ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 100

ฉู่โม่หยวนเหลือบมองหลี่เล่อหย่าด้วยสายตาที่เรียบเฉย จากนั้นจึงเอ่ยว่า “เสด็จพ่อ เสด็จแม่ เมื่อครู่นี้เพิ่งมีคนตำหนิเครื่องแต่งกายของเมิ่งหวันพ่ะย่ะค่ะ ลูกเลยสั่งให้ลงโทษพวกนางไปแล้ว”

“เสวียนยี เอาตัวไป อย่าให้มารบกวนพระทัยของเสด็จพ่อเสด็จแม่”

สวี่ซื่อตื่นตระหนกสุดขีดจนไม่สนใจกฎเกณฑ์อีกต่อไป นางกอดหลี่เล่อหย่าไว้แน่นและหันไปร้องห่มร้องไห้เอ่ยกับฮ่องเต้และฮองเฮาว่า “ฝ่าบาทโปรดอภัยด้วย ฮองเฮาโปรดอภัยด้วย ขอฮ่องเต้กับฮองเฮาโปรดยกโทษให้เด็กน้อยด้วยเถิดเพคะ!”

พระขนงของฮองเฮาขมวดขึ้นมาเล็กน้อยจนยากจะสังเกต ในขณะที่ฮ่องเต้ตรัสอย่างเคร่งขรึมว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

ใบหน้าของสวี่ซื่อเต็มไปด้วยคราบน้ำตา และนางก็ไม่สนกฎเกณฑ์อะไรทั้งนั้น

ยังไม่ทันที่ฉู่โม่หยวนจะตอบ นางก็คุกเข่าคลานไปข้างหน้า “ฝ่าบาท ฮองเฮา เด็กน้อยผู้นี้ไม่รู้ว่าชุดที่คุณหนูหลินสวมมาวันนี้เป็นชุดที่จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยทรงประทานให้ ทั้งยังไม่รู้ว่าเป็นของขวัญจากฮ่องเต้กับฮองเฮา นาง... นางแค่คิดว่าชุดนี้ค่อนข้างเปิดเผยเกินไปและไม่เหมาะสม ดังนั้น... ดังนั้นจึงเตือนคุณหนูหลินไปนิดหน่อยเพคะ”

“เด็กน้อยผู้นี้ปากมาก สมควรถูกลงโทษ แต่จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยทรงคิดจะส่งนางไปที่หอนางโลม ฮึกๆ ฮือ...” เฉิงเซี่ยงฮูหยินสวี่ซื่อร้องไห้อย่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ต่อมาก็ยิ่งสะอื้นไห้หนักขึ้นอีก

“ฝ่าบาท ฮองเฮา เด็กคนนี้ไม่ได้เจตนาจริงๆ เพคะ ขอฝ่าบาทกับฮองเฮาโปรดไว้ชีวิตเด็กผู้นี้ด้วย!”

สวี่ซื่อคุกเข่าลงกับพื้นและสะอื้นไม่หยุด

ตอนนี้นางกังวลสุดขีด นึกเกลียดทั้งหลินเมิ่งหวันและฉู่โม่หยวน

เหตุใดฉู่โม่หยวนกับหลินเมิ่งหวันจึงไม่บอกตั้งแต่แรกว่าชุดนี้เป็นของขวัญจากฮ่องเต้และฮองเฮา จงใจรอให้หลี่เล่อหย่าพูดเรื่องไม่เหมาะสมเช่นนี้ออกมาเอง นี่มันมีเจตนาร้ายชัดๆ

แต่ที่นางเกลียดยิ่งกว่ากลับเป็นฉีซือเหมี่ยว

ฉีซือเหมี่ยวกับหลี่เล่อหย่าคบหากันมาหลายปี แต่ฉีซือเหมี่ยวกลับคิดจะให้หลี่เล่อหย่าเป็นหนังหน้าไฟ เฉิงเซี่ยงฮูหยินยกโทษให้นางไม่ได้จริงๆ

ดังนั้นที่นางอ้อนวอนไปเมื่อครู่นี้นางจึงไม่ได้สนใจฉีซือเหมี่ยวเลย

ฮองเฮาทรงขมวดพระขนงมองหลินเมิ่งหวันอย่างไม่พอพระทัย

เป็นหลินเมิ่งหวันอีกแล้วที่ก่อเรื่อง!

พระนางไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฮ่องเต้ พระองค์จึงได้เลือกหลินเมิ่งหวันมาเป็นจิ่งหวังเฟย แม้แต่ฉู่โม่หยวนเองก็เห็นด้วยและหลงใหลแม่สาวน้อยหลินเมิ่งหวันผู้นี้มาก!

ฮ่องเต้ประหลาดใจเมื่อได้ยินดังนั้น พระองค์มองฉู่โม่หยวนพลางขมวดคิ้วและตรัสว่า “หยวนเอ๋อร์ ในเมื่อทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ เจ้าลงโทษเช่นนี้จะไม่หนักไปหน่อยหรือ”

ฉู่โม่หยวนเอ่ยด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงว่า “ลูกเข้าใจเรื่องการกระทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจดีพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่คุณหนูหลี่กับฉีซือเหมี่ยวไม่เพียงแต่ด่าประจานเมิ่งหวัน แต่พวกนางยังสงสัยในพระประสงค์ของเสด็จพ่ออีกด้วย”

“พวกนางทั้งสองคนได้กระทำการดูหมิ่นอย่างร้ายแรงใหญ่หลวง ลูกลงโทษพวกนางแค่นี้ก็เพราะเห็นแก่หน้าของหลี่เฉิงเซี่ยงกับหมอหลวงฉี ถ้าจัดการตามกฎหมายจริงๆ เกรงว่าลงโทษแค่นี้จะยังน้อยไปพ่ะย่ะค่ะ”

สวี่ซื่อใจหายและรีบเอ่ยว่า “จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยตรัสเกินไปเพคะ เล่อหย่าไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการดูหมิ่นฝ่าบาทเลยแม้แต่น้อย”

“งั้นหรือ” ฉู่โม่หยวนหัวเราะเยาะ สายตาที่เฉียบคมของเขาทำให้สวี่ซื่อรู้สึกชาไปทั้งหนังศีรษะ “เจ้าหมายความว่า ข้าใส่ร้ายเจ้าผิดๆ งั้นสิ”

สวี่ซื่อตัวสั่นเทา “หม่อมฉันมิกล้า!”

ฉู่โม่หยวนกวาดสายตามองทุกคน “สิ่งที่คุณหนูหลี่กับคุณหนูฉีพูดก่อนหน้านี้ ทุกคนในที่นี้น่าจะได้ยินกันชัดเจนหมดแล้ว ทำไมทุกคนไม่บอกมาเลยล่ะ ว่าตกลงแล้วข้าใส่ร้ายพวกนางผิดๆ จริงหรือไม่”

ทุกคนรีบก้มหน้า ไม่มีใครกล้าเอ่ยขึ้นมาในเวลานี้

หากช่วยหลี่เล่อหย่าก็จะเป็นการทำให้ฉู่โม่หยวนขุ่นเคือง แต่ถ้าช่วยเป็นพยานให้ฉู่โม่หยวนก็จะเป็นการทำให้หลี่เฉิงเซี่ยงขุ่นเคือง

เวลานี้ทำตัวให้เล็กได้เท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น

ถ้าหลินเมิ่งหวันกล้ายกเลิกการแต่งงาน เขาจะไม่ให้อภัยนางแน่นอน!

ฮ่องเต้กับฮองเฮาทรงขมวดพระขนงมองหลินเมิ่งหวันด้วยสีพระพักตร์ที่มืดมนจนอธิบายไม่ถูก

แต่กลับได้ยินหลินเมิ่งหวันเอ่ยว่า “เมิ่งหวันซาบซึ้งในน้ำพระทัยของฝ่าบาทยิ่งนัก หลังจากได้รับพระราชโองการ เมิ่งหวันก็ปฏิญาณว่าจะต้องควบคุมคำพูดและการกระทำของตนเอง จะทำอะไรที่ทำให้จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยต้องเสียพระเกียรติอีกไม่ได้ เพียงแต่... สิ่งต่างๆ ในอดีตเป็นสิ่งที่เมิ่งหวันทำผิดไว้จริงๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่คุณหนูหลี่กับคุณหนูฉีจะไม่พอใจในอดีตของเมิ่งหวัน”

“ยิ่งไปกว่านั้นจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยยังทรงมีศักดิ์สูงส่ง สง่าผ่าเผย รอบรู้ทั้งการบู๊การบุ๋น จึงเป็นเรื่องปกติที่สตรีหลายคนจะพึงใจในตัวพระองค์ เวลานี้ฝ่าบาททรงโปรดปรานเมิ่งหวัน ทำให้เมิ่งหวันได้เปรียบเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้แม่นางคนอื่นๆ จึงมองเมิ่งหวันอย่างไม่ถูกชะตาเพคะ”

หลินเมิ่งหวันเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญ เผยรอยยิ้มต่อหน้าฮ่องเต้และฮองเฮาอย่างเอาใจ

นางเป็นคนสวยอยู่แล้ว เมื่อยิ้มแบบนี้จึงยิ่งทำให้มีเสน่ห์ มีเสน่ห์งดงามจนดอกไม้หลากสีสันในฮัวหยวนดูเหมือนจะหม่นแสงลงไป

ฉู่โม่หยวนมองหลินเมิ่งหวันอย่างคาดไม่ถึง ทันใดนั้นแววความปีติก็ปรากฏขึ้นมาในดวงตาที่ลุ่มลึกคู่นั้น

หลินเมิ่งหวันไม่ได้คิดจะยกเลิกงานแต่ง!

นอกจากนี้นางยังชื่นชมเขาต่อหน้าทุกคน! บอกว่านางได้เปรียบคนอื่น!

แบบนี้หมายความว่าหลินเมิ่งหวันกำลังคิดว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมใช่หรือไม่?

ฉู่โม่หยวนรู้สึกว่าภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นมาในหัวใจของเขาได้แปรเปลี่ยนสายธารน้ำผึ้งที่เดือดพล่านอย่างฉับพลัน ให้ความรู้สึกทั้งหวานและอบอุ่นจนเขาแทบจะจมหายลงไปในนั้น

ฮ่องเต้ชะงักไปนิดหนึ่ง ทันใดนั้นก็ทรงแย้มสรวลและตรัสว่า “เจ้านี่ก็นะ ช่างเจียมเนื้อเจียมตัวเสียจริง”

พระองค์มองหลินเมิ่งหวันและถามว่า “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าควรจะจัดการอย่างไรกับแม่นางสองคนนี้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก