พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 26

ฌองหรี่ตาลงอย่างเหนื่อยหน่าย เขากวาดตาดูเบียงก้าตั้งแต่หัวจรดเท้า “เมื่อตอนที่คุณอายุสิบหกสิบเจ็ด เนื้อตัวของเธอนุ่มนิ่มและน่ากอด แต่ในตอนนี้เนื้อตัวเธอราวกับมีหนาบแหลมปกคลุมเต็มไปหมด หนามแหลมพวกนั้นโผล่ขึ้นมาเพื่อป้องกันพร้อม ๆ กับตอนที่ธาตุแท้ของเธอปรากฏขึ้นมาอย่างชัดสินะ”

เบียงก้าฟังคำดูถูกของฌอง เธอตระหนักถึงข้อกล่าวหาที่ไร้สาระทั้งหมดที่เขาเหวี่ยงใส่เธอเมื่อวาน

น้ำเสียงของเขาฟังดูแหลมคมตอนเวลาต้องการพูดจาถากถางคนอื่น

มันทิ่มแทงเข้าไปภายในหัวใจของเบียงก้าหลายพันรูจนเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด

ในตอนนี้ เธอยอมจำนนทุกอย่างแล้ว

“ใกล้จะถึงเวลาทำงานแล้ว” เบียงก้ากล่าวอย่างใจเย็นในขณะที่เธอเดินผ่านเขาไป

อย่างไรก็ตาม ฌองคว้าข้อมือของเธอไว้แน่นและดึงเธอกลับอย่างรุนแรง ดวงตาของเขาแดงก่ำในขณะที่เขาคร่ำครวญ “เรายังไม่ได้เคลียร์กันเรื่องนี้เลย แล้วเราจะไปทำงานได้ยังไง!?”

ทันใดนั้น นีน่าก็รีบวิ่งเข้ามา “พี่ฌอง พี่กำลังทำอะไร? ปล่อยบีเดี๋ยวนี้!”

เบียงก้าสวมใส่รองเท้าส้นสูงมาทำงาน แม้ว่าส้นรองเท้าของเธอจะไม่สูงมากนัก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะมั่นคง การฉุดยื้อของฌองทำให้ข้อเท้าซ้ายของเธอพลิกทันที

ทันทีที่ความเจ็บแผ่นขึ้นมา เธอพยายามดึงมือออกจากมือฌอง ในขณะที่นีน่าก็พยายามช่วยเธอดึงมือที่ใหญ่โตของพี่ชายของตนออกเช่นกัน วินาทีต่อมา เบียงก้าก็ดึงแหวนออกจากนิ้วนางซ้ายและพลันโยนมันใส่ใบหน้าของฌองด้วยท่าทีที่แน่วแน่

จากนั้น เบียงก้าก็เงยหน้าขึ้นและกล่าวว่า "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจบกัน"

น้ำเสียงของเบียงก้าเย็นชา ถึงแม้ว่าเธอจะโกรธ แต่เธอก็กัดฟันและสงบสติอารมณ์เอาไว้

เพราะถ้าเธอไม่ทำ เธอจะต้องประสบความกับพ่ายแพ้อย่างหมดรูปแน่!

เพราะตลอดห้าปีที่ผ่านมานั้น บรรดานักแสดงตุ๊กตาทองก็มีเพียงแค่ ฌองและมาลี เรย์น

นีน่าเคยบอกว่า ครั้งหนึ่งเธอเคยแนะนำพี่ชายให้อยู่ห่างจากมาลี และฌองเองก็ประกาศอย่างชัดเจนว่า เขาไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอเลย

แต่ตอนนี้ เบียงก้ากลับพบว่าเธอเป็นคนที่ถูกโกหกมาโดยตลอด

ที่นี่และในตอนนี้ มาลีนั่งอยู่ถัดจากน้ำพุหน้าบริษัท เธอกำลังแต่งหน้าในขณะที่เธอยิ้มให้กับกระจกบนมือถือและหัวเราะให้กับเรื่องตลกที่เธอได้เห็น

เบียงก้ากวาดสายตากลับมาและเม้มริมฝีปาก เธอไม่ยอมใครหน้าไหนมาเห็นความอ่อนแอของเธอ

แหวนหมั้นกระแทกจมูกของฌองอย่างจัง เขาจึงยกมือขึ้นและคว้ามัน แรงกดดันเริ่มก่อตัวขึ้นภายใต้ดวงตาของเขาขณะที่จ้องมองแหวนในมือ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเบียงก้า “เราจบกัน? พูดมันออกมาได้เต็มปาก ทั้ง ๆ ที่ผมเป็นฝ่ายเจ็บปวดมาก แต่ทำไมเธอกลับพูดมันออกมาได้หน้าตาเฉยแบบนี้?”

“พอได้แล้ว พวกเธอทั้งสองคนใจเย็นก่อน” นีน่ามองดูพี่ชายของเธอ จากนั้นเธอก็มองไปที่เบียงก้า เพื่อนรักของเธอ

เบียงก้าหัวเราะอย่างเย็นชา “ที่ฉันเยือกเย็นเพราะฉันรู้ว่าฉันมันไร้เดียงสา”

“มีเรื่องที่จะต้องพูดแค่นั้นน่ะเหรอ?!” ฌองกำหมัดแน่น เขากำลังจะบ้าคลั่งอีกครั้ง

“ตั้งแต่วินาทีที่คุณไม่เชื่อใจฉัน ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไป” เบียงก้ายังคงทนความเจ็บปวดที่ข้อเท้าของเธอและเดินเข้าไปในอาคารของบริษัททันที

สีหน้าของฌองเปลี่ยนเป็นมืดมนในทันที จากนั้นเขาก็ไล่ตามเธอไป!

นีน่าคว้าตัวพี่ชายของเธอไว้แน่น “พี่ทำงานอยู่ที่นี่นะ! พี่ต้องการป่าวประกาศให้ทุกคนรู้อย่างนั้นเหรอ? ฉันขอร้องนะพี่ คนอื่น ๆ กำลังมองดูเราอยู่ อย่าทำลายชีวิตของบี…”

เมื่อเบียงก้าได้ยินว่านีน่าห้ามปรามฌองยังไง ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันใด ใช่แล้ว เธอมีอดีตที่เลวร้ายที่เธอไม่สามารถลบล้างได้ ถ้าหากว่าฌองคลั่งขึ้นมา มันคงจะมีโอกาสที่เขาจะทำมันพังไม่ว่าจะมีคนฟังกี่คนก็ตาม

เกิดอะไรขึ้นกับฌองที่มีเหตุผลที่เธอรู้จัก?

เขารู้ดีว่าหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อห้าปีที่แล้ว เธอก็กังวลเรื่องชื่อเสียงของเธอเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศมากที่สุด แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่เขาใช้เพื่อโจมตีเธอ

“พี่ไม่เชื่อบี แต่พี่กลับเชื่อนางมาลี เรย์นนั่น อย่างนั้นเหรอ? มันเป็นอะไรกับพี่? ทำไมพี่ถึงยอมให้มันปั่นหัวแบบนี้ล่ะ? สมองพี่มันเหลวเป็นโจ๊กไปหมดแล้วรึไง?” นีน่าตำหนิพี่ชายของเธอ คำว่าผิดหวังสลักอยู่บนใบหน้าของเธออย่างชัดเจน

ฌองจ้องมองแผ่นหลังของเบียงก้าเดินจากไป เขากำหมัดแน่นขึ้นอีกครั้ง เขาจำดอกไม้ที่เบียงก้าถือไว้ได้ เขาจำสิ่งที่มาลีพูดได้ เขาจำคำบอกเล่าจากเพื่อนบ้านของเบียงก้าที่ชื่อเดซี่ หญิงวัยกลางคนผู้นั้นได้…หลังจากนั้น เขาก็มองดูน้องสาวของเขาด้วยความบ้าคลั่งและพูดว่า “ฉันเคยตกหลุมพรางที่เธอสร้างไว้แล้วครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นก็อย่างหวังเลยว่าฉันจะเชื่อใจเธออีก”

“แต่ว่า คุณเรย์น…” เจสันหยุดประโยคนั้นไปครึ่งทาง เขาจ้องมองไปที่บอสของเขาที่กำลังลุกขึ้นยืน หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาสามารถมองสถานการณ์ได้ทันที เจสันจึงรีบกล่าวว่า “ไม่เป็นไรครับ คุณเรย์น คุณรออยู่ตรงนั้นนะครับ”

รออยู่ตรงนั้น?

“คุณเจสันกำลังจะมารับเธอแล้วนะ” เบียงก้ากล่าว

หนึ่งนาทีต่อมา เบียงก้าก็ได้เห็นร่างที่สูงเพรียวของลุคโผล่ออกมาจากลิฟต์ส่วนตัวของเขา จากนั้นเขาก็เดินเข้ามาหาเธอ

เบียงก้ารู้สึกหวาดกลัว เธอมองลงไปที่เด็กชายและพูดว่า “คุณพ่อของหนูมารับแล้วนะ ปล่อยฉันเถอะ”

เด็กชายไม่ยอมปล่อย...

วินาทีต่อมา มือเล็ก ๆ ของเขาก็ถูกดึงออกไปโดยมือที่ใหญ่กว่ามาก

บลองช์ยังคงโอบแขนของเขาเอาไว้รอบต้นขาของเบียงก้า ดังนั้น เมื่อลุคจับมือลูกชายของเขา มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะแตะตรงต้นขาที่เรียบเนียนและอ่อนนุ่มของเบียงก้า

ก่อนที่บลองช์จะตามพ่อของเขาขึ้นไปยังชั้นบน เขาก็หันกลับมาถามเธอด้วยความเป็นห่วงว่า “คุณบีครับ คุณยังเจ็บตรงที่คุณพ่อตีอยู่รึเปล่าครับ?”

เบียงก้ารู้สึกสับสนอย่างมาก

เขาตีเธอ?

เด็กชายเห็นว่าเธอดูงุนงง เขาจึงรีบอธิบายว่า “เพราะว่าคุณชอบเลือกกิน คุณพ่อก็เลยตีคุณใช่ไหมครับ? คุณพ่อยังทำให้คุณร้องไห้อีกด้วย…”

เบียงก้ามองไปรอบตัวอย่างประหม่าและพูดว่า “ฉัน…ฉันสบายดี ฉันไม่เจ็บแล้วจ่ะ!” หลังจากที่เธอพูดเช่นนั้น เธอก็สังเกตเห็นว่าลุคกำลังจ้องมองมาที่เธอ จากนั้นใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวในทันที

เธอกังวลว่าคนอื่น ๆ อาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเจ้านาย เธอจึงเดินตามเจ้านายไปอย่างสุภาพและเป็นทางการ เธอพยายามทำตัวให้ห่างจากเขาให้มากที่สุด

ลุคเหลือบมองไปที่มือซ้ายที่ไม่มีแหวนของเธอโดยบังเอิญ ในไม่ช้า ท่าทีของความเคร่งขรึมแปรเปลี่ยนเป็นความคะนึกหาและดึงดูดใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก