หลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืน หรงฉานก็ไม่ได้กลับจวนรุ่ยอ๋องอีก แต่ออกจากหอต้าหลี่กลับไปยังจวนเจิ้นกั๋วกง
นิ่งเงียบมาตลอดทาง เมื่อถึงบ้านแล้วก็เอ่ยเรื่องนี้กับหรงจั้น
หรงจั้นขมวดคิ้วดกดำไว้แน่น “เมื่อคืนเสี่ยวฉานบอกว่าอยากจะหย่ากับรุ่ยอ๋อง แต่ว่าตอนนี้นางตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เรื่องนี้เกรงว่าจะไม่สามารถจัดการได้ง่ายขนาดนั้น”
น้องสาวถูกพระราชทานงานแต่งงานโดยฮ่องเต้ ปกติแล้วการแต่งงานโดยได้รับพระราชทานเช่นนี้นอกเสียจากว่าเกิดสถานการณ์พิเศษขึ้นมา ไม่เช่นนั้นทั้งสองคนที่ได้รับพระราชทานการแต่งงานไม่มีทางหย่ากันได้ เพราะนั่นเท่ากับเป็นการไม่ให้เกียรติฮ่องเต้
ดังนั้นตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงตอนนี้มีคู่เวรคู่กรรมที่ถูกพระราชทานการแต่งงานไม่น้อย แม้จะพยายามประคองชีวิตคู่ให้ดูปรองดองรักกันดี ที่สุดแล้วก็เลือกที่จะปิดบังความวุ่นวายทำให้ดูสงบสุข ต่างคนต่างก็อดทนกับอีกฝ่าย
ยิ่งไม่กว่านั้นหรงฉานยังตั้งครรภ์ตั้งห้าเดือน แคว้นต้าโจวยังไม่เคยมีกรณีที่หญิงกำลังตั้งครรภ์หย่าสามี หรือว่าถูกสามีหย่าขาดมาก่อน
เพราะกฎหมายไม่อนุญาต
อวิ๋นหลิงพยักหน้าเบาๆ “เรื่องที่เสี่ยวฉานอยากจะหย่า ไม่ทราบว่าตระกูลหรงของพวกท่านคิดเห็นอย่างไร”
คนในยุคสมัยนี้มีความคิดคร่ำครึ นางแค่มีลางสังหรณ์ ผู้อาวุโสของหรงฉานคงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
“เกี่ยวกับความคิดที่จะหย่า ตอนนี้มีเพียงข้ากับท่านแม่ที่รู้ พวกเราย่อมหวังว่าเสี่ยวฉานจะมีชีวิตที่มีความสุข อย่าว่าแต่นางอยากหย่าเลย แม้นางจะถูกบ้านสามีทอดทิ้ง พวกเราก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถทำให้นางมีความสุขไปชั่วชีวิต ไร้ซึ่งความกังวลใดๆทั้งสิ้น”
พูดไปได้ครึ่งเดียว สีหน้าของหรงจั้นก็ปรากฏความกังวลใจขึ้นมาอย่างที่คาดไว้
“แต่ทางด้านท่านพ่อกับท่านปู่......บางทีอาจจะลำบากอยู่บ้าง”
อวิ๋นหลิงไม่ประหลาดใจเลยสักนิด เรื่องการหย่า ผู้ชายส่วนใหญ่ก็มีท่าทีเช่นนี้กันทั้งนั้น นอกเสียจากว่าพวกเขาจะกลายเป็นเหยื่อเสียเอง
แม้ว่าจะเป็นท่านพ่อกับท่านปู่ของหรงฉานก็ตาม ก็เลือกที่จะปกป้องอำนาจและตำแหน่งของคนที่เป็นผู้ชายเป็นอันดับแรก
บนโลกใบนี้ผู้ที่รักลูกมากที่สุดก็คือแม่ ฮูหยินหรงเป็นผู้หญิง ย่อมต้องหวังให้ลูกสาวมีความสุขอย่างเต็มหัวใจ
หรงจั้นเป็นกรณีพิเศษ แม้ว่าเขาจะเป็นชาย แต่กลับเฉยชาต่อแนวคิดเรื่องการแต่งงาน
เขาเคยคิดว่าตนเองจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน จึงไม่เคยคิดเรื่องในด้านนี้มาก่อน แม้ว่าอวิ๋นหลิงจะเข้ามาทำให้จิตใจหวั่นไหว ความชอบของเขาก็หยุดอยู่ที่ความชื่นชม ไม่เคยเพ้อฝันว่าจะแต่งงานเป็นสามีภรรยากัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงรู้สึกว่าการที่น้องสาวอยากจะหย่าก็ไม่ใช่เรื่องที่รับไม่ได้
อวิ่นหลิงพยักหน้า “ทางด้านเสด็จพ่อท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าสามารถจัดการได้ แต่ทางด้านตระกูลหรงก็ต้องดูฝีมือพวกท่านแล้ว”
คนอื่นไม่เห็นด้วย นางก็ไม่สามารถจะบุกเข้าไปในจวนเจิ้นกั๋วกงกดหัวให้พวกเขาเห็นด้วยได้
หรงจั้นรู้สึกโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าขอบคุณว่า “รบกวนท่านต้องลำบากวิ่งเต้นเพื่อเสี่ยวฉานแล้ว”
ขอเพียงผ่านด่านของจักรพรรดิจาวเหรินได้ จวนเจิ้นกั๋วกงย่อมมีทางเกลี้ยกล่อมได้
หรงจั้นเอ่ยขอบคุณเสร็จแล้ว ก็คุยกับอวิ๋นหลิงอีกสักครู่ก่อนจะกล่าวลา เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงคำครหา เขาไม่ได้อยู่ในห้องตามลำพังกับอวิ๋นหลิงนานนัก
อวิ๋นหลิงส่งแขก เห็นกู้ฉางเซินกับหลิวฉิงกำลังฝึกดาบกันอยู่ในลานบ้านพอดี กู้ฉางเซินกำลังสอนกระบวนท่าเฉพาะของแคว้นเป่ยฉินให้กับหลิวฉิง
สมองอันชาญฉลาดของนางเกิดความคิดขึ้นมา ยิ้มสดใสเดินเข้าไปใกล้พวกเขาสองคน
“พี่ฉิง ท่านเห็นคนเมื่อครู่หรือไม่ เขาคือรัฐทายาทหรงแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง ถูกขนานนามมาตลอดว่าเป็นชายรูปงามที่สุดของแค้วนต้าโจว ท่านคิดว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไร”
เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ กู้ฉางเซินสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตามองไปที่ใบหน้าของหลิวฉิงอย่างไม่ทันสังเกตเห็น สีหน้ายังคงปกติเหมือนเดิม
หลิวฉิงเก็บดาบ หวนคิดถึงใบหน้าของหรงจั้นอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ให้การประเมินอย่างจริงจัง
“เรียกได้ว่าไม่มีใครเทียบได้ในยุคนี้ เพียงแต่ดูอ่อนแออยู่บ้าง”
ลักษณะของคนคนนั้นที่แยกไม่ออกว่าเป็นบุรุษหรือสตรี ทำให้นางรู้สึกเหมือนเป็นลูกแก้วใสลูกหนึ่งที่พร้อมจะตกแตกได้เสมอ สวยงามแต่ก็เปราะบาง
อวิ๋นหลิงยังคงพูดยิ้มๆว่า “เช่นนั้นเจ้าชอบคนประเภทรัฐทายาทหรงหรือไม่ จนตอนนี้เขาก็ยังโสดไม่แต่งงานนะ”
ถามประโยคนี้จบ นางก็แอบเหลือบมองไปทางกู้ฉางเซินด้วยใบหน้าเรียบเฉย เห็นเพียงคิ้วของเขาที่ขมวดแน่นขึ้นอย่างรวดเร็วครู่หนึ่ง
หลิวฉิงส่ายหน้าอย่างซื่อสัตย์ “ไม่ชอบ ให้ความรู้สึกเหมือนต่อยไปทีหนึ่งจะร้องไห้นานมาก”
การพูดคุยเมื่อครู่นี้ อารมณ์ของเจ้าหวังถูกหลิวฉิงส่งผลกระทบให้เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด จะบอกว่าเขาไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไรต่อหลิวฉิงเลยคงยากจะทำให้เชื่อได้
คนที่นางสอบถามคือหลิวฉิง ไม่ใช่ฟงเสี่ยวเม่ย ถ้าหากคนที่กู้ฉางเซินชื่นชอบคือฟงเสี่ยวเม่ย เมื่อครู่ก็คงไม่มีปฏิกิริยาถูกชักจูงทางอารมณ์
อวิ๋นหลิงคิดว่าการวิเคราะห์และคาดเดาของตนเองนั้นไม่ผิด กู้ฉางเซินมีใจให้กับหลิวฉิง
หรืออีกนัยหนึ่ง เขาหวั่นไหวไปกับชายาของหลายชายตนเอง น่าตื่นเต้นจริงๆ
แต่ว่าในเวลานี้ อวิ๋นหลิงไม่มีเวลามานินทาให้ลึกกว่านี้ ต้องรีบจัดการเรื่องสำคัญ
นางรีบกลับไปยังห้องเพื่อเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง เขียนอธิบายความต้องการของหรงฉานอย่างชัดเจน จากนั้นก็ให้คนนำไปส่งที่ตำหนักฉางหนิง
พระเจ้าหลวงตอบสนองเร็วมาก ไม่นานคนในวังก็ส่งจดหมายมาหนึ่งฉบับ ข้างในนั้นมีอักษรตัวใหญ่เขียนไว้ว่า ตกลง
ตาแก่น้อยตอบรับอย่างเด็ดขาดฉับไว ไม่มีความลังเลใดๆที่จะปฏิบัติตามคำสัญญาเรื่องให้รางวัลที่เคยพูดไว้กับอวิ๋นหลิง
เขาตอบตกลงอย่างรวดเร็ว แต่จักรพรรดิจาวเหรินกลับร้อนใจขึ้นมาทันที “เสด็จพ่อ ทำไมท่านจึงปล่อยให้พวกเขาที่เป็นคนรุ่นหลังทำเรื่องเหลวไหล อยู่กันดีๆจะหย่าทำไม ในท้องของลูกสะใภ้ใหญ่มีลูกอายุครรภ์ห้าเดือนแล้ว”
หลังจากรู้ข่าวคราว เขาก็ส่งคนออกไปสอบถาม รับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่หอต้าหลี่ แม้ว่าเจ้าใหญ่จะแสดงออกโง่เขลาไปหน่อย แต่มันก็ไม่น่าจะทะเลาะกันจนถึงขั้นหย่าร้าง
นางหนูอวิ๋นหลิง ช่างทำให้เขาอยู่ไม่สุขทุกวันเลยจริงๆ
จักรพรรดิจาวเหรินรู้สึกทั้งตกใจและหงุดหงิดต่อการกระทำ”สุมไฟ” ของอวิ๋นหลิงมาก รีบส่งคนไปเรียกตัวนางเข้าวังทันที คิดว่าจะตำหนินางสักหน่อย
อวิ๋นหลิงกลับขมวดคิ้วพลางโบกมือ ไล่ขันทีในวังที่มาถ่ายทอดคำสั่งกลับไป
“ข้ายุ่งอยู่ยังไม่มีเวลา อีกอย่างทำไมข้าต้องเข้าวังด้วย เขาไม่มีขาเดินมาเองหรือ”
เมื่อจักรพรรดิจาวเหรินได้ยินขันทีกลับมารายงาน โกรธจนควันออกหู “นางเด็กคนนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งกำเริบเสิบสานใหญ่แล้ว”
โยนฎีกาทิ้งไป เขาเดินทางไปยังจวนจิ้งอ๋องด้วยความโมโหในคืนนั้นเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...