ค่ำคืนที่หิมะโปรยปราย แสงจันทราสะท้อนแสงบนพื้นหิมะจนแยงตา
ดวงตาอันชินอ๋องแดงก่ำเล็กน้อย มองสตรีตรงหน้าด้วยความอึ้ง แก้มด้านซ้ายรู้สึกเจ็บแสบ
จี้ซูเฟยถอยหลังหลายก้าว จัดแจงทรงผมอันยุ่งเหยิงอย่างลนลาน จากนั้นก็ปรับอารมณ์ให้คงที่
“เรื่องเมื่อครู่ ข้าจะถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น ท่านเองก็ลืมไปเถิด”
อันชินอ๋องได้สติก็หัวเราะเสียงเย้ยหยันเบาๆ “หลายปีมานี้ เจ้าพูดอยู่ประโยคเดียว ลืมไปเถิด”
“เมื่อก่อนเพราะประโยคเดียวของเจ้า ข้าจึงขับไล่สาวใช้ในจวนออกไปทุกคน และปฏิเสธพระชายารองที่เสด็จพ่อจัดหาให้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้ารักษาคำสัญญาที่มีให้เจ้า หลังจวนอันชินอ๋องไม่เคยมีสตรีเลยสักคน”
“เพื่อเจ้า ข้ายอมสลัดบัลลังก์ที่ใกล้ถึงมือทิ้ง...แต่เจ้ากลับตระบัดสัตย์คืนคำ เจ้าจะให้ข้าลืมได้อย่างไร?”
น้ำเสียงของอันชินอ๋องเจือความเกรี้ยวกราดและแค้นเคืองยากจะกลบเกลื่อนไว้
จี้ซูเฟยหายใจรัวแรงขึ้น จิบเล็บเข้าฝ่ามือ จากนั้นก็เบือนหน้าหนี
“หลิงหวา เจ้าไม่กล้ามองข้า เจ้ารู้สึกผิด หลายปีมานี้เจ้าไม่กล้าตอบคำถามข้าเลย”
สองภรรยาผู้สอดรู้สอดเห็นใต้ต้นไม้ที่ได้ยินประโยคนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริด
สวนหลวงเข้าสู่ความเงียบงัน
ผ่านไปเนิ่นนาน จี้ซูเฟยเอ่ยปากพูดอย่างไร้ทุกข์ไร้โศก แต่น้ำเสียงก็ยังเจือความขมขื่นเล็กน้อย “ข้าผิดต่อท่าน จุดจบของตระกูลจี้และซวี่เอ๋อร์คือผลกรรมที่ข้าก่อ ข้าจะใช้ชีวิตที่เหลือสวดมนต์ไหว้พระเพื่อลบล้างความผิด”
“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าล้างบาป หากเจ้าต้องการไถ่โทษก็ตามข้าไป ไปเป็นพระชายาอันชินอ๋องของข้า”
จี้ซูเฟยหน้าเปลี่ยนสี ตำหนิว่า “อาซั่ว ตอนนี้ข้าเป็นน้องสะใภ้ท่าน”
นางกำผ้าเช็ดมือไว้แน่น ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามปรับอารมณ์ของตัวเอง
“ผ่านไปยี่สิบกว่าปีแล้ว อดีตก็เป็นเพียงอดีต ปล่อยข้าไป ปล่อยตัวท่านไปเถิด”
หลังจากจี้ซูเฟยกล่าวประโยคนี้เสร็จก็กระชับเสื้อคลุมกันหนาวด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า หมุนกายเดินจากไปด้วยฝีเท้าหนักอึ้ง
ภายในสวนหลังเงียบเฉียบสักพักใหญ่ ๆ แม้แต่เสียงลมหายใจก็ไม่มี เมื่ออวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงมั่นใจว่าอันชินอ๋องกับจี้ซูเฟยไม่อยู่แล้ว จึงเลิกใช้พลังจิตด้านการฟังระยะไกล
เซียวปี้เฉิงได้สติ น้ำเสียงมีความแปลกอย่างปิดไม่อยู่ “ข้าคิดว่าเสด็จลุงแค้นเสด็จพ่อที่แย่งบัลลังก์กับคนรักไป ถึงได้แก้แค้นเช่นนี้”
ตอนนี้ฟังดูแล้ว ความจริงไม่ใช่อย่างที่คาดการณ์ไว้ แท้จริงแล้วผู้ที่อันชินอ๋องเกลียดแค้นคือจี้ซูเฟย?
แม้นจะได้ยินไม่กี่ประโยค แต่อันเป็นใจความสำคัญทั้งสิ้น อวิ๋นหลิงใช้ประสบการณ์ที่เคยดูซีรีส์คาดเดาต้นสายปลายเหตุของเรื่องอย่างคร่าวๆ
ชาติที่แล้ว หลังจากเสร็จจากภารกิจ เวลาว่าง ๆ นางก็จะอ่านนิยายหรือไม่ก็ดูซีรีส์ นางเคยดูหลายร้อยเรื่องเป็นอย่างต่ำแน่
อวิ๋นหลิงดึงสติกลับมา แววตาตื่นเต้นเล็กน้อย “จากที่ได้ยินพวกเขาคุยกัน จี้ซูเฟยกับอันชินอ๋องเคยพัวพันกันจริง อันชินอ๋องไล่สตรีเรือนหลังออกไป และครอบตัวเป็นโสดจนถึงทุกวันนี้ แต่จี้ซูเฟยกลับผิดคำสัญญา ทำให้อันชินอ๋องรอเก้อ?”
ถ้าจี้ซูเฟยเรียกร้องกับเขาเช่นนี้จริง เช่นนั้นอันชินอ๋องต้องสลัดบัลลังก์ทิ้งแน่ เพราะการเป็นจักรพรรดิต้องมีเมียน้อยเมียใหญ่เป็นโขยง
“ข้าเคยอ่านนวนิยายที่ฮ่องเต้หลอกใช้สตรีที่หลงรักตน หลังจากบรรลุเป้าหมายแล้วก็ถีบหัวส่งอย่างไร้หัวใจ แต่เรื่องของพวกเขาไม่เป็นเช่นนั้น ลุ้นจังเลย เรื่องแนวนี้ข้าไม่เคยดูมาก่อน”
นางพูดโดยระคนอารมณ์สุนทรีย์ไว้
เซียวปี้เฉิง “...”
เดี๋ยวก่อนนะ ออกนอกประเด็นสำคัญไปหรือเปล่า?
“โฮก!”
เมื่อเจ้าเสือขี้แยเดินออกจากกรง เสียงคำรามดังสนั่นไปทั่วบริเวณ คนในเรือนหลังต่างตกใจกลัวเป็นอย่างยิ่ง
เซียวปี้เฉิงเห็นข้ารับใช้บริพารหวาดกลัว จึงแตะที่เอวอวิ๋นหลิง พร้อมกับเอ่ยเสียงกลุ้มใจ “จะจัดการพยัคฆ์ขาวตัวนี้เช่นไรดี? มันตัวโตขนาดนี้ คงกินจุไม่เบาสิท่า...”
ตอนนี้ยังไม่มีที่พักอันเหมาะสมของเจ้าเสือขี้แยในจวน ตอนแรกอวิ๋นหลิงคิดว่าจะให้ไปอยู่ด้านข้างเล้าหมูที่เรือนเกษตร แต่มันเป็นถึงสัตว์เทวะ จะให้อยูร่วมกับสัตว์เลี้ยงในบ้านก็กระไรอยู่ ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
“พรุ่งนี้ให้ใต้เท้าเฉียวจัดการ ให้ย้ายของออกจากที่พักสำหรับแขกของเรือนหลันชิงออกมา ช่วงนี้ให้เจ้าเสือขี้แยอยู่ในเรือนหลันชิงก่อน”
เซียวปี้เฉิงพยักหน้า เข้าไปถามนาง “สัตว์ดุร้ายตัวใหญ่ ๆ เช่นนี้ พวกเจ้าทำอย่างไรมันถึงเชื่อฟังเพียงนี้ เชื่อฟังกว่าแมวเสียอีก?”
อวิ๋นหลิงยกยิ้มพูดอย่างมีลับลมคมใน “คืนนี้ข้าจะสอนวิชาบังคับสัตว์ให้ท่าน สอนวิธีสื่อสารกับมัน”
“สื่อสารกับมันหรือ?” เซียวปี้เฉิงตกตะลึงเล็กน้อย “ข้าไม่ได้พูดภาษาสัตว์เป็นเหมือนหลิวฉิงนะ จะทำได้หรือ?”
“พี่ฉิงคือนักบังคับสัตว์ที่เก่งที่สุดในองค์กรพวกเรา แต่สัตว์ที่นางประทับพลังจิตไว้ ผู้ที่มีพลังจิตด้วยกันจะสื่อสารอย่างง่ายๆกับสัตว์เหล่านั้นได้”
ชาติที่แล้ว เวลาพวกนางออกไปปฏิบัติหน้าที่ ภาษาสัตว์และความสามารถในการบังคับสัตว์ของหลิวฉิงช่วยพวกนางสร้างผลงานใหญ่เป็นประจำ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง พวกนางหลงทางในป่าชื้น ตอนนั้นหลิวฉิงถามงูเหลือมที่ไม่มีเจตนาโจมตี จึงสามารถแก้ปัญหาในขณะนั้นได้ สามารถหาต้นน้ำเจอในที่สุด
หลิวฉิงเชี่ยวชาญด้านนี้มาก และยังฝึกสัตว์เพื่อใช้ประโยชน์ในองค์กรด้วย มีทั้งสัตว์บก สัตว์น้ำและสัตว์ปีก
เซียวปี้เฉิงเห็นท่าทางอันภาคภูมิใจของอวิ๋นหลิงก็รับฟังเงียบ ๆ จากนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนจากตะลึงเป็นด้านชา
เขารู้สึกร้อนรุ่มกลุ้มใจและฉุนเฉียวในเวลาเดียวกัน ศัตรูหัวใจเก่งกว่าเขาเช่นนี้ ควรทำอย่างไรดี?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...