พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 260

อวิ๋นหลิงครุ่นคิดดูแล้วจึงถามเซียวปี้เฉิง “ทางแคว้นถังใต้ไม่มีข่าวเลยหรือ?”

เซียวปี้เฉิงขมวดคิ้วมุ่น พูดเสียงเคร่งขรึม “แคว้นถังใต้เคร่งครัดและขั้นตอนเยอะ ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดแคว้นด้วย แม้แต่คนในแคว้นเขาจะเข้าเมืองหลวงก็ต้องทำเรื่องขอครึ่งเดือนถึงจะได้รับหนังสืออนุญาตเข้าเมืองหลวง ส่วนคนแคว้นตงฉู่กับแคว้นเป่ยฉินเข้าไปก็ยังพอได้ แต่คนต้าโจวคิดจะเข้าเมืองหลวงถังใต้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

อวิ๋นหลิงไม่ค่อยรู้ข้อมูลดินแดนเก้าแคว้นมากนัก แต่ช่วงนี้ฟังเซียวปี้เฉิงเล่าและอธิบายแล้วก็พอจะรู้เล็กน้อย

เมื่อนานมาแล้ว ดินแดนเก้าแคว้นเป็นแคว้นเดียว ชื่อแคว้นคือ ‘ฉิน’ แต่เพราะหลายร้อยปีก่อนมีสงครามทั่วทิศ จึงแบ่งเป็นเป่ยฉิน ถังใต้ ซีโจว(ต้าโจว)และตงฉู่ มีทั้งหมดสี่แคว้นด้วยกัน

ถึงกระนั้น เพราะปฐมจักรพรรดิจะผนึกแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว จึงเคยกำหนดให้ใช้อักษรและรูปแบบการคมนาคมเหมือนกัน ฉะนั้นแม้นสำเนียงของคนในสี่แคว้นจะต่างกัน แต่อักษรที่ใช้จะเหมือนกัน จึงไม่เป็นอุปสรรคด้านการสื่อสาร

อันนี้เหมือนประวัติศาสตร์ในชาติที่แล้วของอว๋นหลิงมาก แต่การดำเนินเรื่องกลับเป็นคนละทิศทาง

ยามนี้ทุแคว้นล้วนมีข้อดีเป็นของตัวเอง ราชวงศ์เป่ยฉินที่หลิวฉิงอยู่ คือลูกหลานแคว้นต้าฉินที่ยังไม่ได้แยกแผ่นดิน เรียกได้ว่าเป็นสายเลือดที่แท้จริงของดินแดนแห่งนี้

ดังนั้นคนเป่ยฉินจึงมีความเก่งกาจแต่กำเนิด และด้วยชัยภูมิที่อยู่ทางตอนเหนือ อากาศหนาวตลอดทั้งปี ทุกคนในแคว้นจึงชื่นชอบสุราเป็นชีวิตจิตใจ มีอารยธรรมด้านสรามากมาย

ส่วนคนซีโจวเชี่ยวชาญการรบ มีนิสัยตรงไปตรงมา ฐานะทางสังคมของสตรีสูงสุดในบรรดาสี่แคว้น แต่ความยากจนคือจุดเด่นสุดของแคว้น เพราะประวัติศาสตร์ แคว้นซีโจวกับเป่ยฉินจึงเป็นพันธมิตรด้วยกันเสมอมา

ส่วนแคว้นตงฉู่ เพราะอยู่ติดทะเล ด้านการค้าจึงน้ำหน้ามาแต่อดีต หลังจากที่ชาวจีนกับฝรั่งทำการค้าขายกัน แว่นแคว้นพัฒนาอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นแคว้นที่ร่ำรวยที่สุดของดินแดนแห่งนี้

แต่ภาพลักษณ์ของชาวตู่ฉงมีสองขั้ว ขั้วหนึ่งเป็นคนขี้งก อีกขั้วหนึ่งคือคนมีน้ำใจและไม่เห็นความสำคัญของเงินทอง

และแคว้นสุดท้ายอย่างแคว้นถังใต้ ถึงจะอยู่ใกล้แคว้นซีโจว แต่ความสัมพันธ์ของสองแคว้นไม่สู้ดีนัก ชาวซีโจวชื่นชอบวรยุทธ ส่วนชาวถังใต้กลับตรงกันข้าม พวกเขาให้ความสำคัญกับอักษร ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมอย่างเคร่งครัด ฐานะทางสังคมของสตรีจะต่ำสุดในบรรดาสี่แคว้น

อวิ๋นหลิงคิดใคร่ครวญแล้วจึงบอกเขาว่า “ตงฉู่ทำการค้ากับแคว้นอื่นเป็นประจำ เมื่อทูตแคว้นตงฉู่มา ข้าจะถือโอกาสนี้ ขยายกิจการโรงหมอไปยังแคว้นถังใต้ในนามแคว้นตงฉู่”

“ท่านก็เห็นแล้ว ยาทาที่ทำมาจากโสมหิมะน้ำค้างหยก ชื่อว่า น้ำเซียนสวรรค์ออกสู่ตลาดก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม หากข้าขยายกิจการไปถึงแคว้นถังใต้ พอหลงเย่เห็นสัญลักษณ์องค์กรบนขวดยาแล้ว นางต้องรู้ว่าข้าก็อยู่ที่นี่ด้วย นางแค่ไปสอบถามผู้อื่นก็จะรู้ว่าผู้ใดเป็นคนคิดค้นยาทาตัวนี้”

เซียวปี้เฉิงเข้าใจความหมายของอวิ๋นหลิง พูดด้วยดวงตาสว่างเจิดจ้า “ความดีนี้ไม่เลว เมื่อเทียบกับที่พวกเราตามหานางเหมือนงมเข็มในมหาสมุตร ไม่สู้ให้นางเป็นฝ่ายตามหาพวกเราแทน แบบนี้จะง่ายกว่าเยอะ”

การเจรจาด้านการค้ากับแคว้นตงฉู่ครั้งนี้สำคัญเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาต้องเจรจาทั้งเรื่องปืนคาบศิลา น้ำเซียนสวรรค์และดินสอ หากเจรจาการค้าทั้งสามเรื่องนี้อย่างราบรื่น แคว้นต้าโจวถึงจะมีปัญญาเลี้ยงค่าดินปืน และเกี่ยวพันไปถึงการตามหาหลงเย่ด้วย

อวิ๋นหลิงถอนหายใจยาว ๆ เงียบ ๆ เริ่มวาดหวังรอคอยการมาถึงของทูตแคว้นตงฉู่แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ