พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 289

วันพรุ่งจะเป็นวันส่งท้ายปีเก่าแล้ว ในวังหลวงก็จะยุ่งทั้งเมืองและเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความมงคล

ในระหว่างตรุษจีนจะต้องเตรียมรายชื่อของขวัญปีใหม่ เรื่องที่น่าปวดหัวมากที่สุดของอวิ๋นหลิงปวดหัวกับเรื่องของคนที่ก็คือคนที่ไปมาหาสู่กัน ชาติก่อนนางเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบที่ไม่มีพ่อแม่รัก พอมาตอนนี้กลับมีญาติสนิทมิตรสหายเพิ่มมาเป็นกอง มองแล้วปวดหัวมาก

ดังนั้นจึงโยนงานเหล่านี้ให้กับเซียวปี้เฉิง

เซียวปี้เฉิงรับสมุดไป มองนางเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม “ก่อนหน้านี้ใครกันที่บอกว่าจะเรียนฝึกเรื่องการจัดการบ้านให้ดี?”

นางพูดอย่างมีเหตุผลว่า “สองคืนมานี้ใครใช้ให้ท่านมาทรมานข้า ตอนนี้เอวของข้านั่งยังเจ็บอยู่เลย”

อาจเป็นเพราะการใช้อุกกาบาตมาทำสมาธิเป็นเวลานาน พลังจิตของเซียวปี้เฉิงในตอนนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีช่องว่างกับนางแคบลงอย่างช้า ๆ

ความสามารถพิเศษของเขายังไม่สะท้อนเงื่อนงํา ตอนกลางคืนกลับไปรบกวนนางมากขึ้น

“ให้เจ้าขยับเจ้าก็บอกว่าเหนื่อย พอข้าออกแรงเองเจ้าก็รู้สึกว่าปวดเอว”

เซียวปี้เฉิงส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายและยอมรับงานที่สมควรเป็นนายแม่ของจวนอ๋องอย่างยอมรับชะตากรรม

อวิ๋นหลิงยิ้มตาหยีมองเขา นอนอย่างเกียจคร้านอยู่บนเตียงข้าง ๆ และอ่านหนังสือ ข้างกายมีเม็ดแตงอบเกลือวางอยู่จานหนึ่ง ช่างสบายใจมาก

ภายในเรือน ลู่ฉีที่กำลังทำความสะอาดหิมะกองหิมะทุกวันก็เหลือบหันไปมองเซียวปี้เฉิงอย่างสงสาร

“ท่านอ๋องช่างลำบากมากจริง ๆ ต้องทำงานไปพลางและต้องปรนนิบัติพระชายาไปพลาง”

สือจิ่วที่ช่วยอยู่ด้านข้างก็เหลือบมอง พร้อมกับอดที่จะยิ้มไม่ได้ว่า “จิ้งอ๋องมีความสุขอยู่นะ”

หน้าต่างในห้องตำราปิดแค่ครึ่งหนึ่ง เมื่อมองจากมุมนี้จะมองเห็นอวิ๋นหลิงที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง ส่วนขาข้างหนึ่งยังคงวางพาดเอียงบนหัวไหล่ของเซียวปี้เฉิง

เห็นความสนุกสนาน เท้าของนางแกว่งไปแกว่งมาตามเสียงหัวเราะ บ้างก็เอาเท้าไปถูหน้าของเซียวปี้เฉิงเป็นระยะ ๆ สะบัดเท้าจนแทบจะหลุด

“ปีใหม่แล้วระมัดระวังหน่อย ระวังจะป่วยเอา”

เซียวปี้เฉิงเองก็ไม่หงุดหงิด พร้อมกับตบนิ้วเท้าของอวิ๋นหลิงเบา ๆ อย่างตำหนิ เมื่อสัมผัสกับเท้าที่สะอาดดังหยกของนางเย็นเฉียบ ก็เอาเท้าที่ถอดถุงเท้ายัดเข้าไปในเสื้ออุ่นที่หน้าอกและปิดเอาไว้

เขาพลิกรายชื่อของขวัญปีใหม่ไปพลาง ยังจะต้องใช้มือหนึ่งนวดเอวของอวิ๋นหลิงไปพลาง

“พระชายา ชาของท่านเสร็จแล้ว”

จื่อเถาที่เข้ามาส่งน้ำชาก็เห็นฉากนี้เข้า แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันแบบนี้นางก็อดที่จะถอนหายใจไม่ได้ ความรักของท่านอ๋องกับพระชายาช่างดีเหลือเกิน

ตอนที่อยู่หน้าพระชายา เขากลายเป็นคนอีกคนหนึ่ง

เก็บความอิจฉาในก้นบึ้งหัวใจ จื่อเถาพูดต่อว่า “บ่าวมีคำพูดหนึ่งจะมาบอกเจ้าค่ะ ใต้เท้าเฉียวบอกว่าพระชายาเสียนพาท่านหญิงอี้เหอมาเยี่ยมเจ้าค่ะ พวกนางรออยู่ที่ห้องโถงด้านหน้าแล้ว”

อวิ๋นหลิงเองจึงเก็บสีหน้าที่เกียจคร้าน พร้อมกับวางหนังสือลงแล้วพูดว่า “รู้แล้ว เจ้าถอยไปได้”

เมื่อสวมเสื้อผ้าถุงเท้าและรองเท้าเรียบร้อย นางก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ “เหตุใดอาชิ่นถึงไปอยู่กับซ่งเชว่อวี่ได้”

เซียวปี้เฉิงเองก็วางสมุดลง เข้าใกล้นางอย่างมีสีหน้าที่อธิบายไม่ได้ พร้อมกับพูดด้วยเสียงต่ำว่า

“ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินคนนอกแอบถกเถียงเป็นการส่วนตัวมาตั้งนานแล้ว บอกว่าอันชินอ๋องมี่ความประสงค์จะให้ลูกบุญธรรมเป็นพระชายารองของเสียนอ๋อง แต่ดูเหมือนว่าทางพี่รองจะไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย อีกทั้งไม่รู้ว่าเป็นข่าวจริงหรือว่าข่าวปลอม”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า “ช่างเถิด ประเดี๋ยวข้าจะให้นางไป ท่านเขียนรายชื่อของขวัญต่อก็พอแล้ว”

เมื่อมาถึงห้องโถงใหญ่ ก็เห็นพระชายาเสียนและซ่งเชว่อวี่นั่งรอนางอยู่แล้ว ทั้งสองคนพูดคุยกันและหัวเราะกัน ท่าทางคุยกันอย่างสนุกสนาน

อวิ๋นหลิงยิ้มต้อนรับ “อาชิ่น ท่านหญิงทำให้พวกเจ้ารอนานแล้ว”

“อาสะใภ้อวิ๋นหลิง!”

“ปี้เฉิงเป็นคนที่รักเป็นและช่างทะนุถนอม” น้ำเสียงของพระชายาเสียนแฝงไปด้วยความอิจฉาเล็กน้อย หัวเราะอีกครั้งและมองไปที่ซ่งเชว่อวี่ “แต่ว่าปีนี้ข้ามีเชว่อวี่มาช่วย ถือว่าสบายขึ้นไม่น้อย”

ซ่งเชว่อวี่หัวเราะ “ท่านพี่อาชิ่นเกรงใจไปแล้ว”

เมื่อไม่มีเรื่องอะไร ทั้งสามคนก็ดื่มชาไปพลางพร้อมกับพูดเรื่องสัพเพเหระไปพลาง

อวิ๋นหลิงแอบสังเกตพวกนางอย่างเงียบ ๆ ก็รู้สึกว่าบัดนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพระชายาเสียนและซ่งเชว่อวี่ถือว่าใกล้ชิดกันมาก นางจึงแอบขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ใบหน้าไม่ได้แสดงอะไรออกมา

อยู่ต่อไปหนึ่งชั่วยามกว่า ๆ ก็มองเห็นว่าฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว พระชายาเสียนและซ่งเชว่อวี่จึงทักทายเพื่อจะกลับจวน

อวิ๋นหลิงหาข้ออ้างเพื่อให้พระชายาอยู่ต่อเพียงลำพัง “อาชิ่นจะรอไปช้ากว่านี้ก็ไม่เป็นไรหรอกหนา ข้าจะจับชีพจรให้นั่วเอ๋อร์อีกครั้ง ดูว่าสุขภาพนางตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”

คนด้านหลังพยักหน้าและพูดกับซ่งเชว่อวี่ว่า “ถ้าเช่นนั้นเชว่อวี่ก็กลับไปที่จวนก่อนเถิด ใกล้จะมืดแล้ว ไม่ต้องรอข้า”

เมื่อรอให้ซ่งเชว่อวี่จากไป อวิ๋นหลิงถึงได้ขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “ช่วงนี้อาชิ่นใกล้ชิดกับท่านหญิงมากหรือ?”

พระชายาเสียนตอบว่า “เชว่อวี่เป็นลูกสาวบุญธรรมของเสด็จอาใหญ่ ซึ่งความสัมพันธ์ของฉางซวี่กับเสด็จอาใหญ่ก็สนิทกันมาก จึงเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่สนิทกับนาง”

ซ่งเชว่อวี่เป็นกันเองและสนิทสนมกับนางมาก มักจะมาที่จวนเสียนอ๋องเพื่อช่วยนางทำธุระที่หนักหน่วงเป็นประจำ ไป ๆ มา ๆ นทำให้นางก็ค่อนข้างซาบซึ้งซ่งเชว่อวี่

อวิ๋นหลิงครุ่นคิดอยู่สองสามอึดใจ พร้อมพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “อาชิ่นรักษาระยะห่างกับนางหน่อยจะดีกว่า”

พระชายาเสียนตกใจ “มีอะไรไม่ดีหรือเปล่า?”

แน่นอนว่าอวิ๋นหลิงไม่สามารถพูดสถานะของซ่งเชว่อวี่ตรง ๆ ออกมาได้ ทำได้เพียงเตือนนางอย่างอ้อม ๆ

“ท่านหญิงเป็นหญิงสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือน เข้าออกจวนเสียนอ๋องบ่อย ๆ จะหลีกเลี่ยงคนอื่นไปพูดนินทาไม่ได้ บัดนี้คนนอกล้วนลือกันว่านางจะแต่งงานกับพี่รองเพื่อเป็นพระชายารอง”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พระชายาเสียนก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ