พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 286

“องค์หญิงเก้า นี่ก็คือความมั่นใจในเงื่อนไขที่ข้าเพิ่งจะพูดถึงเมื่อครู่ ปืนคาบศิลาที่ทั้งประณีตและทรงพลังมากขนาดนี้ มีเพียงแค่ของแคว้นต้าโจวเท่านั้นถึงจะทำออกมาได้ อีกทั้งมีคุณภาพสูงอีกด้วย ตอนนี้ในแคว้นต้าโจวมีมากกว่าร้อยกระบอกแล้ว”

สีหน้าของเซียวปี้เฉิงแอบอึมครึม ขมวดคิ้วแล้วพูดขัดอ้ายเต๋อหัวที่เลื่อมใสอวิ๋นหลิง

“ตามระดับการสร้างอาวุธทหารแคว้นตงฉู่ของพวกเจ้า ต่อให้ข้าส่งกระดาษแบบวาดให้กับพวกเจ้า พวกเจ้าก็สร้างปืนคาบศิลาที่เหมือนกันหนึ่งกระบอกออกมาไม่ได้อยู่ดี เงื่อนไขของแคว้นต้าโจวจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เจ้าไม่มีทางเลือกอื่น”

เซียวปี้เฉิงพูดออกมาโดยไม่เกรงใจแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีท่าทางที่แข็งกระด้าง สีหน้าขุนนางของแคว้นตงฉู่หน้าเสียไปเล็กน้อย แต่ไม่กล้าไปข้ามหน้าตี้หวู่เหยาไปต่อว่าอะไรอีกด้วย

ตี้หวู่เหยาเห็นท่าทางของเขาเช่นนี้ก็ไม่ตื่นตระหนก “ปืนคาบศิลากระบอกนี้มองแล้วใช้ได้เลย เพียงแค่ไม่รู้ว่าเมื่อใช้ขึ้นมาแล้วจะทรงพลังร้ายกาจจริงดั่งเช่นสิ่งที่พวกเจ้าพูดหรือไม่ นอกจากนี้ ราคาในแคว้นต้าโจวสูงมากเกินไปหรือเปล่า?ถึงแม้ว่าปืนคาบศิลากระบอกนี้จะดี แต่ว่าปืนคาบศิลาของชาวตะวันตกที่อยู่ในมือแคว้นตงฉู่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้ไม่ได้”

“ไม่นานความทรงพลังปืนคาบศิลาแคว้นต้าโจวก็จะทำให้ทุกคนได้เห็นด้วยตาของตัวเอง ส่วนราคาในแคว้นต้าโจวนั้นจะสูงหรือไม่ องค์หญิงเก้าเองควรมีตัวเลขในใจถึงจะถูก”

เซียวปี้เฉิงหัวเราะเบา ๆ ออกมา โดยไม่แยแสการต่อรองราคาของตี้หวู่เหยา

“พวกเจ้าอยากประกาศทำสงครามกับพวกชาวญี่ปุ่น แน่นอนว่าจะหลีกเลี่ยงการไม่ยิงบนทะเลไม่ได้ อีกทั้งปืนคาบศิลาของชาวตะวันตกที่อยู่ในลมและพายุใหญ่ไม่มีความแม่นยําเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรือของพวกเจ้าที่รับน้ำหนักได้จำกัด ปืนคาบศิลาของชาวตะวันตกเทอะทะมาก ปืนคาบศิลาของแคว้นต้าโจวกลับเบาเป็นอย่างมาก อีกทั้งต้นทุนการผลิตลดลง”

“จากที่ข้ามอง ปืนคาบศิลาในมือของพวกเจ้าคงพูดว่าใช้ได้ไม่เต็มปาก คงจะเป็นแค่เหล็กที่สัปปะรังเคทองแดงหนึ่งกองก็เท่านั้น”

สีหน้าของตี้หวู่เหยาค่อย ๆ อึมครึมลงมา แววตามีความหนักใจเล็กน้อย

รู้จักการทําธุรกิจ แต่ไม่เก่งในการทําสงคราม ดังนั้นนางจึงไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เลย เซียวปี้เฉิงกลับอาศัยประสบการณ์เก่า ชี้ให้เห็นจุดอ่อนของแคว้นตงฉู่อย่างตรงไปตรงมา

แต่สำหรับความแข็งแกร่งต่อค่ายต่อคนจะแพ้ไม่ได้ ตี้หวู่เหยายิ้มต่อแล้วพูดว่า “คำพูดนี้ของจิ้งอ๋องคงจะมากเกินไปหน่อยกระมัง แคว้นตงฉู่ของข้าก็ไม่ได้แค่อาศัยปืนคาบศิลามาป้องกันศัตรู ขอแค่เพียงพยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้ทางทะเลในวันที่ฝนตกได้ด้วยวิธีนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเหล่าผู้กล้าหาญของแคว้นตงฉู่ต่อให้จะต้องใช้ธนูหรือว่าดาบก็จะไม่มีวันปล่อยค่ายคนญี่ปุ่นไปแน่”

เซียวปี้เฉิงกวาดสายตามองนางอย่างเรียบ ๆ กระตุ้นมุมปากอย่างเย้ยหยันเล็กน้อย

“ตามที่ข้ารู้มา ความคิดที่พวกเจ้ายิงปืนคาบศิลาเป็น ไม่เพราะคนญี่ปุ่นจ้องตาเป็นมันเพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังมีกลุ่มโจรสลัดก่อความวุ่นวายรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะโจรสลัดโจมตีเรือการค้าของพวกเจ้าจึงจงใจหลบวันที่มีฝนพายุไม่ได้”

ชาวตงฉู่ชอบทำธุรกิจ โดยเฉพาะทำธุรกิจกับชาวตะวันตก

ในฐานะที่เป็นจักรวรรดิเดียวที่ติดกับทะเลแผ่นดินใหญ่ทั้งเก้าแคว้น สินค้าจากต่างประเทศใดก็ตามจะต้องผ่านแคว้นตงฉู่ นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกเขาสะสมความมั่งคั่งไว้เป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ดังนั้นสำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งที่ทำให้คนหวาดกลัวและปวดหัวที่สุดคือโจรสลัดที่ก่อความวุ่นวาย

เหล่านั้นคุ้นเคยกับทะเลมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่ดีเยี่ยมและโหดร้ายเป็นพิเศษ ชอบอาศัยช่วงที่มีสภาพอากาศลมพายุมาโจมตีเรือการค้าของแคว้นตงฉู่

ทันทีที่ถูกอีกฝ่ายจ้องมองแล้ว โดยทั่วไปแล้วก็จะเป็นผลลัพท์ที่ถูกฆ่าจนเกลี้ยงถูกแย่งจนหมด ทำให้การค้าของแคว้นตงฉู่กับแคว้นทางตะวันตกได้รับผลกระทบอย่างหนัก

แย่งเงินของชาวแคว้นตงฉู่ นั่นเท่ากับการเอาชีวิตของพวกเขา!

ครั้งนี้ตี้หวู่เหยาสีหน้าแข็งทื่อ ไม่พูดอะไรออกมาอีก

เซียวปี้เฉิงมองนางด้วยสายตาเย็นชา น้ำเสียงพูดอย่างมั่นใจว่า “มีกองกำลังพันธมิตรเป่ยฉินช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถสร้างทําเรื่องเลวร้ายในเวลาอันสั้นได้ เพียงพอที่จะทำให้แคว้นต้าโจวค่อย ๆ สร้างปืนคาบศิลาได้ แต่ว่าพวกเจ้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอความช่วยเหลือจากเรา!”

ใบหน้าของเขาเย็นชา อีกทั้งยังเป็นคนหนุ่มที่ถนัดในการทำสงคราม การกดขี่ครั้งนี้ยิ่งรุนแรงมากขึ้นไปอีก

ทำให้ตี้หวู่เหยาที่พบเห็นโลกมามาก ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นแค่หญิงสาวที่อายุเพียงสิบกว่าปีเท่านั้น ครั้งนี้อดที่จะมีสีหน้าซีดขาวไม่ได้ ขาทั้งสองข้างก็อดที่อ่อนไม่ได้

อวิ๋นหลิงแอบจิ้มเอวของเซียวปี้เฉิง ไม่ให้เขาดุมากขนาดนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ทำให้แม่นางน้อยตกใจ

คณะทูตของแคว้นตงฉู่มักจะมีท่าทางว่าตัวเองสูงส่งมาโดยตลอด เซียวปี้เฉิงเห็นพวกเขาขัดตามาตั้งนานแล้ว รวมถึงตี้หวู่เหยาก่อนหน้านี้เอาการเจรจาการค้ามาขู่เขาเรื่องแต่งงานด้วย เขาเองก็ไม่เคยลืม

ตี้หวู่เหยาหน้าแดงเล็กน้อย อดที่จะพูดรับเบา ๆ ออกมาไมได้ ภายในรถม้าที่เล็กและแคบ แต่บรรยากาศกลับอบอุ่นเล็กน้อย

นางอดที่จะแอบมองเยี่ยนอ๋องไม่ได้ ในใจก็อดที่จะรู้สึกว่าโชคดีเล็กน้อยไม่ว่า ยังดีที่คน ๆ นั้นไม่ใช่จิ้งอ๋อง หากแต่เป็นเยี่ยนอ๋อง

แม้ว่าพวกคนแซ่นี้จะแกล้งนางเมื่อสามปีก่อน อีกสามปีต่อมาก็ยังรังแกนางอยู่...

พวกเขาทั้งหมดภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์ลับ ทดลองใช้ปืนคาบศิลาในสนามล่าของราชวงศ์

หลังจากตกใจที่เห็นอานุภาพปืนคาบศิลาของแคว้นต้าโจวด้วยตาตัวเอง ตี้หวู่เหยาเองก็ไม่ลังเลอีกแล้วจึงรีบพยักหน้ากับเงื่อนไขทั้งหมดที่เซียวปี้เฉิงและอวิ๋นหลิงเสนอมาประเดี๋ยวนั้นเลย

แต่ในช่วงสุดท้าย นางยังอดไม่ได้ที่จะพยายามควงแขนของอวิ๋นหลิงอย่างใกล้ชิดไม่ได้ พยายามเล่น“ไพ่ความรัก” สองสามใบ

“จะยอมให้ได้ผลประโยชน์สักหน่อยไม่ได้จริง ๆ หรือ?บัดนี้ล้วนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว ก็ถือเสียว่าเห็นแก่หน้าของอาซ้อน้อยไง”

อวิ๋นหลิงยิ้มเล็กน้อย เอาคำพูดเดิมทุกอย่างให้นาง

“ทำการค้าก็แบบนี้ พี่น้องต้องคิดเงินให้ชัดเจน องค์หญิงว่าหรือไม่?”

ตี้หวู่เหยา “...”

เดิมทีอยากจะหาผลประโยชน์ที่ดีและน้ำกับน้ำมันจากแคว้นต้าโจวมานิดหน่อย กลับคิดไม่ถึงว่าจะถูกฆ่าอย่างรุนแรงเหมือนแพะอ้วน

ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา แคว้นตงฉู่ไม่เคยทำการค้าที่เสียเปรียบขนาดนี้มาก่อน เกรงว่าต่อไปทุกครั้งที่เสด็จพ่อนึกถึงคู่สามีภรรยาจิ้งอ๋อง กลางดึกจะต้องกัดฟันจนนอนไม่หลับเป็นแน่...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ