ความอบอุ่นยังคงอ้อยอิ่งอยู่ที่บริเวณเอวบางของชูว่าน แต่หัวใจของเธอกลับตกลงตาตุ่มเสียแล้ว เธอแลบลิ้นเลียริมฝีปากสีแดงสด ในใจคิดว่า "ผู้ชายคนนี้ช่างลึกลับจริง ๆ"
เซียวอี้พาชูว่านเดินเข้าไปในลิฟต์ ทั้งสองคนไม่ได้สนทนากันอีก ต่างคนต่างครุ่นคิดเรื่องบางอย่างอยู่ในใจ
ไม่นานลิฟต์ก็เคลื่อนตัวลงถึงลานจอดรถ
ทันทีที่ก้าวขาออกจากลิฟต์ เซียวอี้พลันชะงักกึก กล้ามเนื้อทั่วร่างของเขาเครียดเกร็งทันที เขารีบดึงชูว่านไปที่ด้านหลัง
"มีอะไรเหรอ?" ชูว่านเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
“มีบางอย่างผิดปกติ คุณขับรถออกไปรอผมข้างนอกก่อน” เซียวอี้เอ่ยเบา ๆ เขาใช้การหยั่งรู้ศักดิ์สิทธิ์อย่างระแวดระวัง และเริ่มตรวจสอบพื้นที่โดยรอบช้า ๆ
มีกลิ่นคาวเลือดฉุนจมูกโชยมา
เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเซียวอี้แล้ว ชูว่านจึงรีบขึ้นรถฮัมเมอร์ขับออกไปในทันที
เซียวอี้ค่อย ๆ เดินตรวจสอบลานจอดรถอย่างระมัดระวัง เขาเดินไล่ไปตามพื้นที่ระหว่างรถยนต์ที่จอดอยู่
เมื่อการหยั่งรู้ศักดิ์สิทธิ์กวาดผ่านรถมินิคูเปอร์สีแดงคันเล็ก เซียวอี้พลันนิ่งค้าง เขาเดินเข้าไปเปิดประตูรถออก
หญิงสาวผู้หนึ่งก้มหน้าฟุบพวงมาลัย ร่างกายท่อนล่างที่นั่งบนเบาะชุ่มโชกด้วยเลือด กลิ่นคาวของโลหิตโชยฟุ้งทั่วทั้งรถ
เซียวอี้ขมวดคิ้ว เขาประคองร่างผู้หญิงคนนั้นให้เงยหน้าขึ้นมา
“เป็นเธอคนนั้น!”
หญิงสาวผู้นี้กลับกลายเป็นสาวน้อยขายสมุนไพร
หัวใจของเซียวอี้บีบรัด เขารีบตรวจดูบาดแผลของเด็กสาวทันที อย่างไรก็ตามหลังตรวจดูอาการแล้ว เขากลับตื่นตะลึง เพราะเส้นลมปราณของเธอแตกสลายทั้งหมด หากจะช่วยเธอคงยากแล้ว! มีเพียงเศษเสี้ยวพลังชีวิตเบาบางที่หลงเหลืออยู่บริเวณอกของเธอ
เซียวอี้รีบหยิบเข็มเงินออกมาทันที เขาฉีกเสื้อโค้ตของสาวน้อยอย่างเร่งร้อน และปักเข็ม 2-3 เล่มลงบนอกของหญิงสาวด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด เขาพลิกบิดนิ้วเบา ๆ และเริ่มต้นใช้เคล็ดวิชาเข็มจตุรงค์
ยามที่ริ้วสีแดงปรากฏขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เด็กสาวพลันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า มีแสงสีแดงแปลกประหลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอด้วยเช่นกัน
เซียวอี้รู้ว่านี่คือลมหายใจเฮือกสุดท้ายในร่างของเธอแล้ว หลังจากนี้เธอคงต้องสิ้นลมไปตลอดกาล
เด็กสาวจับจ้องเซียวอี้ ริมฝีปากของเธอเริ่มขยับ เธอเอ่ยช้า ๆ ว่า "เมื่อกี้... ผู้ชายคนหนึ่ง..."
“ผู้ชายที่แย่งซื้อสมุนไพรกับฉันรึเปล่า?” เซียวอี้ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยถาม
เด็กสาวพยักหน้าด้วยความยากลำบาก
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเซียวอี้กระตุกอย่างรุนแรง แม้เด็กสาวจะไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เขาก็พอเดาตัวตนของฆาตกรออกแล้ว นอกจากผู้ฝึกตน ก็ไม่มีใครอื่นอีก
เป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะโหดร้ายกับเด็กสาวไร้ทางสู้ได้ถึงเพียงนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพิจารณาจากฉากนองเลือดดุจแม่น้ำโลหิตแล้ว ห็นได้ว่าชายผู้นั้นกำลังตามหาบางสิ่ง
"ไอ้ชั่วนั่น!" ดวงตาของเซียวอี้ฉายแววเวทนา เขาเอ่ยว่า "เส้นลมปราณของเธอแตกสลายหมดแล้ว ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้อีก เธอมีความปรารถนาใดมั้ย? บางทีฉันอาจช่วยเธอได้"
เด็กสาวมองดูสายลูกปัดที่ห้อยอยู่บนกระจกมองหลังอย่างยากลำบาก เธอพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า "ลูกปัด..."
“ลูกปัด ลูกปัดทำไมรึ?” เซียวอี้ถามอย่างร้อนรน
ทว่าศีรษะของเด็กสาวกลับไถลตกอย่างรุนแรง เธอเสียชีวิตคาที่แล้ว
หัวใจของเซียวอี้สั่นสะท้าน
เซียวอี้ประสบพบเห็นชีวิตและความตายมามาก ทว่าในค่ำคืนนี้ การตายของเด็กสาวผู้นี้กลับทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้ง
การที่ชายผู้นั้นสามารถสังหารเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ได้ด้วยวิธีการโหดเหี้ยมเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ ผู้ฝึกตนคนนั้นคือเศษสวะที่มีจิตใจหยาบช้า
เซียวอี้ถอนหายใจ เขาเอื้อมมือไปปิดตาเด็กสาว จากนั้นจึงหยิบลูกกำไลลูกปัดที่ห้อยอยู่บนกระจกมองหลัง เขารีบรุดออกจากลานจอดรถ และขึ้นรถฮัมเมอร์ของชูว่าน
"มีอะไรรึปล่า?" ชูว่านถาม
เซียวอี้ส่ายศีรษะช้า ๆ เขาเหลือบมองชูว่านเล็กน้อย ก่อนพูดว่า "ไม่มีอะไร เรากลับกันเถอะ"
แม้ชูว่านยังคงสงสัยในใจ แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เธอเหยียบคันเร่งและพาเซียวอี้กลับไปยังหอจี้ซื่อ
ฉินกวงหมิงและเสี่ยวเยว่กำลังนอนหลับ เซียวอี้ไม่อยากรบกวนพวกเขา จึงเดินตรงดิ่งเข้าไปในห้องของตัวเอง
เซียวอี้นั่งลงบนเตียง ในมือกำกำไลลูกปัดไว้ เขาต้องการสืบหาเบาะแสบางอย่าง บางทีนี่อาจเป็นความลับที่ฆาตกรต้องการก้ได้ สาวน้อยผู้นี้ฉลาดหลักแหลมมากจริง ๆ เธอจงใจห้อยมันไว้ที่กระจกมองหลัง ทำให้ไม่มีใครหาเจอได้ง่าย ๆ
เซียวอี้ตวัดนิ้วร่ายอาคมจากคัมภีร์ต้นตำรับยามหาเวทย์ เขาควบคุมลมปราณในร่าง และค่อย ๆ โคจรพลังของโอสถให้เคลื่อนสู่ทุกเส้นลมปราณอย่างช้า ๆ
พลังแข็งแกร่งของโอสถอายุวัฒนะขยายหลอดเลือดของเซียวอี้ หล่อเลี้ยงกระดูก อวัยวะภายใน กล้ามเนื้อ และผิวหนังของเซียวอี้อย่างรวดเร็ว
เซียวอี้รู้สึกเหมือนมีแรงมหาศาลยืดร่างกายของเขาออก แรงนั้นทำลายล้างร่างกายเดิมของเขา แล้วจัดระเบียบมันใหม่ทั้งหมด ร่างกายของเขาแยกออกเป็นเสี่ยง ๆ อย่างต่อเนื่อง เลือดกระเซ็นซ่านออกมาทั่วร่าง ทว่าร่างใหม่กลับถูกสร้างขึ้นทันทีด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
ถึงเซียวอี้จะเตรียมใจไว้แล้วสำหรับความเจ็บปวดเช่นนี้ แต่เขาก็ยังบิดเร่าด้วยความทรมาน แม้เขาจะมีวิธีบรรเทาความเจ็บปวดให้ตนเองนับร้อยวิธี แต่เขาก็หาได้ทำเช่นนั้นไม่ เพียงกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวดเท่านั้น
ผู้ฝึกตนจำต้องทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส จึงจะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งได้ เส้นทางแห่งการฝึกฝนเต็มไปด้วยความยากลำบาก ความเจ็บปวดทางกายเช่นนี้มีแค่ในระยะแรกเท่านั้น หากคิดบรรเทาความทุกข์ทรมานในตอนนี้ จิตจะไม่สงบ ภายภาคหน้าจะเกิดจิตมารได้
เซียวอี้บำเพ็ญเพียรนานถึง 300 ปีในชาติที่แล้ว เขาจะเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน?
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง อาการปวดร้าวค่อย ๆ ทุเลาลง เซียวอี้รู้สึกว่าร่างกายของตนเบาหวิวดั่งขนนก ประดุจหากขยับตัวเพียงเล็กน้อย เขาก็จะล่องลอยเช่นนั้น
เซียวอี้ลืมตาขึ้นช้า ๆ เขาได้ยินเสียงคำรามกึกก้องในร่างกายของตน เฉกเช่นเดียวกับแม่น้ำที่หลอมละลายในฤดูใบไม้ผลิ สายธารไหลเวียนทั่วร่างของเขาด้วยพลังไม่มีที่สิ้นสุด ความรู้สึกแข็งกระด้างระเบิดออกจากร่างกายของเขาในทันที
เซียวอี้ก้มดูตัวเองอย่างระมัดระวัง และพบว่าตนได้ก้าวเข้าสู่ระดับกลางของโลกแล้ว ความแข็งแกร่งของเขายิ่งเพิ่มพูนขึ้น และแข็งแกร่งพอที่จะปลิดชีพกระทิงด้วยหมัดเดียว สิ่งนี้ทำให้เซียวอี้มีความสุขมาก แม้จะมีความแตกต่างเพียงนิดเดียวระหว่างระดับมนุษย์และโลก แต่หากปราศจากการเกื้อหนุนของโอสถชำระไขกระดูก ก็ยากมากที่จะเติมเต็มช่องว่างนั้น
ครั้งนี้ด้วยความช่วยเหลือของเม็ดโอสถชำระไขกระดูก เซียวอี้ไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่อีกระดับเท่านั้น แต่ยังก้าวไปถึงขั้นกลางของระดับนี้ด้วย ไม่เสียชื่อที่เป็นโอสถชำระไขกระดูกจริง ๆ อย่างไรเขาก็ลงทุนลงแรงด้วยสมุนไพรจำนวนมาก
เซียวอี้รู้สึกถึงความแข็งแกร่งทั่วร่างกายของตน เขาเปล่งเสียงคำรามยาว
เซียวอี้รู้สึกสดชื่น ยามที่ก้มมองตนเอง เขาพบว่าร่างกายของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่เมื่อเพ่งมองใกล้ๆ กลับพบว่าผิวหนังและกล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้แต่ผิวหนังทั่วร่างก็ยังมีสัมผัสนุ่มนวลและขาวกระจ่างขึ้น ผิวของเขานุ่มนวลราวเนื้อหยก เทียบได้กับชูว่านและเสี่ยวเยว่เลยทีเดียว
นี่คือประสิทธิภาพจากเม็ดโอสถ นับตั้งแต่นี้ร่างกายของเขาจะบริสุทธิ์ผุดผ่องราวทารกแรกเกิด ปราศจากราคีแปดเปื้อนใด ๆ และการฝึกฝนของเขาจะยิ่งรุดหน้าไวขึ้น
เซียวอี้ผุดลุกขึ้น เขาถอดเสื้อกางเกงที่เปรอะเปื้อนเลือดออก ห่อเสื้อผ้าสกปรกด้วยผ้าปูที่นอน และคิดจะนำไปโยนทิ้งวันพรุ่งนี้
เซียวอี้ในร่างเปลือยเปล่าลุกลงจากเตียง เขาเปิดประตู และต้องการอาบน้ำร้อนชำระร่างกาย
ทว่าทันทีที่ประตูเปิดออก เซียวอี้กลับแปลกใจมากที่เห็นเสี่ยวเยว่ยืนตาปรืออยู่หน้าประตู มือเล็กนุ่มนิ่มกำหมัดแน่น ดูเหมือนเธอกำลังจะเคาะประตูพอดี
"กรี๊ด" เมื่อร่างเปลือยเปล่าของเซียวอี้เผยสู่สายตาของเสี่ยวเยว่ เธอตกใจมากจนเผลอยกมือปิดปาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ
รออยู่ครับ...