พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 26

“ถวายพระพรเสด็จแม่เพคะ”

“เจ้าตั้งครรภ์อยู่ นั่งตามสบายก็พอ คราวหน้าเจอข้าก็ให้งดเว้นการน้อมทักทายไปเสีย”

หวงกุ้ยเฟยดูเหมือนจะอารมณ์ดีไม่น้อย อาจเป็นเพราะทราบว่าอวิ๋นหลิงมีความสามารถมากพอที่จะทำให้เยี่ยนอ๋องกลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ท่าทีของนางที่มีต่ออวิ๋นหลิงจึงได้ดูอ่อนโยนลงมาก ซึ่งแตกต่างจากท่าทีที่เข้มงวดในคราแรกที่พบกันอย่างสิ้นเชิง

นางโบกมือให้แม่นมเหอเยว่ที่อยู่ด้านหลังมอบรายการสิ่งของที่เตรียมไว้ให้กับอวิ๋นหลิง

"ในภายภาคหน้า อวี้จืออาจต้องมาอยู่ที่จวนจิ้งอ๋องเป็นการถาวร จะต้องลำบากทุกคนอย่างแน่นอน อวิ๋นหลิงเองก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ ข้าจะมอบอาหารบำรุงและเงินทองเอาไว้ และหากว่าคนปรนนิบัติในจวนไม่เพียงพอ ที่ควรเพิ่มก็เพิ่มให้มากหน่อย"

คำพูดนี้เป็นการบอกกล่าวกับเซียวปี้เฉิง อีกฝ่ายพยักหน้าและตอบว่า "ขอบพระทัยเสด็จแม่ ลูกจดจำไว้แล้ว"

อวิ๋นหลิงและคนอื่นๆล้วนแต่ทราบดีว่าหวงกุ้ยเฟยดูคล้ายว่าจะให้รางวัลแก่พวกเขา แต่ในความเป็นจริงคือเป็นการบอกพวกเขาว่าอย่าทำให้เยี่ยนอ๋องต้องได้รับความไม่เป็นธรรม

หวงกุ้ยเฟยมองอวิ๋นหลิงอย่างพึงพอใจ ด้วยรอยยิ้มที่ยากจะพบเห็นบนใบหน้า "ปี้เฉิง พระชายาของเจ้าถือว่าใช้ได้ ไม่แปลกที่ฝ่าบาทจะชื่นชอบ"

“จวนเหวินกั๋วกงเลี้ยงดูบุตรสาวได้ดียิ่งนัก เสียแต่ว่าบ่าวรับใช้ค่อนข้างสะเพร่าไปอยู่บ้าง”

อวิ๋นหลิงรู้สึกแปลกใจ ไฉนหวงกุ้ยเฟยจึงได้เอ่ยถึงครอบครัวของนางขึ้นมากะทันหันเช่นนี้

“เสด็จแม่หมายความว่าอย่างไรเพคะ?”

“หลายวันก่อนมิใช่พวกเจ้าถามหรอกหรือว่า องค์หญิงหกไปได้ยินว่าอวิ๋นหลิงทำร้ายอวี้จือมาจากที่ใด?”

สายตาหวงกุ้ยเฟยตกไปอยู่บนร่างของเซียวปี้เฉิง "ข้าได้ถามฮองเฮาแล้ว หลายวันก่อนองค์หญิงหกได้ไปเป็นแขกที่จวนเหวินกั๋วกง และไปได้ยินบ่าวรับใช้กล่าวถึงอย่างไม่ได้ตั้งใจเข้า"

สีหน้าของเซียวปี้เฉิงพลันกระตุก เขาหลุบตาลง ขนตาเรียวยาวปิดลงเพื่อบดบังสีหน้าเอาไว้

ในจวนเหวินกั๋วกง ผู้ที่รู้ว่าเยี่ยนอ๋องได้รับบาดเจ็บนอกจากฉู่อวิ๋นหลิงผู้กระทำความผิดแล้ว ก็มีเพียงฉู่อวิ๋นหานเท่านั้น

เป็นไปไม่ได้ที่ฉู่อวิ๋นหลิงจะหาเรื่องใส่ตนเอง เช่นนั้นคำตอบก็มีเพียงคนผู้นี้เท่านั้น

เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่สับสนวุ่นวายของตนในยามนี้มีสิ่งใดแฝงไว้บ้าง มีความสงบที่เป็นไปดังคาด ที่อาจจะแฝงด้วยความผิดหวัง หรือความเจ็บปวดเล็กน้อย

“ขอบพระทัยเสด็จแม่ที่ตักเตือน ลูกจะบอกท่านพ่อให้รักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัดพะยะค่ะ”

สีหน้าของอวิ๋นหลิงไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ มีเพียงประกายความเย็นชาพาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว

สตรีต่ำช้าผู้นั้น ตนเองไม่ได้ไปหาเรื่องนางเสียด้วยซ้ำ แต่ถึงกับกล้าที่จะวางอุบายใส่นางเชียวหรือ

เพียงแต่ว่าวิธีการนี้ดูไม่ค่อยฉลาดท่าใดนัก

“เอาเถิด หมดเรื่องแล้ว ข้าจะกลับวังก่อน”

ก่อนจากไป หวงกุ้ยเฟยก็ได้เหลือบมองไปยังท้องของอวิ๋นหลิงอย่างไร้ที่ติ

แม่นมเหอเยว่เดินตามหลังนางไป เมื่อออกไกลห่างจากตำหนักฉางหนิงแล้ว จึงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "พระสนม เด็กในท้องของพระชายาจิ้งอ๋องต้องเก็บไว้หรือไม่เพคะ?"

“ยามนี้อย่าเพิ่งกระทำการใดๆ ให้คนจับตาดูจวนจิ้งอ๋องเอาไว้ อย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับฉู่อวิ๋นหลิง จนกว่าขาของอวี้จือจะหายดี”

แม่นมเหอเยว่เข้าใจความหมายของหวงกุ้ยเฟย จึงเอ่ยด้วยความลังเลเล็กน้อย "เพียงแต่พระสนม ยามนี้ถือว่าเหมาะแก่การลงมือยิ่งนัก หากว่ารอจนกระทั่งขาของเยี่ยนอ๋องหายดีล่ะก็ ท้องของพระชายาจิ้งอ๋องอย่างน้อยก็ใหญ่ถึงแปดเดือนแล้ว..."

ดวงตาของหวงกุ้ยเฟยทอประกายเย็นชาวาบผ่าน "ทางที่ดีนางควรจะอธิษฐานให้ครรภ์นี้เป็นบุตรสาว หากว่าเป็นบุตรสาว ก็คงจะไม่มีสิ่งใดมาคุกคามได้"

“แต่หากว่าพระชายาจิ้งอ๋องรักษาดวงตาของจิ้งอ๋องจนหายดี และโชคดีพอที่จะให้กำเนิดหลานชายแก่ฝ่าบาทจะทำอย่างดีเล่าเพคะ?”

จักรพรรดิจาวเหรินเดิมทีก็ปฏิบัติต่อเซียวปี้เฉิงอย่างคลุมเครืออยู่แล้ว หากว่าอวิ๋นหลิงให้กำเนิดหลานชายแก่ฝ่าบาทได้จริงๆ เป็นไปได้ว่าคงจะตัดสินใจแต่งตั้งรัชทายาทเป็นแน่

หวงกุ้ยเฟยเอ่ยเสียงแผ่วเบา "ให้นางคลอดบุตรได้ราบรื่นค่อยว่ากันเถิด จะต้องมีคนที่ร้อนใจกว่าข้าเป็นแน่"

...

อวิ๋นหลิงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีคนมากเพียงใดที่คิดลงมือกับท้องของตน

หลังจากส่งหวงกุ้ยเฟยจากไปแล้ว บรรยากาศในตำหนักฉางหนิงก็มึดมนลงในทันตา

กำลังวังชาของอวิ๋นหลิงยังไม่ฟื้นกลับมาเต็มที่ และคร้านที่จะติดตามเซียวปี้เฉิงไปสอบถามเอาความกับฉู่อวิ๋นหาน นางจึงได้รีบล้างหน้าล้างตาและเข้านอนไปเสีย

ขณะที่เพิ่งจะปิดเปลือกตาลงไป ก็รู้สึกว่าด้านข้างยุบลง

อวิ๋นหลิงหาว จนเป็นเหตุให้น้ำตาสองสามหยดไหลออกมาจากหางตา พลางเอ่ยเสียงอู้อี้

"ได้เวลาอาหารเช้าแล้วหรือ?"

น้ำเสียงของเซียวปี้เฉิงราบเรียบ "วันนี้ควรได้เวลากลับจวนแล้ว รีบไปถวายพระพรเสด็จพ่อและเสด็จแม่กันเถิด"

อวิ๋นหลิงจึงลุกขึ้นอย่างเนิบช้า และสวมเสื้อผ้าด้วยท่าทางกึ่งหลับกึ่งตื่น

นี่เป็นข้อเสียของการอาศัยอยู่ในพระราชวัง เอะอะอะไรก็ต้องตื่นเช้าไปถวายพระพรผู้นั้นผู้นี้

อย่างไรก็ตามนางยังคงชื่นชอบการอาศัยอยู่ในจวนจิ้งอ๋องมากกว่า แม้ว่าในทุกๆวันจะต้องรำคาญใจกับสีหน้าที่ไร้อารมณ์ของเซียวปี้เฉิง แต่อย่างน้อยก็สามารถนอนหลับอย่างตามใจชอบได้

หลังจากไปถวายพระพรจักรพรรดิจาวเหรินและรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย อวิ๋นหลิงก็ได้เตรียมกล่องหลายสิบใบที่ได้รับพระราชทานมาเพื่อนำกลับจวน พอไปถึงครึ่งทางอยู่ๆพระเจ้าหลวงกลับวิ่งออกมา และส่งเสียงโวยวายเพื่อต้องการกลับด้วย

“ข้าจะตามหลิงเอ๋อร์กลับจวน ผู้ใดกล้ามาขัดขวางข้า ข้าจะทุบหัวมันซะ!”

เซียวปี้เฉิงเองก็จนปัญญา จึงทำเพียงส่งคนไปขอความช่วยเหลือจากจักรพรรดิจาวเหริน

จากนั้นไม่นาน ฝูกงกงที่ได้รับถ่ายทอดคำสั่งมา โดยที่ข้างกายยังแม่นมเฉินติดตามมาด้วย

“ท่านอ๋อง ฝ่าบาทตรัสว่าในเมื่อพระเจ้าหลวงชอบอยู่กับพระชายา ก็ปล่อยเขาเถิด”

ฝูกงกงแย้มยิ้ม "เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลเรื่องอาหารการกินในแต่ละวันของพระเจ้าหลวง ฝ่าบาทจึงรับสั่งให้แม่นมเฉินตามท่านและพระชายากลับไปที่จวนเป็นการเฉพาะพะยะค่ะ"

“ท่านพ่อหมายความว่าให้ท่านปู่ไปพักอยู่ที่จวนจิ้งอ๋องอย่างนั้นหรือ?”

"พระเจ้าหลวงทรงฟื้นขึ้นมาก็จดจำพระชายาจิ้งอ๋องได้เพียงผู้เดียว แม้แต่พระองค์ก็ไม่อาจรั้งเขาไว้ได้พะยะค่ะ"

ฝูกงกงยิ้มอย่างจนใจ และทอดถอนใจขึ้นอีกครั้ง "อาจเป็นเพราะโชคชะตากระมัง ที่พระเจ้าหลวงทรงได้พบกับพระชายาจิ้งอ๋อง จนทำให้มีความสุขในทุกๆวัน ราวกับว่าความโหยหาในใจได้ถูกหล่อเลี้ยงไว้ด้วยความหวัง"

เซียวปี้เฉิงเผยสีหน้าประหลาดใจ "ฝูกงกง หมายความว่าอย่างไรกันแน่ ... "

ฟังดูเหมือนว่า ฝูกงกงจะรู้ว่าเพราะเหตุใดพระเจ้าหลวงถึงได้ยึดติดกับอวิ๋นหลิงนัก?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ