พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 110

หลังอาหารค่ำ พี่น้องตระกูลหรงจึงได้ออกจากจวนจิ้งอ๋องท่ามกลางแสงจันทร์

พ้นจากประตูใหญ่ หรงฉางพินิจพิจารณาพี่ชายเป็นการใหญ่ จนแน่ใจว่าเขาไม่ได้ถูกจิ้งอ๋องทำร้าย

“พี่ใหญ่ จิ้งอ๋องไม่ได้ทำอะไรท่านนะ?”

หรงจั้นชะงักเล็กน้อย ถือพัดเคาะหัวนางเบา ๆ ไม่พูดไม่จา

หรงฉานคิดว่าเขาอกหัก จนบัดนี้ยังเสียใจอยู่ จึงได้เอ่ยปากปลอบใจว่า “พี่ใหญ่ ภาษิตว่าแผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา วันหน้าท่านต้องได้เจอหญิงที่เหมาะสมยิ่งกว่า”

นางเห็นใจพี่ชายเป็นอย่างยิ่ง เหตุเพราะร่างกายอ่อนแอ จึงไม่เคยได้ใกล้ชิดกับหญิงใด และไม่กล้าคิดเรื่องมีครอบครัวเป็นหลักเป็นฐานด้วย

กว่าจะเจอหญิงสาวที่ถูกตาต้องใจ อีกฝ่ายก็มีคู่ครองไปเสียแล้ว...

“ถ้าจะเป็นห่วงข้า มิสู้ไปห่วงตัวเองดีกว่า” หรงจั้นมองนางอย่างจนใจ “ทุกวันนี้ข้ามีแต่สำนึกบุญคุณต่อพระชายาจิ้งอ๋อง ไม่เคยคิดเป็นอื่นอีก”

“งั้นข้าค่อยเบาใจหน่อย”

หรงฉานแลบลิ้นเบา ๆ เผยรอยยิ้มออกมา นางไม่ต้องการเห็นพี่ชายเสียใจกับเรื่องความรักอีก

หรงจั้นมองดูความไร้เดียงสาของนาง ก็ได้แต่ลอบถอนหายใจยาว

มองย้อนกลับไปใต้แสงจันทร์ ทอดสายตาไปยังจวนที่ยิ่งเดินก็ยิ่งห่าง ความรู้สึกนั้นยากจะบรรยายได้

โฉมเจ้าดั่งจันทรา เห็นหน้าจึงเพิ่งประจักษ์

แต่เสียดาย...พานพบเมื่อสายพาใจเศร้า

......

แสงจันทร์นวลผ่อง ดั่งสายน้ำไหลริน

ในเรือนซู่สือ เปลวเทียนวิบไหวในห้องยังไม่ได้ดับลง

เซียวปี้เฉิงถือตำราพิชัยยุทธในมือ แต่หน้าตาบูดบึ้ง สายตาไม่รู้ไปอยู่ตรงไหน และคิดเรื่องอะไรอยู่

เฉียวเย่ซึ่งเป็นขุนนางในบ้านถามด้วยความห่วงใย “ท่านอ๋อง นี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องไปฝึกทหารที่ค่ายตะวันออกอีก รีบพักผ่อนจะดีกว่า”

เซียวปี้เฉิงตอบรับเนือย ๆ ไม่กระตือรือร้น พลิกดูตำราถามเหมือนไม่ใส่ใจว่า “อวิ๋นหลิงทำอะไรอยู่?”

“พระชายาเพิ่งให้คนในครัวส่งน้ำร้อนไป คาดว่าคงจะอาบน้ำเสร็จ เตรียมตัวเข้านอนแล้ว”

ได้ยินดังนี้ สีหน้าเซียวปี้เฉิงก็ยิ่งดำกว่าก้นหม้อที่ไหม้ซะอีก

ตอนเที่ยงอวิ๋นหลิงตวาดเขาไปทีหนึ่ง ปล่อยให้อยู่ข้างนอกจนถึงเย็นย่ำ และจนป่านนี้ยังไม่มีทีท่าที่จะพูดคุยกับเขาแม้แต่น้อย

เจ้าอารมณ์อะไรจะปานนี้นะ?

ลู่ฉีเห็นสภาพ ก็รีบยัดของว่างชิ้นสุดท้ายเข้าใส่ปากทันควัน ถามอย่างห่วงใยว่า “ท่านอ๋อง หน้าตาท่านทำไมดูหมองคล้ำ เพราะไม่สบายหรือเปล่า? ให้ข้าเชิญพระชายามาดูให้หน่อยมั้ย?”

เซียวปี้เฉิงจ้องเขม็งอย่างเย็นชา “ไม่ต้อง”

“ทำไมไม่ต้องล่ะ ท่านอย่าละเลยต่อสุขภาพตัวเองนะขอรับ ยังไงให้พระชายามาดูจะวางใจมากกว่า”

ลู่ฉีกลืนของว่างลงคออย่างยากเย็น พลางส่งเสียงเรอเล็กน้อย ไม่นำพาต่อการส่งสายตาของเฉียวเย่ ยังคงเจื้อยแจ้วต่ออย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“พูดก็พูดเถอะ วิชาฝังเข็มของพระชายาเหนือชั้นยิ่งนัก เสียดายท่านไม่เห็น วันนี้รัฐทายาทหรงตอนมาหน้าตาซีดเซียว แต่พอพระชายาฝังเข็มไป ขากลับคือใบหน้าแดงก่ำ ดูดีมีเลือดฝาดขึ้นมาก ไม่เหมือนคนขี้โรคเลยซักนิด”

เฉียวเย่ลอบถอนใจยาว เจ้าหน้าโง่นี่ ช่างพูดไม่รู้จักเวล่ำเวลาเสียบ้าง

ริมฝีปากเซียวปี้เฉิงกระตุกอยู่หลายที กว่าจะระงับความโกรธที่อยากกระทืบลู่ฉีให้หนักก็ยากเย็นพอดู

เขาสูดลมหายใจเข้าลึก เผยรอยยิ้มอ่อนโยนต่อลู่ฉีอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน “ลู่ฉี คืนนี้เจ้ายังกินไม่อิ่มใช่ไหม?”

เฉียวเย่ฝากแววตาเห็นใจไว้ให้แก่ลู่ฉี แล้วจึงกลับไปรายงาน

เห็นว่าดึกมากแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะพูดปลอบใจอีก “ท่านอ๋อง ใกล้ถึงเวลาจื่อสือแล้ว พระชายายังไม่ได้ให้ตงชิงมาส่งข่าว คาดว่าคงจะเข้านอนไปแล้ว ท่านก็อย่าคอยอีกเลย พรุ่งนี้ยังต้องไปฝึกทหารอีก รีบพักผ่อนเถอะนะ”

เซียวปี้เฉิงทำหน้าตึง พูดกลบเกลื่อนว่า “ใครไปคอยนาง? ข้าเพียงแต่ไม่ได้ไปฝึกทหารนานมาก ก่อนไปเลยจะทบทวนตำราพิชัยยุทธเล็กน้อยเท่านั้น”

เฉียวเย่เห็นเขาปากแข็งก็ไม่อยากโต้แย้ง ได้แต่แอบส่ายหน้าเงียบ ๆ สั่งห้องครัวให้ส่งน้ำร้อนมาโดยเร็ว

เซียวปี้เฉิงเอ้อระเหยอยู่อีกพักหนึ่ง เห็นข้างนอกไม่มีความเคลื่อนไหว จึงยอมถอดเสื้อผ้าอาบน้ำชำระกายเตรียมพักผ่อนด้วยความผิดหวัง

เขายิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ตอนบ่ายอาจจะบุ่มบ่ามไปบ้าง แต่อวิ๋นหลิงก็ทำไม่ถูกเหมือนกัน

นางเป็นหญิงที่แต่งงานแล้ว ควรหรือจะให้ชายอื่นถอดเสื้อเปลื้องผ้า แล้วฝังเข็มให้เขาโดยไม่มีการปิดบังอำพรางใด ๆ!

เกิดให้บ่าวไพร่ในบ้านเห็นเข้า จะเอาหน้าไปไว้ไหนกัน!

เขาก็ไม่ใช่คนใจเย็นเท่าไหร่ อวิ๋นหลิงมองข้ามเขาเช่นนี้ ถึงเวลาแม้จะมางอนง้อขอคืนดี จ้างให้ก็จะไม่สนใจนางง่าย ๆ อีก!

เซียวปี้เฉิงทำหน้าปั้นปึ่ง เอาน้ำราดตัวอย่างแกน ๆ พออาบได้ครึ่งทาง ลานข้างนอกก็ได้ยินเสียงตงชิงดังขึ้นมา

“ท่านอ๋อง ใกล้ถึงเวลาจื่อสือแล้ว พระชายาบอกว่าถ้าคืนนี้ไม่ไปชมดาวตกด้วยกัน นางจะขอเข้านอนก่อน”

ได้ยินดังนี้ เซียวปี้เฉิงก็ให้หยุดกึก พุ่งพรวดขึ้นจากอ่างอาบน้ำในบัดดล จากนั้นก็รีบเช็ดตัวเร็วพลันพร้อมกับใส่เสื้อผ้า

“ข้าแค่ทบทวนตำราพิชัยยุทธจนลืมเวลาไปหน่อย จะรีบไปเรือนหลันชิงเดี๋ยวนี้”

กล่าวจบ ภายใต้สายตาฉงนสนเท่ห์ของเฉียวเย่ เฉียวปี้เฉิงเร่งรีบจนใส่รองเท้ากลับด้าน ใช้อัตราความเร็วสูงสุดพุ่งตัวไปยังเรือนหลันชิง

“บ่ายวันนี้เป็นความผิดของข้าเอง เจ้าหายเคืองแล้วหรือยัง?”

เขาเคาะประตูห้องอวิ๋นหลิง เพียงไม่นาน ก็ทำหน้าจ๋อยคอตกราวกับสุนัขที่ถูกดึงหูก็ไม่ปาน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ