riviera จะสามารถได้ใกล้ชิดกับเย่เฉินมากขึ้น แต่ต่งรั่งหลินก็กลัวหม่าหลันและเซียวฉางควน เพราะถ้าพวกเขาทั้งสองคนนี้ทะเลาะวิวาทกันขึ้นมาแล้วมันจะทำลายทัศนคติมากเกินไป ซึ่งตัวเธอเองในฐานะคนนอก การยืนดูจากข้างๆ แบบนั้นมันคงจะน่าอายเกินไป
ยิ่งไปกว่านั้น เธอมักจะรู้สึกอยู่ตลอดว่าตระกูลเซียวยังมีระเบิดเวลาอีกด้วย
และระเบิดเวลานั้นก็คือหานเหม่ยฉิงรักแรกของเซียวฉางควน
ขนาดหม่าหลันยังไม่รู้เรื่องของหานเหม่ยฉิงเขายังสามารถทะเลาะกับเซียวฉางควนจนโกลาหมอลหม่านขนาดนี้ยิ่งถ้าเขารู้เรื่องนี้ เกรงว่าเขาจะปะทะกันด้วยกำลังอาวุธโดยตรงที่บ้านเลยก็ว่าได้
ดังนั้น เธอจึงคิดว่าตัวเองไม่ควรไปหาความอึดอัดใจที่ Tomson Rivieraและเลือกอยู่ที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงคงจะดีกว่า
แม้ว่าการพักในโรงแรมตัวคนเดียวจะเงียบเหงาไปหน่อยแต่ก็ยังดีที่มีความเป็นอิสระที่แน่นอน และไม่ถูกจำกัด แม้ว่าจะทำให้ห้องรกแค่ไหน แค่ทิ้งไว้ที่นั่นตอนออกไปข้างนอกตอนเช้าก็พอแล้ว พอกลับมาห้องก็จะถูกเก็บกวาดจนสะอาดเรียบร้อยไปเองโดยธรรมชาติ
ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะพูดยังไงเธอจึงไม่ยอมไปที่ Tomson Riviera เลย
หลังจากส่งต่งรั่งหลินไปแล้วเย่เฉินและเซียวชูหรันก็กลับบ้านด้วยกันเซียวชูหรันถามด้วยความเป็นห่วงว่า "เย่เฉิน คุณช่วยดูฮวงจุ้ยให้บ้านคุณกู้เสร็จแล้วหรือยังไง?"
"ดูเสร็จแล้ว" เย่เฉินยิ้มพร้อมกับพูดว่า "พวกเขาทั้งครอบครัวพอใจมากเลยล่ะยังให้คำชมเชยระดับห้าดาวด้วยนะ”
เซียวชูหรันสบายใจขึ้นมาทันทีเธอพูดว่า “แค่พวกเขาพอใจก็ดีแล้ว และเราก็สบายใจกับการได้มาของเงินก้อนนี้ด้วย”
เธอพูดพร้อมกับถามเย่เฉินอีกครั้งว่า “คุณซื้อสินค้าแอร์เมสมาเยอะขนาดนั้น คงไม่ใช่เงินน้อยๆ แน่เลยนะ?"
เย่เฉินยิ้มพร้อมกับพูดว่า "ที่รักครับ สินค้ารุ่นจำนวนจำกัดของแอร์เมสมันไม่ใช่ถูกๆ เลย แต่คุณไม่ต้องคิดว่าเงินก้อนนี้มันแพงมากหรอก เพราะกระเป๋ารุ่นจำนวนจำกัดของแอร์แม็สนั้นมีค่ามาก แม้แต่ยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้ได้อีกนะ กระเป๋าแบบนี้ถ้าถูกขายต่อ อย่างน้อยต้อง 6 แสนถึง 7 แสนหยวน หรือสูงกว่านั้นด้วยซ้ำ”
เซียวชูหรันกล่าวอย่างกังวลว่า “แต่กระเป๋าใบนี้มันก็แพงเกินไปจริงๆ นะ ฉันจะทำใจยอมใช้มันได้ที่ไหนกันล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นฐานะของฉันมันก็ไม่สามารถใช้กระเป๋าที่ราคาแพงขนาดนี้ประกอบตัวได้หรอก ถ้าอย่างงั้นคุณก็ขายมันต่อสิ!”
เย่เฉินพูดอย่างเร่งรีบว่า “จะทำอย่างนั้นได้ยังไง! นี่เป็นของขวัญที่ผมเลือกให้คุณเลยนะ ผมจะขายมันได้ที่ไหนกัน?”
ขณะที่พูดไปแบบนั้น เขาก็พูดขึ้นอีกว่า “ที่รักครับ กระเป๋าใบนี้คุณใช้มันได้อย่างสบายใจเลย ถ้าพังแล้ว เราค่อยซื้อใบใหม่ สามีของคุณตอนนี้เป็นปรมาจารย์ฮวงจุ้ยในสายตาของข้าราชการระดับสูงแล้ว และในฐานะที่คุณเป็นภรรยาของผม การใช้กระเป๋าใบละใบครึ่งล้านมันจะไปนับประสาอะไรได้? แต่ถ้าคุณไม่ใช้ ไม่แน่ว่าต่อไปคนอื่นเขาจะว่าผมยังไงอาจจะพูดว่า เย่เฉินคนนี้ขี้เหนียวเกินไป หาเงินได้มากขนาดนี้ แม้แต่กระเป๋าดีๆ สักใบยังทำใจซื้อให้ภรรยาไม่ได้!”
เซียวชูหรันเห็นว่าเย่เฉินยืนกรานและพูดก็มีเหตุผลดี เธอจึงถอนหายใจเบาๆ และพูดอย่างซาบซึ้งว่า "ที่รักคะ งั้นฉันจะฟังคุณขอบคุณมากนะคะ..."
เย่เฉินยิ้มพร้อมกับพูดว่า "จะเกรงใจกับสามีไปทำไมกันล่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...
รอตอนต่อไปอยู๋นะครับกำลังสนุกเลย...
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะครับ กำลังสนุกเลย...
ไม่มีอัพเดตแล้วหรือครับ กำลังสนุกเลย...
99% เว็บนี้แปลใกล้เคียงคำพูดของคนไทยที่สุด เสียดายเขาไม่แปลต่อให้ เว็บอื่นเขาไปไกลแล้วแต่แปลเข้าใจยากหน่อย ต้องใช้การเดาเข้าช่วยถึงพอจะเข้าใจ มีเว็บที่เป็นภาษาจีนล้วน ลองใช้โปรแกรมแปลภาษาดู ก็เหมือนเว็บอื่นๆที่ว่า ผลสุดท้ายก็กลับมาอ่านเว็บนี้ต่อ คิดว่าถ้าอ่านจนจบที่เขาแปล ก็คงไปหาอ่านเว็บอื่นต่อ เดาเอา😁...
อัพตอนต่อไปหน่อยครับกำลังสนุกเลย...
il semble que c'est leur fin d'histoire comme ça . merci pour ce temps de lecture,nous aurions préféré un lien d'achat complète du livre hélas . il temps de faire autre chose désormais...