ขอพูดจากใจจริง อวิ๋นหลิงชอบองค์ชายห้าไม่น้อย
สาเหตุที่วันนี้นางบีบให้จักรพรรดิจาวเหรินลงโทษเหลียงเฟยให้ได้ ไม่ใช่เพื่อจื่อเถาอย่างเดียว และยังคำนึงถึงองค์ชายห้าด้วย
รุ่ยอ๋องกับเสียนอ๋องต้องอนาถเพราะมารดาตัวเอง เห็นได้ชัดว่าเหลียงเฟยก็ไม่ได้ฉลาดไปกว่ากันเลย นางไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับองค์ชายห้า
“เอ่อ...”
จักรพรรดิจาวเหรินถูกโน้มน้าวจิตใจสำเร็จ ทำสีหน้าลังเล
รุ่ยอ๋องถูกชุบเลี้ยงจนเป็นคนนิสัยแบบนี้ มันกลายเป็นตราบาปในใจเขาแล้ว ตอนนี้เขาให้ความสำคัญเจ้าห้ามาก ย่อมไม่อยากให้เขาทำผิดเหมือนรุ่ยอ๋องอีก
เมื่อจักรพรรดิจาวเหรินคิดได้ดังนั้นก็ถอนหายใจยาว ๆ “พูดถูกต้อง ทำตามที่พวกเจ้าบอกแล้วกัน”
จะตามใจและให้อภัยเช่นนี้ตลอดนั้นไม่ดีแน่ หาไม่แล้วอาจเป็นการทำร้ายเจ้าห้าได้
อวิ๋นหลิงมองเขาด้วยความแปลกใจ ยิ้มเอ่ยว่า “พระทิตย์ขึ้นทางตะวันตกหรือไร พระองค์เห็นดีเห็นงามเร็วเยี่ยงนี้เลยหรือ? หม่อมฉันเตรียมเถียงกับพระองค์ครึ่งวันเลย ดูเหมือนพระองค์ก็มีเหตุลผเป็นบางเวลาด้วยเช่นกันเพคะ”
จักรพรรดิจาวเหรินกระตุกมุมปาก โบกมือไล่พวกนางออกไปอย่างรังเกียจ
“พอแล้ว อย่ามาพูดมาแถวนี้เลย ข้าจะเตรียมกินข้าวเที่ยง ไม่รั้งพวกเจ้าไว้แล้ว”
ขืนคุยกันต่อไป เขากลัวตัวเองจะกินข้าวไม่ลง
“งั้นหม่อมฉันขอตัว ออกพระราชโองการลงโทษให้เร็วที่สุดนะเพคะ อย่าได้ลืมเชียว”
อวิ๋นหลิงบรรลุเป้าหมายแล้วก็ไม่คิดจะอยู่ต่อ หมุนกายควงแขนเซียวปี้เฉิงแล้วเดินกลับตำหนักฉางหนิง
ทันทีที่พวกนางเดินออกไป ฝูกงกงก็รีบเข้าไปริมน้ำชาให้จักรพรรดิจาวเรหิน เขาดื่มน้ำชาปรับอารมณ์ไปถึงสามแก้ว
จักรพรรดิจาวเหรินอดถามไม่ได้ “ฝูเต๋อ เจ้าคิดเห็นต่อเรื่องเมื่อครู่เช่นไรบ้าง?”
ฝูกงกงยิ้มเอ่ย “บ่าวคิดว่าท่านอ๋องกับพระชายาพูดถูกพ่ะย่ะค่ะ ดูผิวเผินอาจเหมือนหาเรื่องพระสนมเหลียงเฟย แต่แท้จริงแล้วก็เป็นความหวังดีต่อองค์ชายห้านั่นแหละพ่ะย่ะค่ะ”
“แม้พระชายาอ๋องจิ้งจะตรงไปหน่อย แต่ความจริงแล้วก็คิดรอบคอบดี ท่านอ๋องจิ้งไม่ใช่คนเลอะเลือน เขายอมมาฟ้องร้องกับพระชายาเยี่ยงนี้ ย่อมต้องมีเหตุผลเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิจาวเหรินพยักหน้าช้า ๆ ก็เป็นสาเหตุที่เขายอมตอบตกลงในท้ายที่สุด
เมื่อก่อนเวลาอวิ๋นหลิงถกเถียงกับเขา เขามักจะรู้สึกคันปาก หงุดหงิด แต่พอเวลาผ่านไปก็ตระหนักได้ว่ามีเหตุผล แม้คำพูดจะไม่ค่อยน่าฟังสักเท่าไหร่ก็ตาม
โดยเฉพาะช่วงนี้หลังจากทะเลาะกับฮองเฮาเฟิงแล้ว จักรพรรดิจาวเหรินก็ทบทวนพฤติกรรมตัวเอง ก่อนจะรู้ว่าจะตามใจต่อไปไม่ได้แล้ว
“ฝูเต๋อ ฝนหมึกให้ข้า ข้าตัดสินใจแล้ว จะส่งรุ่ยอ๋องไปทำงานที่กรมขุนนาง ให้เขาเริ่มต้นทำงานยศระดับเก้า ระดับที่ต่ำสุด ถ้าเขาหายป่วยแล้วก็รีบจัดการเรื่องนี้ซะ และส่งคนไปจับตามองด้วย ห้ามผู้ใดอะลุ่มอล่วยหรือสนับสนุนเขาเพราะสถานะเขาเป็นอันขาด”
งานหลักของกรมขุนนางคือดูแลควบคุมการรับเข้าและปลดออกราชการ การสอบจอหงวนเพื่อเฟ้นหาผู้มีความสามารถ ตลอดจนการเลื่อนยศ ลดยศ และโยกย้ายตำแหน่งงาน เป็นสถานที่สร้างมนุษย์สัมพันธ์เยอะสุดในบรรดาหกกรม
ที่นั่นมีความสัมพันธ์อันซับซ้อน เพียงประโยคหรือการกระทำเดียวก็อาจล่วงเกินผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวได้ ส่งผลให้พรรคนั้น ๆ โจมตีหนักในเวลาต่อมา
ก่อนหน้านี้รุ่ยอ๋องทำงานในสำนักศึกษาฮั่นหลิน จะทำหน้าที่เขียนและเรียบเรียงหนังสือเฉพาะด้านเป็นหลัก เป็นตำราศึกษาแก่บัณฑิตที่ต้องการสอบจอหงวน
“ฮองเฮาเฟิงยังไม่รู้ว่าท่านเป็นคนเสนอความคิดนี้สิท่า? หากนางรู้ นางต้องฉีกท่านแหลกเป็นจุณแน่”
พระเจ้าหลวงส่งเสียงฮึดฮัด เพราะมีกับข้าวอยู่ในปาก จึงพูดไม่ค่อยชัดเจนเท่าใดนัก “นางกล้าหรือ? หากนางไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ข้าจะส่งนางกลับไปสำนึกที่ศาลบรรพชนต่อ”
อวิ๋นหลิงแย้มยิ้ม พูดด้วยความใคร่รู้ต่อว่า “จะว่าไป เสด็จพ่อส่งหยวนโม่ไปทำงานที่ใดหรือ?”
เซียวปี้เฉิงกล่าว “ตอนนี้ส่งไปที่กรมคลังก่อน น้องห้าเป็นคนหัวไว คิดเลขเก่ง เสด็จพ่ออยากให้เขาไปทำความคุ้นเคยตรงนั้นสองสามเดือน ต่อไปพวกเราต้องทำการค้ากับแคว้นตงฉู่และชาวต่างชาติ เสด็จพ่ออยากให้เขารับผิดชอบหน้าที่นี้”
ช่วงนี้องค์ชายห้ายังหาหนังสือแคว้นตู่ฉู่มาไม่น้อย เพื่อใช้ศึกษาภาษาชาวต่างชาติ
อวิ๋นหลิงพยักหน้า “หยวนโม่เป็นคนฉลาดมากความสามารถ ต้องไม่มีปัญหาแน่”
องค์ชายห้าไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะ ยังเป็นคนเรียนรู้เร็วอีกด้วย ก่อนหน้านี้เขาเคยขอเรียนวาดภาพเหมือนและเรียนคณิตศาสตร์แนวปัจจุบันกับนาง ถึงแม้จะใช้เวลาเรียนไม่นาน แต่ก็สามารถจับใจความสำคัญได้
หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ พวกเขาสองคนก็พูดคุยกับพระเจ้าหลวงอีกครึ่งชั่วยาม จากนั้นตาเฒ่าน้อยก็ง่วงนอน อยากนอนกลางวัน พวกเขาสองคนจึงกลับห้องรับรองของตำหนักฉางหนิง
ตงชิงสังเกตความเคลื่อนไหวภายในตำหนักตลอดเวลา เห็นนางกลับมาก็รีบเข้ามารายงาน “พระชายาเพคะ หลังท่านออกไป องค์ชายห้าเคยมาสองครั้ง แต่ก็ไม่ได้เจอหน้าพี่จื่อเถาก็กลับตำหนักจิ่งเหรินแล้วเพคะ”
“ข้าได้ยินนางกำนัลบอกว่าองค์ชายห้าโมโหหนักมากเพคะ ลดพวกสาวใช้หน่วนซิ่งเป็นนางกำนัลแรงงานในยศที่ต่ำสุด ตอนนี้ส่งตัวไปที่หน่วยซักล้างเสื้อผ้าเพคะ”
นางพูดเจื้อยแจ้วหลายประโยค ไม่นานก็มีนางกำนัลรายงานว่า
“ทูลพระชายาจิ้งอ๋อง เหลียงเฟยเสด็จมาเพคะ พระองค์จะยอมให้เข้าพบพบไหมเพคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...