พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 292

อวิ๋นหลิงทำเป็นไม่ประสีประสาต่อการฝืนยิ้มทั้งที่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของหวงกุ้ยเฟย

ก่อนหน้านี้นางเคยเตือนแล้ว หากหวงกุ้ยเฟยว่างจนไม่มีอะไรทำแล้วมาหาเรื่องนาง นางจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายเหิมเกริมเด็ดขาด

“พระเจ้าหลวงเสด็จ”

เสียงขันทีป่าวประกาศทำลายความกระอักกระอ่วนนี้

ตาเฒ่าเอามือไพล่หลังแล้วเดินเข้ามา วันนี้เขาใส่เสื้อสีแดงขอบทอง และใช้ด้ายสีทองปักตัวอักษรจำพวกโชคลาภ สิริมงคล อายุยืนยาวไว้

เขาเดินอย่างสง่าผ่าเผยมายังที่นั่ง แลดูกระฉับกระเฉง แม้ร่างกายจะผอมเล็ก ทว่าทุกย่างก้าวกลับทรงพลังยิ่ง

“อย่ามัวแต่อึ้งอยู่เลย รีบสั่งให้นางกำนัลยกของอร่อยมาให้ข้ากินเถิด”

พระเจ้าหลวงชอบกินเป็นชีวิตจิตใจ ทว่าหมอหลวงเคร่งครัด ปกติไม่ให้เขากินของมัน ของคาวหรือของหวานมากนัก

แต่วันนี้เป็นงานเลี้ยงรวมตัวกันของเครือญาติ หมอหลวงจึงอนุญาตให้เขากินอย่างหนำใจ

งานเลี้ยงเล็ก ๆ ของราชวงศ์ไม่ได้พิธีรีตองมาก พระเจ้าหลวงก็ไม่ชอบเล่นร้องรำทำเพลงด้วย พวกนางกำนัลจัดแถวยกอาหารและของวางมาถวายอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

คนที่อยู่ในตำหนักจื่อเฉินไม่ถือว่าเยอะ

พระเจ้าหลวงมีลูกทั้งหมดเก้าคน ซึ่งแบ่งเป็นบุตรชายเจ็ดคน บุตรสาวสองคน

ซึ่งในบุตรสาวทั้งสองคนนั้น คนหนึ่งเสียชีวิตแต่เยาว์วัย ส่วนอีกคนก็แต่งไปยังแคว้นเป่ยฉิน ส่วนบุตรชายอื่นก็มีศักดินา ปกครองยังพื้นที่ต่าง ๆ หากไม่ถูกเรียกตัวก็จะเข้าเมืองหลวงโดยพลการไม่ได้

แต่อันชินอ๋องเป็นกรณียกเว้น ตอนนั้นเขาปฏิเสธรับอาณาจักรครอบครัว เลือกที่จะเที่ยวลำเนาไพร เป็นท่านอ๋องผู้ว่างงาน ฉะนั้นจะเข้าร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดของพระเจ้าหลวงในเมืองหลวงทุกปี

จักรพรรดิจาวเหรินมีพระสนมไม่ถึงสิบคน ผู้ที่มีคุณสิทธิ์เข้าตำหนักจื่อเฉินในคืนนี้ก็มีแต่พระสนมที่ให้กำเนิดบุตรเท่านั้น

ถึงแม้คนจะไม่มาก แต่ก็ไม่กระทบต่อบรรยากาศอันเครงครื้นเลย

เซียวปี้เฉิงเห็นพระเจ้าหลวงกินอย่างเอร็ดอร่อยก็อดหัวเราะไม่ได้ “เสด็จปู่ อวิ๋นหลิงเตรียมของว่างเพื่อฉลองวันเกิดของเสด็จปู่โดยเฉพาะ เสด็จปู่ต้องเก็บท้องไว้กินด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ หาไม่แล้วประเดี๋ยวจะกินไม่ลง”

เมื่อพระเจ้าหลวงได้ยินว่าอวิ๋นหลิงทำของว่างให้ ดวงตาก็เบิกกว้าง เผยแววคาดหวัง

“ไม่เป็นไร วันนี้ข้าไม่ได้กินทั้งข้าวเช้าและข้าวเที่ยง เพราะต้องการเก็บท้องมากินตอนนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะมีของว่างเยอะแค่ไหนก็ยัดใส่ท้องของข้าได้”

อวิ๋นหลิงส่ายหน้า อาหารที่ห้องเครื่องส่งไปตอนกลางวัน พระเจ้าหลวงยอมทนมอง แต่ไม่กินเลยสักคำ อายุปูนนี้แล้วยังทำตัวเหมือนเด็กไปได้ ไม่กินข้าวเช้าแบบนี้ไม่กลัวปวดท้องหรือไร?

คำพูดและท่าทางของพระเจ้าหลวงชวนให้ทุกคนขำ บรรยากาศอันอึดอัดเมื่อครู่จึงจางหายอย่างเร็วไว

ไทเฮาก็แย้มยิ้มจนเห็นริ้วรอยเด่นชัด ตบมือพระเจ้าหลวงพร้อมกับพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เด็ก ๆ พูดถูก ท่านกินน้อยหน่อย ประเดี๋ยวยังต้องกินบะหมี่อายุยืนอีก”

หลังจากร่วมรับประทานอาหารเสร็จแล้วก็ถึงช่วงที่ผู้ใหญ่มอบอั่งเปาให้ลูกหลานแล้ว

เพราะอวิ๋นหลิงคลอดต้าเป่ากับเอ้อร์เป่า จึงได้อั่งเปาเยอะที่สุด คลังสมบัติมีล้นหลามในชั่วพริบตา

ทุกคนพากันอวยพรซึ่งกันและกัน บ้างก็เล่นกับเด็ก ๆ จากนั้นเสียงระฆังบอกเวลายามจื่อก็ดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ดอกไม้ไฟอันสดใสบนท้องฟ้า สะท้อนพื้นหิมะให้ประกายแสงระยิบระยับ

“นังหนูหลิง เจ้าบอกว่าวาดภาพเหมือนกับทำของว่างให้ข้ากิน รีบเอามาพร้อมกันเลยสิ”

พระเจ้าหลวงพูดด้วยความตื่นเต้น อยากเห็นและอยากได้ของขวัญจากอวิ๋นหลิงนานแล้ว บัดนี้เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอขึ้นมา

“น่าสนใจ”

พระเจ้าหลวงรู้สึกสนใจ หยิบถั่วลิสงมาวางหนึ่งเม็ด ก่อนจะลองดึงเชือกดู

“ชู่วๆๆ”

ท่ามกลางสายตาจับจ้อง ถั่วลิสงลอยละลิ่วไปติดรูจมูกของจักรพรรดิจาวเหรินรวดเร็ว จนเป้าหมายขยับเขยื้อนไม่ได้

เกิดความเงียบงันในตำหนักชั่วอึดใจหนึ่ง จักรพรรดิจาวเหรินรีบเอาถั่วลิสงในรูจมูกออกมา ก่อนจะเผยใบหน้าอันเขียวแดงออกมา

“ฮ่าๆๆ”

อวิ๋นหลิงหัวเราะร่าอย่างอดใจไม่อยู่ เสียงดังก้องไปทั่วตำหนักจื่อเฉิน

เซียวปี้เฉิงกลั้นหัวเราะสุดความสามารถ ทว่าก็ยังไม่ลืมไปดึงมืออวิ๋นหลิง สื่อให้นางรู้ว่าไว้หน้าจักรพรรดิจาวเหรินหน่อย

พระเจ้าหลวงเห็นอวิ๋นหลิงหัวเราะก็ตบเข่าตัวเองแล้วหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ สนุกดี สนุกมากๆ”

จักรพรรดิจาวเหริน “...”

ไฉนเขามักจะเป็นผู้บาดเจ็บเสมอ? ช่างเถอะ เสด็จพ่ออารมณ์ดีก็พอ...

คนอื่นในตำหนักอย่างหัวเราะ แต่ไม่กล้า พากันกลั้นหัวเราะเป็นแถว ๆ กระทั่งจี้ซูเฟยที่ปกติเป็นคนสุขุมก็อดยกมุมปากขึ้นไม่ได้

จุดที่ไม่ไกลออกไป อันชินอ๋องมองรอยยิ้มนางด้วยเหม่อลอย มีเสี้ยววินาทีหนึ่งเริ่มสูญเสียการควบคุม

แต่เมื่อเห็นเขาจี้ซูเฟยกำลังมองจักรพรรดิจาวเหรินก็หลุบตาลงอย่างหดหู่ใจ นัยน์ตามีแต่ความขมขื่น ทุกข์ระทม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ