พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 404

อวิ๋นหลิงไม่พูดอะไร มองประเมินรุ่ยอ๋องอย่างจริงจังพักหนึ่ง

ไม่ได้เจอกันหลายวัน รุ่ยอ๋องผอมลงจนเสียรูปร่าง ความสง่างามทั่วร่างก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน

ประกายตาของเขาไม่เจิดจ้าโชติช่วงเหมือนเมื่อก่อน นัยน์ตาคล้ายตกตะกอนอะไรบางอย่าง แต่บัดนี้ดูสุขุมขึ้นไม่น้อย

อวิ๋นหลิงไม่ยอมเอื้อนเอ่ยวาจา รุ่ยอ๋องก็ไม่ได้ฉุนเฉียวหรือวู่วาม เพียงมองนางด้วยสายตากระตือรือร้นและอ้อนวอน

สุดท้ายนางก็เอ่ยปากเสียงราบเรียบ “ตามข้ามาแล้วกัน”

รุ่ยอ๋องถอนใจด้วยความโล่งอก ยิ้มฝืนให้นาง แต่ก้นบึ้งดวงตาไม่มีความสุขเลยสักนิด กลับกลายเป็นตึงเครียดมากขึ้นเล็กน้อยแทน

“ขอบคุณ น้องสะใภ้สาม”

เขายื่นมือไปประคององค์หญิงหกที่นั่งอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าอึ้งงันขึ้น ออกแรงจับมือที่สั่นเทาอย่างไม่สบายใจของน้องสาว ก่อนเดินตามหลังอวิ๋นหลิงไปอย่างเงียบเชียบ

แต่ละย่างก้าวหนักอึ้งยิ่งนัก ราวกับมีก้อนหินหนักพันชั่งมาผูกถ่วงไว้ที่ขา

ในศาลบรรพชนราชวงศ์สีหม่น บรรยากาศอึมครึมเคร่งเครียด ภายในห้องหอมตลบด้วยกลิ่นไม้จันทน์ พระพุทธรูปทองคำก็ดูขลังศักดิ์สิทธิ์และเยียบเย็น

ฝูกงกงกล่าวอย่างใจเย็น “พระองค์รีบเสวยข้าวเถิด ใกล้จะถึงเวลาแล้ว”

เบื้องหน้าฮองเฮาเฟิงมีโต๊ะเขียนหนังสือทำด้วยไม้สีดำเข้มตั้งอยู่ บนนั้นวางจานอาหารห้าอย่างล้วนมีสีสัน รสชาติ และกลิ่นหอมครบถ้วน

ทั้งปลา เนื้อ น้ำแกง และอาหารมังสวิรัติอีกสองอย่าง นี่คืออาหารมาตรฐานสำหรับนักโทษก่อนจะประหารของแคว้นต้าโจว

ฮองเฮาเฟิงคลี่ยิ้มอย่างเหม่อลอย ท่าทางเลอะเลือนอยู่บ้าง “ไม่เคยคิดเลยว่า ท่านกับข้าพบกันตั้งแต่เป็นเด็กน้อยผมหยอมแหยม เป็นคู่สร้างคู่สมกันตั้งแต่เยาว์วัยมาร่วมกว่าสิบปี และเป็นสามีภรรยาครองรักกันมากว่ายี่สิบปี กระทั่งวันหนึ่งก็มอบความตายให้ข้า...”

ดวงเนตรจักรพรรดิจาวเหรินผุดความเจ็บปวดวาบผ่าน แต่เมื่อเห็นเซียวปี้เฉิงมีสีหน้าเย็นชาและไร้อารมณ์ จึงระงับความสับสนที่ทนไม่ไหวและทรมานใจไว้ได้ในที่สุด

“ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นกรรมที่เจ้าก่อขึ้นมาเอง”

ฮองเฮาเฟิงนั่งบนเบาะรองแล้วสะอื้นไห้ไม่หยุด ฝูกงกงเหลือบมองธูปสามดอกที่อยู่หน้าพระพุทธรูป ยามนี้ได้ไหม้จนหมดดอกแล้ว

เขาถอนหายใจลึกๆ แล้วยื่นถาดไม้ไปให้

“ถึงเวลาแล้ว โปรดตัดสินพระทัยเลือกด้วยองค์เองเถิด”

บนถาดไม้มีชุดฆ่าตัวตายสามชิ้นวางไว้โดดเด่นสะดุดตา ทั้งสุราพิษ กริช และแพรขาว นางสนมทุกคนในวังหลังที่ถูกตัดสินประหารชีวิต จะเลือกวิธีปลิดชีพตัวเองได้ก่อนตาย

สุราพิษนั้นกว่าจะออกฤทธิ์กินเวลายาวนานและเจ็บปวด แพรขาวจะเหลือศพสมบูรณ์ทั้งตัว แต่เป็นวิธีการฆ่าตัวตายที่เจ็บปวดที่สุด ส่วนกริชนั้นสะอาดและคมกริบ ทว่าศพจะไม่งาม

ฮองเฮาเฟิงมองยันต์ปลิดชีพทั้งสามอย่างตรงหน้า สีหน้าแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย ร่างกายสั่นระริก ในใจอดตื่นตระหนกมิได้

เหตุใดเทียนอวี้กับหรงเอ๋อร์จึงยังไม่มาช่วยนาง

เซียวปี้เฉิงเห็นนางชักช้าไม่ยอมตัดสินใจด้วยใบหน้าซีดเผือด จึงเอ่ยเสียงเข้มเนิบช้า “ฝูกงกงช่วยตัดสินใจแทนที อย่าให้พลาดฤกษ์งามยามดีไปเชียว”

ฝูกงกงได้ยินก็พยักหน้า วางถาดไว้บนโต๊ะไม้ ยกสุราพิษยื่นให้ฮองเฮาเฟิง

“พระองค์ เชิญ”

“พี่ลี่! ท่านจะใจร้ายจริงๆ หรือ”

จักรพรรดิจาวเหรินทรงหันหลังกลับอย่างว้าวุ่นใจ ก่อนนิ่งเงียบ

สีหน้าแข็งทื่อของฮองเฮาเฟิงเริ่มสลายไป แทบรอให้รุ่ยอ๋องกับองค์หญิงหกมาช่วยไม่ไหว นางดูหมดหวังและท้อแท้ใจ

“เหอะ...ฮ่าๆ...นางหญิงนั่นต้องกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในปรภพเป็นแน่ ข้าทุ่มเทวางแผนมาตั้งครึ่งค่อนชีวิต แต่สุดท้ายก็ยังมาพ่ายด้วยน้ำมือของเด็กที่นางให้กำเนิด!”

นางหัวเราะลั่นอย่างบ้าคลั่ง ทั้งความกลัว ความโกรธ ความไม่เต็มใจ และความขุ่นเคืองที่อดกลั้นมาเนิ่นนานก็ปรากฏชัดบนใบหน้าอย่างเต็มที่

ฝูกงกงมองท่าทางที่ดุร้ายและบิดเบี้ยวของฮองเฮาเฟิง ก็รู้สึกกลัวจนหัวใจเต้นแรง บังเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่ตงิดๆ

อึดใจต่อมา ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว ฮองเฮาเฟิงพลันฉวยกริชอันแหลมคมขึ้นมา แล้วพุ่งตัวซวนเซไปหาเซียวปี้เฉิง

“ท่านอ๋อง ระวัง!”

“ท่านฆ่าคนไปกี่คนแล้วเพราะตัณหาเห็นแก่ตัว ท่านทำร้ายน้องรอง น้องสาม และน้องห้า ในวันก่อกบฏในเมืองมีคนล้มตายไปตั้งมากมาย ต้นตอของทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ท่าน!”

“สิ่งที่ท่านทำลงไปสวรรค์ยังยากจะให้อภัย สมควรถูกลงโทษ!”

จวบจนบัดนี้เขายังคงไม่ลืมเลือน ที่ตอนนั้นเซียวปี้เฉิงเล่าให้เขาฟังถึงความชั่วร้ายของเผ่าทูเจวีย และความทุกข์ยากของผู้คนที่ชายแดน

นางเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดเขา เขาย่อมเคารพและรักนาง แต่มิอาจปฏิเสธหรือลบล้างบาปทั้งหมดที่นางทำ!

ฮองเฮาเฟิงมองเขาด้วยความตื่นตระหนกเหลือแสน หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “ดี...ดีมาก! ข้าทุ่มเทเสียเปล่าแท้ๆ เลี้ยงลูกเนรคุณอย่างเจ้า!”

เห็นเช่นนี้ อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงก็มองหน้ากันอย่างงุนงงปราดหนึ่ง ประสานสายตากันอย่างระแวดระวัง

นางใช้พลังจิตตรวจจับสภาพจิตใจยามนี้ของฮองเฮาเฟิงดูไม่มั่นคงอย่างยิ่ง ไม่เหมือนคนปกติ เห็นชัดว่ามีปัญหาทางจิตบางอย่าง

ฮองเฮาเฟิงก่นด่าสาดเสียเทเสียอย่างติดๆ ขัดๆ ดวงตามืดหม่นและไร้ชีวิตชีวาฝังอยู่ในแก้มตอบ ราวกับผีร้ายที่น่าสะพรึงกลัว

องค์หญิงหกตกใจขวัญเสียจนตัวสั่นเทาอย่างอดมิได้ “ท่านพี่!”

เห็นฮองเฮาเฟิงกวัดแกว่งกริชอย่างบ้าระห่ำอีกครั้ง แต่ยังไม่โดนผู้ใด เซียวปี้เฉิงก็หักข้อมือนางแล้วกดตัวลงกับพื้นอย่างแรง

“อ๊ะ...!”

ฮองเฮาเฟิงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดคราหนึ่ง ฟุบนอนลงกับพื้นทั้งที่ยังสาปแช่งและดิ้นรนไม่หยุด รุ่ยอ๋องถอยหลังไปสองก้าวด้วยใบหน้าซีดเซียว กริชเมื่อครู่นี้หวิดจะแทงเข้าตาของเขาเสียแล้ว

จักรพรรดิจาวเหรินสูดหายใจเข้าลึก ระงับความเจ็บปวดในใจ ตะโกนด้วยความพิโรธ “ฝูเต๋อ กรอกสุราพิษให้นาง!”

ฝูกงกงก้าวขึ้นไปทำตามคำสั่งทันที พลางบอกเซียวปี้เฉิงให้กดฮองเฮาเฟิงไว้ แล้วเทสุราพิษเข้าไปในปากนางพรวดเดียว

ฮองเฮาเฟิงค่อยๆ หมดเรี่ยวแรงขัดขืนต่อสู้ เริ่มเอามือกุมท้องแล้วกลิ้งตัวลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดทุรนทุราย

อวิ๋นหลิงมองฮองเฮาเฟิงด้วยสายตาเย็นชา สุราพิษในสมัยก่อนไม่แรงพอ แต่ตอนนี้นางทรมานราวกับถูกพิษของอสรพิษ พยายามสูดหายใจเฮือกออกมา

ฮองเฮาเฟิงถูกทรมานแสนสาหัส จนเวลาผ่านไปครึ่งก้านธูปนางก็หยุดเคลื่อนไหวลงอย่างสิ้นเชิงในที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ