ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 48

ทุกคนจ้องมองหลี่จิ่นซูด้วยสายตาที่คลุมเครือยิ่งขึ้น

หลี่จิ่นซูโมโหมากจนเส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปน

เขาคิดจะแย่งหลินเมิ่งหวันจากจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยจริงๆ แต่ไม่ใช่ตอนนี้

หลี่เล่อหย่าตะโกนออกมาอย่างไม่สนใจสิ่งใด แล้วหลี่จิ่นซูจะยอมรับได้อย่างไร

ถ้าเขายอมรับก็หมายความว่าเขารนหาที่ตาย

หลี่จิ่นซูขมวดคิ้วมองหลี่เล่อหย่า “หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว คุณหนูหลินช่วยเจ้าไว้ แต่เจ้ากลับสนองคุณด้วยโทษ ย่อมต้องขอโทษเป็นธรรมดา”

“นางไม่ได้ช่วยข้า นางจะผลักข้าลงไป นางคิดจะฆ่าข้า! นางรังแกข้า แม้แต่ท่านก็รังแกข้า! ข้า... ข้าจะไปฟ้องท่านพ่อ!”

หลี่เล่อหย่าจ้องมองหลี่จิ่นซูอย่างเดือดดาลและรู้สึกเดียวดายไร้ความช่วยเหลือ ความโกรธที่อัดแน่นเต็มหัวใจแปรเปลี่ยนเป็นความน้อยใจอย่างหนักหนา นางผลักหลี่จิ่นซูเต็มแรงและวิ่งปิดหน้าออกไป

นางจะบอกท่านพ่อ ให้ท่านพ่อจัดการหลี่จิ่นซูขั้นรุนแรง และจะขอให้ท่านพ่อช่วยนางจัดการนังสารเลวหลินเมิ่งหวันคนนี้ด้วย!

หลินเมิ่งหวันไม่ได้หยุดนางไว้ มีเพียงมุมปากที่แย้มขึ้นมาอย่างเยียบเย็น

วันนี้หลี่เล่อหย่าร้องไห้กลับไปทั้งแบบนี้ หนีไม่พ้นต้องถูกแปะป้ายว่าเป็นคนเอาแต่ใจและไร้มารยาท

นอกจากนี้ พอเจอปัญหาแล้วก็วิ่งไปหาพ่อน่ะหรือ?

โตจนจะแต่งงานออกเรือนได้แล้วแต่ยังทำตัวเป็นเด็กๆ แบบนี้คงควบคุมดูแลเรือนไม่ได้แน่

เหล่าผู้คนจากครอบครัวสูงศักดิ์ที่ให้ความสำคัญกับการคบหากับบุตรีเอกภรรยาแห่งจวนเฉิงเซี่ยง เกรงว่าคงทำได้แค่ต้องไตร่ตรองอย่างระมัดระวัง

อย่างไรเสีย ก็ไม่มีใครอยากให้ตระกูลของตนเองวุ่นวายมิใช่หรือ

หลี่จิ่นซูหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เขามองแผ่นหลังของหลี่เล่อหย่าและแอบด่านางว่าคนโง่

เขาระงับความโกรธและหันไปมองหลินเมิ่งหวัน

วันนี้นางแต่งกายงดงามมากจริงๆ

อาภรณ์สีแดงกับปิ่นทองคำทั้งล้ำค่าและงดงาม คิ้วที่ขมวดเล็กน้อยทั้งสง่างามและมีเสน่ห์

หลี่จิ่นซูมองหลินเมิ่งหวันและรู้สึกว่านางใจเย็นกว่าหลินเมิ่งหวันที่เคยอยู่ในความทรงจำของเขามากนัก ความไม่เป็นโล้เป็นพายและความเย่อหยิ่งก็ลดลงไปมาก

เวลานี้นางยืนอยู่ข้างกายฉินฉู่อี้ด้วยท่าทีที่สง่าเพียบพร้อม ไม่ว่านางทำตัวน่ารักหรือกำลังโกรธก็ดูมีชีวิตชีวาไปหมด

ผู้หญิงคนนี้เป็นของเขา!

ต้องเป็นนางเท่านั้น!

หลี่จิ่นซูควบคุมอารมณ์ให้มั่นคงและยิ้มด้วยท่าทีที่ดีที่สุด จากนั้นจึงโค้งคำนับหลินเมิ่งหวัน

เขาเอ่ยเสียงดังว่า “คุณหนูหลิน น้องสาวไม่รู้อะไรควรไม่ควร ไปล่วงเกินท่าน ข้าต้องขอโทษแทนน้องหญิงด้วย ขอคุณหนูหลินโปรดอย่าถือโทษโกรธเคือง”

หลินเมิ่งหวันขมวดคิ้วและเหลือบมองหลี่จิ่นซู ในใจเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

เฮอะ หลี่จิ่นซูยังจะมาเรียกร้องความสนใจอะไรอีก

ไม่ว่าจะเป็นชาติก่อนหรือชาตินี้ หลี่จิ่นซูมักจะทำตัวสุภาพอ่อนโยนและมีมารยาทเสมอ

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อหลี่จิ่นซูอยู่ต่อคนอื่น เขามักจะสุภาพและทำตัวเหินห่างกับนาง ทว่าเมื่ออยู่ในที่ลับตาคน เขามักจะพูดคำพูดที่คลุมเครือ จงใจทำสิ่งที่ยั่วยวนนาง

โชคดีที่ชาติก่อนนางเชื่อว่าหลี่จิ่นซูทำเพื่อปกป้องชื่อเสียงของนาง แต่ตอนนี้เมื่อมีชีวิตใหม่ หลินเมิ่งหวันมีหรือจะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าหลี่จิ่นซูทำเพื่อปกป้องตัวเขาเอง

นางกับจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยมีสัญญาหมั้นหมายกันแล้วและเป็นคนของราชวงศ์ ถ้าหลี่จิ่นซูเข้ามาพัวพันกับนาง อย่าว่าแต่หลี่จิ่นซูเลย แม้แต่จวนเฉิงเซี่ยงก็จะต้องเดือดร้อนไปด้วย

แต่ถ้าเป็นนางที่ตามตื๊อหลี่จิ่นซูอย่างไม่ลดละและหลี่จิ่นซูยืนกรานปฏิเสธนาง ทุกคนก็จะพูดได้แค่ว่านางไร้ยางอาย

เฮอะ! ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนที่ช่วยหลี่จิ่นซูแบกรับความอัปยศทั้งหมดมาตลอด!

ความเกลียดชังพลุ่งพลานอยู่ในใจของหลินเมิ่งหวัน นางกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์

นางมองหลี่จิ่นซูและเอ่ยด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาว่า “ก็ไม่ขนาดว่าโกรธเคืองหรอก และคุณชายหลี่ก็ไม่จำเป็นจะต้องขอโทษ”

ทันใดนั้นทุกคนก็เงี่ยหูฟัง อยากได้ยินว่าหลินเมิ่งหวันจะพูดอะไรต่อ

“เจ้านาย คุณหนูหลิน...”

คิ้วของฉู่โม่หยวนขมวดเข้าหากันทันที มือที่ถือถ้วยชาก็กระชับแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว

พระเนตรของไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยเป็นประกายเล็กน้อย เขาหลุบตามองมือใหญ่ที่ข้อต่อนิ้วกลายเป็นสีขาว จากนั้นจึงเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ถ้ามีกิจอันใดต้องทำเจ้าก็ไปเถิด ข้าเองก็ควรกลับตงกงไปช่วยเสด็จพ่อจัดการกิจในราชสำนักเหมือนกัน”

“อื้ม แล้วจะหาเวลาไปดื่มชากับเสด็จพี่รองวันหลัง”

ฉู่โม่หยวนลุกขึ้นคำนับและก้าวยาวๆ ออกไปจากศาลา ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยทอดพระเนตรแผ่นหลังของเขา จากนั้นมุมพระโอษฐ์จึงแย้มขึ้นมาเล็กน้อย

ในสนามแข่งโปโล ทั้งสองฝ่ายที่อยู่บนหลังม้ากำลังสู้กันอย่างดุเดือด

ทันทีที่หลินเมิ่งหวันมาถึง นางก็เห็นฉินจิ้งเจาอยู่บนหลังม้าในอาภรณ์ที่งดงาม

สองพี่น้องดูเหมือนจะใจตรงกันเพราะต่างก็สวมชุดแดงมาเหมือนกันโดยมิได้นัดหมาย

เพียงแต่ที่ฉินจิ้งเจาสวมคือชุดสำหรับขี่ม้า เส้นผมสีดำซึ่งรัดไว้ด้วยกวานหยกโบกสะบัดไปทั่ว

เขาจับไม้ตีลูกและเฆี่ยนม้าให้ตะบึงออกไป ทันใดนั้นก็โน้มตัวลงไป โบกไม้สกัดลูกบอลโปโลของฝ่ายตรงข้าม ตีลูกกลมๆ ไปทางประตูอย่างแรง

มีเสียงดัง “ฟุบ!” ลูกบอลโปโลผ่านเข้าไปตรงกลางประตูพร้อมกับคลื่นลมแรง

“พี่หกสุดยอดไปเลย!”

หลินเมิ่งหวันดีใจสุดขีด นางปรบมือและตะโกนเสียงดังลั่น

แคว้นตงเยว่เป็นแคว้นที่อุดมสมบูรณ์และมีวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง ในฐานะน้องสาว การส่งเสียงแสดงความดีใจกับพี่ชายจึงไม่นับว่าเป็นเรื่องผิดแปลก

หลี่จิ่นซูมองหลินเมิ่งหวันอย่างหลงใหลอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและนัยน์ตาพร่างพราวดั่งดวงดาวของนางทำให้หัวใจของเขาหวิวไหว

ในที่สุดเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เดินเข้าไปหาหลินเมิ่งหวันด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น

เพียงแต่ ชั่วพริบตาถัดมา...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก