พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 264

“เสด็จพ่อ อยู่ดีๆเหตุใดองค์หญิงเก้าจึงอยากแต่งงานเล่า หากพวกเขาต้องการแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ เหตุใดต้องลือกลูก ลูกไม่เคยพบนางมาก่อนด้วยซ้ำ!”

เซียวปี้เฉิงมองไปที่จักรพรรดิจาวเหริน คิ้วของเขาขมวด และน้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงความสับสน

จักรพรรดิจาวเหรินทอดถอนใจอีกครั้งและเอ่ยอย่างจนปัญญา "เหวินกงกงบอกข้าว่าองค์หญิงเก้าต้องการแต่งงานกับบุรุษที่เยี่ยมยอดที่สุดมาโดยตลอด แต่บุรุษในแคว้นตงฉู่ต่างก็ไม่มีผู้ใดเข้าตานางได้ ที่สามารถสบตานางได้ นางจึงได้แต่งงานล่าช้า”

“นางได้ยินมาว่าเจ้ามีชื่อเสียงในฐานะเทพสงครามแห่งซีโจว ครานี้ที่มาก็เพื่อพบเจ้าโดยเฉพาะ และตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบหลังจากได้พบเจ้า นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม... แค่ก แค่ก”

เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นแกมดุร้ายของอวิ๋นหลิง จักรพรรดิจาวเหรินก็ใจสั่น และไม่กล้าที่จะเอ่ยต่อ ทำเพียงส่งสายตา "เจ้าเข้าใจ" ให้เซียวปี้เฉิงเท่านั้น

ใบหน้าของเซียวปี้เฉิงมืดมนราวกับก้นหม้อ แต่เขาไม่เชื่อแม้แต่น้อย สายตาจึงได้เผยความสงสัยใคร่รู้อย่างแรงกล้า

“เหลวไหลยิ่งนัก! ข้าว่านางต้องจงใจแน่ บางทีตงฉู่อาจไม่ต้องการเจรจาการค้ากับเราแต่แรกด้วยซ้ำ หรือเขาต้องการกอบโกยผลประโยชน์จากการต่อรองทางการค้า จึงจงใจทำให้เรื่องยุ่งยาก!”

เขาขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งก่นด่าตี้หวู่เหยาและบรรพบุรุษทั้งสิบแปดรุ่นที่มาจาก แคว้นตงฉู่

หาได้ยากที่ครอบครัวเขาและลูกๆจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข เหตุใดจึงได้มีแต่ตัวประหลาดมาคอยรังครวญเขาร่ำไป?

จักรพรรดิจาวเหรินก็ขมวดคิ้วทำสีหน้าลำบากใจ “ไม่ว่าจุดประสงค์ขององค์หญิงเก้าจะเป็นอย่างไร แต่อย่างไรเรื่องนี้ก็ต้องมีคำอธิบาย ในเมื่อนางกล้าที่จะพูดออกมา ดังนั้นหมายความว่าจักรพรรดิฉู่ก็ต้องยอมรับในกวิธีการของนางเช่นกัน”

ความปรารถนาที่องค์หญิงเก้าต้องการแต่งงาน เขาและพระเจ้าหลวงเองก็ทราบจากราชทูตที่มาส่งจดหมายก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ในยามนั้นรู้สึกว่าเหลือเชื่ออยู่บ้าง รวมถึงเพื่อป้องกันไม่ให้นางสนมในวังคิดลงมือทำอะไร พวกเขาจึงไม่ได้เอ่ยต่อบุคคลภายนอก

สิ่งที่พวกเขากังวลมากที่สุดในยามนั้นคือองค์หญิงเก้าจะตกหลุมรักเซียวปี้เฉิง แต่ยามนี้ความกังวลนี้กลายเป็นจริงเสียแล้ว

จักรพรรดิจาวเหรินสูดลมหายใจเข้าลึก แม้ว่าเซียวปี้เฉิงจะโดดเด่นที่สุดในบรรดาองค์ชาย แต่เยี่ยนอ๋องและพระโอรสห้าที่ยังไม่แต่งงานก็ไม่ได้เลวร้ายนัก

เดิมทีเขาคิดว่าหากการแต่งงานระหว่างตงฉู่เป็นเรื่องจริง เช่นนั้นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือเลือกเซียวอวี้จือและเซียวหยวนโม่คนใดคนหนึ่งเท่านั้น

ผู้ใดจะคิดว่าองค์หญิงเก้าจะเมินเฉยต่อเยี่ยนอ๋องและพระโอรสห้า แต่กลับมุ่งความสนใจไปยังเซียวปี้เฉิงที่มีภรรยาและลูกๆอยู่แล้ว

นางเป็นโรคทางสายตาหรือไม่?

จักรพรรดิจาวเหรินปวดหัวแทบจะระเบิด เรื่องขององค์หญิงเก้าก็ยากจะจัดการ อวิ๋นหลิง เองก็ไม่ใช่ตะเกียงที่ไร้นำมันเช่นกัน!

แต่หากพูดถึงความรุนแรง อวิ๋นหลิงน่ากลัวกว่าองค์หญิงเก้ามาก

พระเจ้าหลวงโยนยาสูบทิ้งไป ใบหน้าของเขาย่นราวกับดอกเบญจมาศ "ยามนี้องค์หญิงเก้าเปรียบเสมือนตัวแทนจากแคว้นตงฉู่ นางเองก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายเช่นหวยหยู..."

สิ่งที่เชื่อมโยงอยู่เบื้องหลังองค์หญิงเก้าคือผลประโยชน์ระหว่างทั้งสองแคว้น และด้วยสถานะของนาง อย่างไรก็นึกไม่ถึงว่านางจะออกหน้าให้ตนแลดูต่ำต้อย

ใบหน้าของเซียวปี้เฉิงย่ำแย่ลงอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเขาทราบถึงข้อดีและข้อเสีย แต่ให้ตายอย่างไรเขาก็ไม่มีวันยอมรับองค์หญิงเก้า

เขายิ้มเย็นและปฏิเสธโดยไม่คิดด้วยซ้ำ "ไม่จำเป็นต้องพูดคุยเรื่องนี้ หากนางไม่อยากเจรจาการค้าก็ให้นางไสหัวไปทันที ต้าโจวไม่ใช่ทำการค้ากับพวกเขาแคว้นเดียวเพียงเท่านั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าปืนดาบศิลาที่มีอยู่ยามนี้ร้ายกาจมากเพียงใด สุดท้ายเป็นผู้ใดที่ต้องร้องขอก็ยังไม่แน่ด้วยซ้ำ!”

จักรพรรดิจาวเหรินพยักหน้าด้วยสีหน้าซับซ้อน แม้ว่าเขาจะรู้สึกลำบากใจ แต่เขาไม่เคยคิดที่จะถอยให้อีกฝ่าย เพราะปืนดาบศิลาของอวิ๋นหลิงถือเป็นความมั่นใจของพวกเขา

เพียงแต่ ในใจลึกๆเขายังคงหวังที่จะทำสัญญาที่เหมาะสมที่สุดกับตงฉู่และแสวงหาผลประโยชน์ให้กับต้าโจวให้ได้มากที่สุด

“นั่นคือเหตุผล แต่...”

“ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว!” อวิ๋นหลิงขัดจังหวะเขาด้วยเคร่งขรึม “ท่านไปปฏิเสธองค์หญิงเก้าผู้นั้นก็พอ บอกไปว่าต้าโจวว่ามีกฎหมายและข้อบังคับ ไม่ว่าใครก็ห้ามหวังผลกำไรจากราคาเนื้อหมูทั้งนั้น!”

เสียดายที่นางเคยคิดจะทำการต้อนรับองค์หญิงเก้าอย่างอบอุ่นมาก่อน ไม่เอาเรื่องถึงที่ก็ถือเป็นการไว้หน้านางมากพอแล้ว

"..."

“องค์หญิงอา องค์หญิง อย่าเอาแต่ใจตัวเองเลย คำขออันเหลวไหลเช่นนี้จักรพรรดิโจวไหนเลยจะยอมตอบรับเล่า? ระยะนี้พวกเราก็ได้ไปสืบข่าวมาอย่างชัดเจนแล้วว่าพระชายาชิงอี้ผู้นั้นมีข่าวลือว่าเป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิด... ยามนี้นางและท่านอ๋องจิ้งรักใคร่ปรองดองกัน ท่านเองก็หยุดก่อความวุ่นวายได้แล้ว...”

“แม้ว่ารูปลักษณ์ของจิ้งอ๋องจะดูล้ำเลิศเป็นอย่างมาก แต่พวกเราชาวตงฉู่ก็ไม่ขาดก็ไม่ขาดบุรุษที่ดีและหล่อเหลา!”

แววตาของตี้หวู่เหยาหลุบต่ำลง พลางส่ายหัวเบาๆ

“ข้าไม่ได้มาที่นี่เพราะรูปร่างหน้าตาของเขา ข้าเตรียมการมานานก่อนที่จะมาที่ต้าโจว ไม่ว่าเขาจะดูน่าเกลียดหรือน่ากลัว ตราบใดที่เขาเป็นคนในยามนั้น ข้าก็จะเลือกเขา”

เมื่อวานนี้ที่มองจากสวนหลวงในระยะไกล นางได้เห็นการรูปลักษณ์ของจิ้งอ๋องอย่างชัดเจนแล้ว เอ่ยตามตรงว่าช่างแตกต่างจากที่นางจินตนาการไว้มาก

รูปร่างหน้าตาของจิ้งอ๋องนั้นไม่ธรรมดาและหล่อเหลาจริงๆ ราวกับเทพเซียนที่ทำให้คนตกตะลึง ความเปล่งประกายอันท่วมท้น ไอสังหาร มันทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก

เมื่ออิงจากความทรงจำในคราที่ไปมาหาสู่ระยะหนึ่ง ยังคิดว่าเขาคงเป็นบุรุษที่จิตใจสูงส่ง มีนิสัยเปิดเผย และหยิ่งทะนงด้วยซ้ำ

แต่...เรื่องราวผ่านไปนานถึงสามปีแล้ว จิ้งอ๋องเองก็เงียบหายไปอีกสองปีสืบเนื่องจากตาบอด เป็นเรื่องปกติที่นิสัยจะเปลี่ยนไปได้

เหวินกงกงเมื่อเห็นว่านางยังไม่ถอดใจ จึงขมวดคิ้วเผยสีหน้าอันขมขื่น

“บรรพบุรุษตัวน้อยของข้า เหตุใดท่านต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่แห่งนี้ด้วย!”

ตี้หวู่เหยาเม้มริมฝีปาก เผยแววตาน้อยเนื้อต่ำใจ

“ในยามนั้นเขาเห็นทุกอย่างในตัวข้าหมดแล้ว ข้าก็เลยนับว่าตนเป็นของเขา”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหวินกงกงก็หายใจติดขัด พอสูดลมเข้าปอดแล้ว เขาก็รีบเข้าไปปิดปากของตี้หวู่เหยา และมองไปทั่วทุกทิศทางอย่างใจเต้นระส่ำ

“บรรพบุรุษของข้า วาจานี้ท่านจะกล่าวซี้ซั้วไม่ได้เด็ดขาด!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ