พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 291

ช่วงเวลาสองวันผ่านไปไวในชั่วพริบตา และแล้วก็ถึงงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับตรุษจีน อวิ๋นหลิงเข้าวังพร้อมกับสามีและบุตรแต่เช้า

วันที่หนึ่งของศักราชใหม่เป็นวันพระบรมราชสมภพของพระเจ้าหลวง คืนนี้ทุกคนต้องอยู่โต้รุ่ง เวลาเดียวกันก็อวยพรวันเกิดให้ตาเฒ่าผู้นี้

อวิ๋นหลิงเตรียมภาพวาดเหมือนจากดินสอสีไว้เรียบร้อยแล้ว รูปแบบของรถรบไม้ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงเค้กครีมแล้ว

“เจ้าทึ่ม รีบแสดงฝีมือความโสดตลอดยี่สิบกว่าปีมา ภารกิจตีไข่มอบให้ท่านแล้ว”

ภายในห้องครัวเล็ก อวิ๋นหลิงถูมือ เตรียมทำเค้กสองชั้นสำหรับปริมาณการทานสิบคน

เพราะอุปกรณ์การใช้งานมีจำกัด การอบก็ค่อนข้างยาก จึงต้องใช้เวลาเตรียมล่วงหน้าเยอะ

เซียวปี้เฉิงกวาดสายตามองไข่ไก่ที่กองเป็นพะเนิน ลางสังหรณ์บอกเขาว่าเป็นงานหนักแน่

เขาหยิบอุปกรณ์ตีไข่ที่อวิ๋นหลิงประดิษฐ์ขึ้น และใส่น้ำตาลทรายกับน้ำมะนาวตามที่อวิ๋นหลิงบอกเป็นระยะ จากนั้นก็คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากสีหน้าที่เรียบเฉยกลายเป็นบูดเบี้ยวขึ้น

อวิ๋นหลิงเขยิบเข้ามาดูปราดหนึ่ง “เจ้าทึ่ม แบบนี้ใช้ไม่ได้ ช้าไป”

ทำเค้กใหญ่ขนาดนั้นต้องใช้ครีมจำนวนมาก ไม่รู้ว่าต้องตีให้ฟูถึงเมื่อไหร่

“ตอนนี้ข้าไม่ได้โสดแล้ว ไม่ได้เร็วขนาดนั้น” เซียวปี้เฉิงเขม็งตาใส่นาง พลางสะบัดแขน “ข้าไปหาผู้ช่วยมาดีกว่า”

ขืนทำต่อไปแขนของเขาต้องหักแน่

“งั้นท่านไปหาคนโสดมาจำนวนหนึ่ง ไม่เอาขันทีนะ ข้ากลัวความเร็วของพวกเขาจะใช้ไม่ได้”

เซียวปีเฉิงกระตุกมุมปาก “ข้าจะไปเรียก...ลู่ฉีมา”

หลังลู่ฉีพร้อมกับทหารร่างกำยำมาช่วย งานตีไข่ให้ฟูก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

อวิ๋นหลิงไม่เคยอบเค้กน้ำผึ้งใหญ่เท่านี้มาก่อน ระหว่างการทำจึงล้มเหลวหลายครั้ง พวกนางทำตั้งแต่เช้าจนค่ำ ถือว่าทำพอจะไปวัดไปวาได้หนึ่งชิ้นเท่านั้น

ไข่ไม่ใช่ครีม หากกินดิบ ๆ จะปวดท้องได้ อวิ๋นหลิงจึงอบให้สุกแล้วค่อยนำไปทาบนขนม

นางใช้สตรอเบอร์รี่ที่เร่งให้สุกมาปั่นให้ละเอียดสำหรับใช้เขียนตัวอักษร จากนั้นก็ตกแต่งด้วยผลไม้ต่าง ๆ ถึงแม้หน้าตาของเค้กจะสวยสู้เค้กที่ตั้งขายตามร้านค้าไม่ได้ แต่กลับมีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่ว

ลู่ฉีถึงกับน้ำลายสอ จ้องตาเป็นมัน เขาไม่เคยเห็นของว่างที่สวยเท่านี้มาก่อน

“หอมเหลือเกินพระชายา อันนี้คืออะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“อันนี้เรียกว่าเค้กครีม”

อวิ๋นหลิงแย้มยิ้ม ไม่ทิ้งผลงานที่ล้มเหลวพวกนั้น นางแจกให้กับผู้ช่วยในครัวทุกคน

ลู่ฉีกินหนึ่งคำแล้วดวงตาสว่างเจิดจ้า “อร่อย...อร่อยมาก ๆ สมกับเป็นของว่างฝีมือของพระชายาจริงๆ”

เค้กทั้งหอม นุ่มและหวาน ความนุ่มละมุนทำให้ต่อมรับรสทำงานไม่หยุด

เซียวปี้เฉิงมองเค้กสองชั้นแล้วก็อดชมว่าสวยไม่ได้

ตอนอยู่จวนจิ้งอ๋องก่อนหน้านี้ อวิ๋นหลิงก็เคยทำสิ่งที่คล้ายเค้กครีมให้ชินหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยใหญ่และสวยงามเท่านี้มาก่อน

เขาคาดว่าเสด็จปู่เองก็ต้องชอบมากแน่ ต่อไปห้องเครื่องต้องทำเมนูนี้เป็นประจำแน่

เซียวปี้เฉิงรู้สึกเห็นใจแขนของพ่อครัวแม่ครัวที่ทำงานประจำห้องเครื่อง

ยามนี้ท้องฟ้าด้านนอกมืดครึ้มแล้ว ห้องเครื่องยุ่งมาตลอดทั้งวัน กลิ่นหอมจากอาหารอันหลากหลายตลบอบอวลไปทั่ว

งานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้องรับวันตรุษจีนเป็นงานเลี้ยงเล็ก ๆ ภายในราชวงศ์ ภายในตำหนักจื่อเฉินมีคนมานั่งหลายคนแล้ว

หรงฉานกับรุ่ยอ๋องก็เพิ่งเข้าวังมา

“ธรณีประตูนี้สูงเล็กน้อย เจ้าระวังหน่อย อย่าเอาเท้าไปโดน ครั้งที่แล้วข้าตกใจมาก”

รุ่ยอ๋องประคองหรงฉานเข้ามาด้วยความระมัดระวัง น้ำเสียงมีความกังวลเล็กน้อย

บัดนี้หรงฉานตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว เพราะฤดูหนาวต้องใส่เสื้อหนา ๆ จึงมองอะไรไม่ออก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับรุ่ยอ๋องเหมือนพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นไม่น้อย

“พี่อวิ๋นหลิง”

แต่เยียนอ๋องก็ไม่ได้กรุ่นโกรธ ส่งของว่างให้นางด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง

หวงกุ้ยเฟยเห็นลูกชายตัวเองโดนหักหน้าเช่นนี้ ดวงตาก็มีแต่เปลวโทสะ อดทำหน้าบูดเบี้ยวไม่ได้

ฮองเฮาเฟิงแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยน “ดูเหมือนเยียนอ๋องกับองค์หญิงเก้าจะรักกันมาก ช่างเป็นการแต่งงานที่สวรรค์ประทานให้จริงๆ”

หวงกุ้ยเฟยกำผ้าเช็ดหน้าแน่น “...”

ไม่ว่าจะมองเช่นไร นางก็ไม่พอใจลูกสะใภ้คนนี้เลย แต่ดันทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ด้วย

หวงกุ้ยเฟยมองอวิ๋นหลิงด้วยความเกลียดแค้น หน้าอกเริ่มรู้สึกเจ็บปวด แต่กลับแสดงฤทธิ์เดชไม่ได้ ได้แต่ทำตาขวางอวิ๋นหลิงอย่างดุร้ายเท่านั้น

อวิ๋นหลิงสบถในใจ ยังกล้าจ้องนางหรือ?

“เสด็จแม่ทำตาขวางใส่ข้าทำไม หรือเห็นข้าขวางหูขวางตาอีกแล้ว?”

เสียงใสดังก้องภายในตำหนัก เสียงดังชัดมากจนคนอื่นได้ยินเต็มสองหู จักรพรรดิจาวเหรินเลิกคิ้วมองมา

หวงกุ้ยเฟยไม่คิดว่าอวิ๋นหลิงจะถามตรง ๆ เยี่ยงนี้ จึงได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อน

“เด็กคนนี้พูดอะไรกัน ข้าจะทำตาขวางใส่เจ้าทำไม เมื่อครู่แค่ลมพัดเข้าตาข้าเท่านั้น”

“อ้อ ข้าคิดว่าเสด็จแม่ยังติดใจเรื่องเมื่อก่อนอยู่เสียอีก”

“เข้าใจผิดกันใหญ่แล้ว เรื่องผ่านไปแล้วก็ให้แล้วกันไป หรือว่าในสายตาเจ้าข้าใจกว้างไม่พอ?”

“ท่านใจกว้างแค่ไหนไม่สำคัญหรอก ประเด็นสำคัญคือข้าเป็นคนใจแคบ ถ้าโดนทำตาขวางใส่จะถือสาเอาความแน่ แต่ลมเข้าตาท่านก็ช่างเถอะ”

“...”

ลองฟังดูสิ อันนี้คือคำพูดของเด็กที่พูดกับผู้ใหญ่หรือ?

หวงกุ้ยเฟยระงับเพลิงโทสะ ฝืนปั้นรอยยิ้มออกมา แต่ภายในใจอยากจะบีบคออวิ๋นหลิงให้ตายไปเสียเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ