พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 423

"ยาหยกดำเชื่อมสมาน? ไม่ใช่ ๆ สีดูไม่ถูก นี่มันคือยาอะไร?"

"เทียนซินหลาน หญ้าใบเงิน ดอกโส่วหนิง เป็นส่วนผสมของยาหยกดำเชื่อมสมานชัด ๆ นี่นา เอ๊ะ...แต่ก็ไม่ถูก"

"นี่คือกลิ่นอะไร ผลกู่หลิง บัวเจ็ดทวาร...เดี๋ยวก่อน ของพวกนี้สูญพันธ์ไปนานแล้วมิใช่หรือ?"

มองดูท่าทีลนลานพร้อมบ่นพึมพำของหลิงซู เฉียงเวยจึงได้เอ่ยปากอธิบาย

"นี่คือยาสูตรใหมที่ลือกันว่าพระชายาจิ้งอ๋องเป็นผู้คิดค้น มีสรรพคุณในการเชื่อมกระดูกและงอกใหม่ ชื่อว่ายาหยกขาวเชื่อมสมาน"

หลิงซูถอนหายใจยาว สายตาดูมึนงง

นับแต่จำความได้เขาก็คลุกคลีอยู่กับสมุนไพรต่าง ๆ ในฐานะผู้อยู่ในวงการนี้ อาศัยแค่ตาดูและจมูกดมก็พอรู้ได้ว่า คนที่ผลิตยาชนิดนี้มีความรู้ด้านการแพทย์ที่สูงส่งเพียงใด

"ยาตัวนี้มีส่วนผสมที่ใกล้เคียงกับยาหยกดำเชื่อมสมาน แต่สรรพคุณน่าจะเหนือกว่ายาที่้ข้าคิดได้อีก"

และที่ทำให้น่าตกใจก็คือ ในส่วนผสมนั้นนอกจากสมุนไพรที่หายากแล้ว ยังมีบางกลิ่นที่เขาดมไม่ออกด้วย

เขาเชื่อมั่นว่าตนมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องยาเป็นอันดับหนึ่งในแผ่นดิน จะไม่มียาตัวไหนที่เขาไม่รู้จัก หรือถ้ามี ก็แค่เป็นสมุนไพรที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน

แต่ด้วยกำลังทรัพย์และอิทธิพลของสำนักทิงเสวี่ย ไม่มียาตัวไหนที่หลิงซูจะไม่เคยพบเห็น เว้นแต่พวกสมุนไพรในตำราแพทย์ที่เขียนว่าได้สูญพันธ์ไปแล้ว!

"เคยได้ยินมานานว่าพระชายาจิ้งอ๋องได้ลองเพาะเลี้ยงสมุนไพรหายากที่สูญหายไป เดิมคิดว่าคงจะมีแค่อย่างสองอย่าง แต่ตอนนี้ดูแล้ว น่าจะมีมากกว่านี้เยอะ!"

หลิงซูสูดลมหายใจเข้าลึก ทำอย่างไรก็ไม่อาจระงับอารมณ์อันพลุ่งพล่าน สีหน้าที่ปกติดูสุภาพก็กลายเป็นบิดเบี้ยวบึ้นมา

"ไม่ได้ คืนนี้ข้าต้องไปจวนจิ้งอ๋องเพื่อสืบหาลาดเลา!"

เขาทิ้งคำพูดไว้อย่างเดือดดาล ว่าแล้วก็พลิกตัวออกนอกหน้าต่าง กระโดดจากชั้นสามลงไปชั้นล่าง

กงจื่อโยวนวดขมับเหมือนคนปวดศีรษะ "โรคเก่ากำเริบอีกแล้ว เฉียงเวยเจ้ารีบตามไปดูเร็ว ๆ อย่าให้เขาก่อเรื่องได้"

ปกติหลิงซูเป็นคนสุขุมเยือกเย็นว่านอนสอนง่าย เสียแต่คลั่งเรื่องสมุนไพรนัก บางครั้งเพื่อตามหาต้นหญ้าประหลาดซักต้นหนึ่ง ยอมไปนอนกลางดินกินกลางทางหรือตากน้ำค้างบนเขาถึงสามเดือนก็เคยทำมาแล้ว

และเขาก็สนใจในสมุนไพรที่พระชายาจิ้งอ๋องเพาะเลี้ยงอยู่ มาต้าโจวครั้งนี้ก็หวังจะได้พบนางซักครั้ง แต่บัดนี้ดูแล้วเหมือนจะทนรอไม่ไหวอีก

......

ค่ำคืน เดือนมืดลมแรง

สำนักทิงเสวี่ยการข่าวแม่นยำ หลิงซูได้รู้ว่าจิ้งอ๋องกับพระชายาไม่อยู่ในจวน จึงไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่

ผู้คนในจวนต่างก็เข้านอนนานแล้ว และด้วยฝีมือว่องไวอย่างเขา เข้ามาถึงในจวนแทบไม่ต้องครั่นคร้ามต่อผู้ใด

เพียงไม่นาน หลิงซูก็สืบหาทางเข้าเรือนเกษตรของอวิ๋นหลิงจนพบ

เรือนเกษตรนี้เดิมทีเป็นสถานเลี้ยงสัตว์ แต่หลังจากถูกอวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงจับมาดัดแปลงเสียใหม่ ทำให้พื้นที่ได้ขยายเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว มองไปคล้ายกับแปลงผักที่สุดลูกหูลูกตามากกว่า

หลิงซูเข้าไปเห็นก็ตกตะลึงตาค้าง

มีเป็ดไก่สิบกว่าตัวเดินเล่นอย่างสบาย ในนาปลูกพืชชนิดต่าง ๆ นับไม่ถ้วน นอกจากสมุนไพรบางชนิดที่เขาคุ้นเคยแล้ว ยังมีพืชผักผลไม้อีกจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

อวิ๋นหลิงใชัพลังจิตในการเร่งการเจริญเติบโตของพืช ดังนั้นเวลาปลูกจึงไม่ได้พิถีพิถันซักเท่าไหร่ ได้เมล็ดมาก็หว่านไปทั่วแล้วแต่จะสะดวก

จึงทำให้การปลูกผักและสมุนไพรแทบจะปนกันไปหมด และมีทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในแปลงนานั้น

หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงก็ปล่อยให้ขับถ่ายตามสบาย ประหยัดเวลาในการลงปุ๋ยอีก

"แคว่ก ๆ ๆ!"

"กุ๊ก ๆ ๆ!"

หลิงซูเบิ่งตาโตเมื่อเห็นแม่ไก่ตัวหนึ่งออกไข่ต่อหน้าต่อตา จนไปทับเอาก้านของเทียนซินหลานซึ่งหายากจนงอไปข้างหนึ่ง

จากนั้นก็มีเป็ดอีกตัวเดินส่ายสะโพกมาเหยียบถูกดอกหนิงเสิน ซ้ำยังปล่อยมูลร้อน ๆ แถมออกมาให้อีก

"สวรรค์โปรดด้วยเถอะ น่าเสียดายแท้ๆ!"

หลิงซูเอามือทาบอกพร้อมถอนหายใจอย่างแรง จนอยากจะไปจับสัตว์เหล่านั้นมาถอนขนแล้วลงหม้อตุ๋นเสียให้หมด!

เขาสุดจะทนได้อีกต่อไป รีบเดินไปจับห่านตัวใหญ่ที่กำลังแทะต้นสมุนไพรอยู่ พร้อมกับเหวี่ยงมันไปไกล ๆ

"เวรกรรม ช่างเป็นกรรมแท้ ๆ!"

จำได้ว่านี่คือสมุนไพรที่ตำราบอกว่าได้สูญพันธุ์ไปแล้ว มองดูใบที่เว้าแหว่งเป็นรู ๆ หลิงซูก็ให้ปวดใจจนเหลือจะกล่าว

แต่ยังไม่ทันได้ปวดใจ ก็ตะลึงไปกับสมุนไพรหลากชนิดที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพืชผักผลไม้ต่าง ๆ จนแทบลืมหายใจเลยทีเดียว

เพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น หลิงซูก็ดูออกว่าเป็นสมุนไพรหายากไม่ต่ำกว่าสิบชนิด ซึ่งล้วนถูกเขียนไว้ในตำราว่าสูญพ้นธุ์หรือไม่ก็ปลูกไม่ขึ้นอีกแล้ว

"พระชายาจิ้งอ๋องเป็นคนประเภทไหนกันแน่นะ?"

"คุณพระคุณเจ้าช่วย! นี่เป็นสัตว์ดุร้าย ทำไมไม่จับขังกรงซะล่ะ!"

เมื่อเห็นเสือที่กระโจนมา หลิงซูก็กลัวจนอกสั่นขวัญแขวน เบี่ยงตัวหลบแทบจะไม่ทัน

ปกติขึ้นเขาไปหายาก็เคยเจอสัตว์ป่าบ่อย ๆ แต่เสือที่ตัวใหญ่เช่นนี้ เกิดมาก็เพิ่งเคยพบเคยเห็น

ให้ตายเถอะ! ดูคล้ายกับเราเป็นสมันตัวน้อย ที่พร้อมจะถูกขย้ำได้ทุกเมื่อ!

เฉียงเวยก็กลัวจนหน้าซีดเผือด "ยืนเซ่อหาอะไรอีก รีบหนีเร็ว!"

หลิงซูจึงรีบเก็บสมุนไพร แล้วปีนขึ้นกำแพงอย่างลนลาน

เจ้าเสือขี้แยพาร่างอันอวบอ้วนคว้าน้ำเหลวไปรอบหนึ่ง โกรธจนคำรามไม่หยุด พร้อมกระโจมไปทางกำแพงอีก ยื่นกรงเล็บไปทางสะโพกของหลิงซู

เสียงแคว่กดังขึ้น กางเกงของหลิงซูขาดจนกลายเป็นเศษผ้าในทันที

"โอ๊ะ!!!"

หลิงซูร้องด้วยความตกใจ ไม่ทันได้ใส่กางเกง วิ่งล่อนจ้อนเปิดไปก่อนแล้ว

......

ณ. เรือนชิง

ทันทีที่เจ้าเสือขี้แยคำราม หลิวชิงก็ได้ลืมตาขึ้น

นางกับเจ้าเสือขี้แยมีประสาทที่เชื่อมโยงกัน จึงรู้ว่าในเรือนเกษตรมีคนบุกรุกเพื่อจะขโมยสมุนไพร

นีกถึงว่ายาถอนพิษที่อวิ๋นหลิงปลูกให้กู้ฉางเซินก็อยู่ในนั้น นางก็รู้สึกเครียด จนไม่สนใจอะไรท้้้งสิ้น รีบลุกขึ้นเพื่อจะไปดูทันที

และยังไม่ทันที่หลิวฉิงจะถอดเฝือกที่ขาออก กู้ฉางเซินก็เปิดประตูถลาเข้ามา แสดงสีหน้าหยุดยั้งการการกระทำของนางไว้

หลิวฉิงกล่าวอย่างร้อนใจ "แปลงนามีคนบุกรุก เจ้าไม่ไปจับโจรมาหาข้าทำไมกัน?"

"ก็เพราะรู้ว่าในจวนมีคนร้าาย ข้าจึงรีบมาที่นี่"

กู้ฉางเซินมองดูนาง ทั้งโกรธและระอาใจในคราวเดียวกัน

โชคดีที่เขามาทัน หาไม่แล้วเฝือกของหลิวฉิงคงไม่อยู่เป็นแน่แท้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ