พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 358

การเคลื่อนไหวของจี้ซูเฟยรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่าตัดสินใจตายนานแล้ว กระทั่งอ๋องทูเจวียผู้เฒ่ายังตอบสนองไม่ทัน

สตรีสวมอาภรณ์สีน้ำเงินล้มกองกับพื้นแล้วไม่กระดุกกระดิก ร่างกายมีเลือดสดไหลออกมา

พระเจ้าหลวงเห็นแล้วก็ตะโกนเสียงเด็ดขาด “ยิงเดี๋ยวนี้”

ทันทีที่ได้รับคำสั่งนี้ พลปืนไฟจำนวนมากก็ยิงใส่ทหารทูเจวียแบบไม่ยั้ง

อันชินอ๋องเห็นภาพนี้แล้วดวงตาอันแดงก่ำก็แทบจะแตกสลาย

“หลิงหวา”

เขาแผดเสียงร้องอันเศร้าโศกดังกังวาน ไม่สนใจลูกกระสุน พุ่งเข้าไปหาจี้ซูเฟยอย่างบ้าคลั่ง

“หยุดยิงเดี๋ยวนี้ หยุดยิงเดี๋ยวนี้” ไทเฮาตกใจจนเกือบหมดสติ “เจ้าใหญ่”

เหล่าพลปืนไฟมือสั่นระริก หยุดยิงทันที

อวิ๋นหลิงปฏิภาณว่องไว รีบปล่อยพลังจิต “พี่ฉิง เจ้าทึ่ม รีบไปจัดการ”

จากนั้นก็เห็นเงาสองสายต่อสู้กับทหารทูเจวียที่ยังมีชีวิตอยู่ ทหารต้าโจวตอบสนองได้ก็รีบชักดาบเข้าไปสมทบ

ทหารทูเจวียที่หลงเหลืออยู่โดนกำจัดอย่างสิ้นซากในชั่วไม่กี่อึดใจ

อาสื่อน่าเอ้อร์โชคร้าย โดนยิงบนศีรษะหนึ่งนัดแล้วสิ้นใจทันที

ตามร่างกายของอ๋องทูเจวียผู้เฒ่าก็มีกระสุนไม่น้อย เวลานี้ล้มไปกองกับพื้น ขยับเขยื้อนไม่ได้ หายใจหอบเหนื่อย สีหน้าเจ็บปวด

ส่วนสองแม่ลูกฮองเฮาเฟิงถูกพลปืนไฟช่วยไว้ แต่บัดนี้จักรพรรดิจาวเหรินไม่มีเวลาสนใจพวกนาง รีบเข้าไปดูอาการของจี้ซูเฟย

“สนมรัก”

“ไสหัวไป” อันชินอ๋องกอดจี้ซูเฟยแน่น จ้องจักรพรรดิจาวเหรินด้วยแววตาดุร้าย “หลีกไป เจ้าห้ามเข้ามาใกล้”

จักรพรรดิจาวเหรินหยุดเดิน สีหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน ถอนหายใจเบา ๆ

“พี่ใหญ่ ข้าแค่อยากให้นังหนูหลิงตรวจอาการนาง”

ขณะนี้เสียนอ๋องเพิ่งจะหายจากความตกใจ พุ่งเข้าไปด้วยโซซัดโซเซ เอ่ยเสียงสะอื้นอย่างไร้ที่พึ่ง

“น้องสะใภ้สาม โปรดช่วยเสด็จแม่ของข้าด้วย”

อวิ๋นหลิงย่นคิ้ว ถอนหายใจ จากนั้นก็รีบเข้าไปตรวจอาการของจี้ซูเฟย

อันชินอ๋องมองนางด้วยร่างกายแข็งค้าง ริมฝีปากซีดขาวอ้าขึ้น แต่ไม่ได้ห้ามอวิ๋นหลิงเข้าไปใกล้

จี้ซูเฟยซุกอยู่ในอ้อมแขนของอันชินอ๋อง ใบหน้ามีเหงื่อซึมออกมาเบา ๆ หายใจรวยริน อวิ๋นหลิงรีบตรวจความลึกของแผล จากนั้นก็ใช้พลังจิตวินิจฉัยอาการของนาง ผลปรากฏว่าหัวใจนางต้องหล่นวูบ

“ปอดของจี้ซูเฟยบาดเจ็บสาหัส รักษาไม่ได้แล้ว”

ถ้าอยู่ในยุคปัจจุบันก็ยังมีสิทธิ์รอด แต่ยุคโบราณนี้ไม่มีหน่วยฉุกเฉินและไม่มีอุปกรณ์ผ่าตัด

เสียนอ๋องได้ยินอวิ๋นหลิงกล่าวเช่นนั้น แววตาอันเปล่งประกายระยิบระยับด้วยความหวังก็เลือนหาย มองอวิ๋นหลิงด้วยความอึ้ง จากนั้นก็รู้สึกหน้ามืดอีกครั้ง

อันชินอ๋องที่กอดจี้ซูเฟยแน่นมีน้ำตาไหลพราก ใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจกับการกระทำตัวเองและความสิ้นหวัง

“หลิงหวา...เพราะข้าถึงทำให้เจ้าเป็นแบบนี้...ข้าทำร้ายเจ้า”

ทั้งชีวิตนี้ เขาทั้งรักและเกลียดนาง ไม่มีเสี้ยวนาทีใดที่จะไม่คิดถึงนาง เวลารักก็คลั่งรักมาก เวลาเกลียดก็เกลียดเข้ากระดูกดำด้วย

ทว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยคิดจะฆ่านาง หวังว่าวันหนึ่งจะสามารถขังนางไว้ข้างกาย

จี้ซูเฟยอ้าปากเล็กน้อย หายใจหอบอย่างเจ็บปวดราวกับปลาขาดน้ำ

อวิ๋นหลิงดูออกว่านางต้องการพูดอะไรบางอย่าง หยิบเข็มเงินบนเอวออกมาแล้วฝังบริเวณหน้าอกนางหลายจุด

“ข้าบรรเทาอาการเจ็บปวดให้จี้ซูเฟยได้เพียงชั่วคราว ยังมีอะไรต้องการจะพูดก็รีบพูดเถอะ”

สิ้นเสียง อวิ๋นหลิงก็ปล่อยพลังจิตใส่สมองของจี้ซูเฟยโดยไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้

การรับรู้ของอีกฝ่ายใกล้จะหลับใหลแล้ว หากอีกฝ่ายสูญเสียการรับรู้แล้วก็ไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้อีกเลย พลังจิตของนางจึงสามารถควบคุมสมองของอีกฝ่ายให้รู้สึกตัว

ดังคาด ความเจ็บปวดบนใบหน้าจี้ซูเฟยลดลงไปเยอะ ทั้งยังหายใจผ่อนคลายกว่าเดิมด้วย

“เซียวเหมี่ยน...ชาตินี้ข้าผิดต่อท่าน”

อันชินอ๋องเห็นนางใกล้จะหลับตาแล้ว ร่างกายเขาก็สั่นสะท้าน ร้องไห้ฟูมฟายแล้วตะโกนลั่นว่า

“จี้หลิงหวา...จี้หลิงหวา เจ้าผิดต่อข้า สิ่งที่เจ้าติดค้างเจ้า เจ้ายังชดใช้ไม่หมด อย่าคิดจะหนีความผิดด้วยความตาย ต่อให้ข้ากลายเป็นผี ข้าก็จะตามรังควานเจ้าทุกชาติไป”

อวิ๋นหลิงเหมือนจะรู้ทันความคิดของอันชินอ๋อง ร่างกายชะงักงัน แต่เลือกที่จะยืนมองเงียบ ๆ

วินาทีต่อมา อันชินอ๋องก็ดึงกระบี่บนตัวจี้ซูเฟยมาแทงหัวใจตัวเองอย่างไม่ลังเล

จักรพรรดิจาวเหรินหน้าเปลี่ยนสี “พี่ใหญ่”

จี้ซูเฟยดวงตาสั่นไหว ใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อยกมือสัมผัสตัวเขา แต่สุดท้ายก็สิ้นลมหายใจด้วยน้ำตา

“เจ้าใหญ่”

ไทเฮาสูดลมหายใจเข้า หมดสติในทันที ลูกประคำในมือร่วงหล่นพื้น

พระเจ้าหลวงรีบเข้าไปประคองไทเฮา มองอันชินอ๋องด้วยแววตาเจ็บปวดระคนความตำหนิ

“เลอะเลือนยิ่งนัก...เจ้าเลอะเลือนเสียจริง ทั้งชีวิตของเจ้าหมดไปกับความเลอะเลือนอย่างเดียว”

ริมฝีปากอันชินอ๋องสั่นระริก ยิ้มอย่างเศร้าโศก “เสด็จพ่อ ลูกอกตัญญู ตายไปก็ไม่คู่ควรที่จะฝังในสุสานราชวงศ์”

“ลูกทำให้ท่านต้องปวดหัวแล้ว ท่านโปรดเห็นใจลูกอีกสักครั้ง หากลูกตายไป โปรดฝังศพของลูกกับหลิงหวาที่วัดหานซานบนภูเขาหนาน...”

“ลูก...หวังว่าเสด็จพ่อจะอนุญาต”

อันชินอ๋องพูดประโยคนี้ด้วยความเจ็บปวดเสร็จ ดวงตาก็ขาดสีสันโดยสิ้นเชิง

เซียวปี้เฉิงทำหน้าเคร่งเครียด อารมณ์ที่ยากจะพรรณนาผุดขึ้นกลางใจ กุมมืออวิ๋นหลิงไว้แน่น

ภาพที่มองเห็นตรงหน้าคือแสงแดดรำไร...กำแพงวังหลวง...คราบเลือด...ทุกมุมที่มองเห็นล้วนน่าสยดสยองทั้งสิ้น

พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า กำแพงวังหลวงสีแดงเจือความทุกข์โศกไว้ ชวนให้หายใจไม่ค่อยออก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ