มะเขือเทศกิ่งนั้นเป็นพันธุ์ที่อวิ๋นหลิงเพาะพันธุ์ปรับปรุงมานาน
ถึงแม้ว่าสมุนไพรจะล้ำค่ามาก แต่ว่านางได้มาแค่เมล็ดเดียว แค่อาศัยพลังจิตเร่งการเจริญเติบโตเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำให้อุดมสมบูรณ์มาก
แต่มะเขือเทศไม่เหมือนกัน มะเขือเทศของแคว้นต้าโจวทั่วไปจะเปรี้ยวมาก อวิ๋นหลิงท้อมานานมากแล้วแต่ว่าพระเจ้าหลวงนั้นชอบมาก
นับตั้งแต่ที่ทอดมันฝรั่งจนกลายเป็นขนมที่จวนจิ้งอ๋องเตรียมไว้เป็นประจำแล้ว นางก็เฝ้าปรารถนาอยากทําซอสมะเขือเทศที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้นในเวลาท่ามกลางความยุ่งก็จะหาเวลาทําการทดลองเพื่อเพาะพันธุ์มะเขือเทศที่ปรับปรุงใหม่
หลังจากที่อวิ๋นหลิงทําการทดลองและทดลองผสมพันธุ์แล้ว ในที่สุดก็เพาะพันธุ์พันธุ์มะเขือเทศที่แสนอร่อยและถูกปาก ซึ่งสามารถนำมาเป็นผลไม้ทานได้ อีกทั้งยังเป็นพันธุ์ที่เหมาะกับซอสมะเขือเทศอีก
ผลไม้สิบลูกที่ได้มาอย่างยากลําบากนี้ ล้วนเป็นผลไม้ที่นางเตรียมที่จะอยู่ต่อเพื่อปลูก แต่ตอนนี้ถูกเจ้าหัวขโมยเอาไปกินลูกหนึ่ง
สิ่งที่กินนั้นไม่ใช่มะเขือเทศ แต่เป็นเวลาและหัวใจที่รวบรวมพลังจิตที่นางใช้เลยหนา!
เมื่อเซียวปี้เฉิงมองดูสภาพที่น่าสังเวชของแปลงผัก จึงถามนางว่า “สมุนไพรหายไปจะส่งผลต่อการแก้พิษของสหายกู้ไหม?”
อวิ๋นหลิงส่ายหัวด้วยสีหน้าหมองคล้ำ “สมุนไพรที่พี่ใหญ่ต้องการใช้ข้าได้เก็บไว้ตอหนึ่งแล้ว ของในไร่เป็นตอที่สอง ไม่มีส่งผลต่อการทำยาให้เขา”
จากนั้นนางก็นับความเสียหายด้วยความโกรธ พร้อมกับพบว่ามีหลุมขนาดใหญ่และขนาดเล็กมากกว่าสิบหลุม สมุนไพรที่ถูกขุดไปข้างในไม่เหลือแม้แต่ราก
ทั้งหมดนี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่หายากมีราคา ประจวบกับพืชที่ถูกทับหักเหล่านั้น คิดคำนวณเป็นเงินจำนวนไม่น้อยต้องมีประมาณหนึ่งแสนชั่งเห็นจะได้
หนึ่งแสนชั่ง!
สีหน้าของเซียวปี้เฉิงเองก็ไม่ดีนัก เรื่องไปเกิดขึ้นกับใครก็หัวเราะไม่ออกทั้งนั้น พูดง่าย ๆ ว่าทำให้คนถึงระดับเป็นซึมเศร้าได้
เยี่ยเจ๋อเฟิงสีหน้ารู้สึกผิด กล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “หัวขโมยคนนั้นมีสหายผู้หญิง ข้าคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นใช้วิชามอมเมาของแคว้นเหมียวเจียงเป็นด้วย ความประมาทชั่วขณะนั้นจึงปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้”
ถ้าหากตั้งแต่รู้แต่เนิ่น ๆ ว่าสิ่งที่ถูกขโมยเป็นสมุนไพรที่ล้ำค่าขนาดนี้ ไม่ว่าพูดอะไรเขาก็จะต้องจับสองคนนั้นไว้
อีกฝ่ายรีบวิ่งหนีไป ทิ้งไว้แค่เพียงกางเกงสีเขียวไม้ไผ่ที่ถูกกระชากเป็นผ้าขี้ริ้วเช่นนี้
“ลวดลายบนผ้าแบบนี้เป็นสไตล์ของแคว้นถังใต้พวกนั้น” เซียวปี้เฉิงมองอย่างพิถีพิถัน จากนั้นขมวดคิ้วขึ้น “บวกกับวิชามอมเมานั่น...ดูเหมือนว่าไอ้หัวขโมยจะมาจากแคว้นถังใต้”
วิชามอมเมาเองก็ถูกทำยันต์สะกด ต้นกำเนิดของพวกนี้มาจากแคว้นเหมียวเจียง เคยแพร่หลายมากในแถบแคว้นถังใต้ อีกทั้งยังก่อความไม่สงบในบ้านเมืองมาไม่น้อย
ช่วงสองปีมานี้ จึงเป็นสาเหตุที่แคว้นถังใต้ปิดประเทศตัดสื่อสารกับโลกภายนอก ดูเหมือนจะเป็นเพราะมนต์สะกดก่อความวุ่นวาย
ทันทีที่ได้ยินเซียวปี้เฉิงพูดถึงแคว้นถังใต้ วินาทีนั้นอวิ๋นหลิงก็นึกถึงกงจื่อโยว
ใบหน้าที่บึ้งตึงของนางได้นึกทบทวนสมุนไพรหลายชนิดที่ถูกขโมยไปอย่างละเอียด จากนั้นก็พบสิ่งที่น่าประหลาดอย่างหนึ่ง สมุนไพรเหล่านั้นเป็นสมุนไพรที่นางตั้งใจจะใช้เพื่อบรรเทาพิษเย็นในร่างกายของสนมลี่ผิน!
“สำนักทิงเสวี่ย จะต้องพวกเขาไม่ผิดอย่างแน่นอน”
กู้ฉางเซินที่ได้ยินก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “น้องสามเจ้าพูดกระไร?”
อันตรายกําลังใกล้เข้ามา เรื่องมาถึงบัดนี้แล้วอวิ๋นหลิงเองจึงไม่สนใจที่จะปวดใจกับต้นกล้าเล็ก ๆ ในแปลงผักแล้ว จึงรีบดึงกู้ฉางเซินเข้ามาใจห้องอย่างรวดเร็วเพื่อประชุมอย่างเร่งด่วน
ระหว่างฉากกั้น ผู้ชายทั้งสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ด้านนอกอย่างมีสติ
เซียวปี้เฉิงจึงรีบบอกเรื่องที่พบกงจื่อโยว อีกทั้งพิษเย็นสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นของสนมลี่ผินออกมา
“ส่วนยาครีมสีแดงคือดอกเบญจมาศพิฆาต ใช้พริกแดงชี้ฟ้าและพริกชนิดอื่น ๆ ตากแห้งและบดเป็นผงแล้วผสมเป็นน้ำพริก”
“ส่วนเม็ดยาสีดำคือใบ้ร่ำไห้ เพียงกินลงไปเม็ดเดียว ภายในไม่กี่วันไม่ว่าจะกินอะไรก็รู้สึกขมขื่นมาก ทนแทบไม่ไหว จึงทำได้เพียงหิวโหย”
“น้ำสีเขียวคือน้ำเซียนเซียวเหยา เพียงแค่ถูกที่ผิวก็จะรู้สึกคันประหลาดมาก รอให้จับกงจื่อโยวและโจรที่ขโมยยาได้ ข้าจะจับพวกเขามัดเอาไว้ จากนั้นจะถูกลงไปที่ฝ่าเท้าของพวกเขา...”
เซียวปี้เฉิงฟังแล้วก็ตกใจมาก นี่เมื่อเทียบไปแล้วน่ากลัวมากกว่ากินยาแล้วยิ้มไม่ออกและนกกระเรียนติงสีแดงมากกว่าหรือ?
เมื่อมอง “ยาทรมาน” พวกนั้น เขารู้สึกว่าวิธีการของเมียเขาค่อนข้างโรคจิตเล็กน้อย แต่คําพูดนี้เขาไม่กล้าพูด
อวิ๋นหลิงกรองสิ่งเหล่านั้นเสร็จสมบูรณ์ ก็สั่งด้วยความโกรธว่า “ข้ายังทำเข็มยาสลบเกิดใหม่ด้วย เจ้าบอกเยี่ยเจ๋อเฟิง นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป องครักษ์ทุกคนทั้งหมดไม่ว่านายบ่าวในจวนอ๋องจะต้องพกกระบอกหน้าไม้แขนติดตัว เห็นใครก็ตาที่ผิดปกติ วางยาสลบโดยตรงจับเป็น!”
ด้วยความกังวลเรื่องความปลอดภัยของหลิวฉิง เดิมทีนางอยากจะให้คนทั้งหมดในจวนจิ้งอ๋องพกปืนคาบศิลาติดตัว คิด ๆ ดูแล้วก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป จึงสั่งให้มีแค่คนค่ายปืนไฟเท่านั้นที่ถือปืนคาบศิลาได้เท่านั้น
นางกลัวว่าปืนคาบศิลาล้นหลามเกินไป จึงกลับเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะประสบการณ์และการรับรู้ในชาติที่แล้วบอกนางว่า การถือปืนอย่างอิสระไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรนัก
ไม่นานเยี่ยเจ๋อเฟิงก็มารับคำสั่งที่ด้านหน้า อวิ๋นหลิงนำของสิ่งนี้ให้เขา จึงกล่าวว่า “ช่วงนี้เจ้ากำลังยุ่งกระไรอยู่ เหตุใดถึงไม่เห็นเงาของเจ้า ปกติเรียกเจ้ามารวมตัวด้วยกันก็ไม่มา หรือว่านับตั้งแต่เจอแม่นางน้อยคนนั้นมัวแต่คบแฟนอยู่หรือ?”
เยี่ยเจ๋อเฟิงสีหน้าแข็งทื่อเล็กน้อย ส่ายหัวอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “...เปล่า พระชายาล้อเล่นแล้ว”
อวิ๋นหลิงรู้สึกว่าเขาแปลก ๆ จึงขมวดคิ้วขึ้นมา “เจ้าอึ้ง ๆ อึ้ง ๆ ทำอะไร มีอะไรระหว่างพวกเราที่ไม่สามารถพูดได้?หรือว่าช่วงนี้ข้าทำให้เจ้าขุ่นเคืองแล้ว เจ้าถึงได้หลบหน้าข้า?”
เยี่ยเจ๋อเฟิงเม้มริมฝีปาก สีหน้าซับซ้อนค่อย ๆ พูดอย่างช้า ๆ ว่า “ไม่มีเรื่องอะไร เพียงเพราะแม่ของข้าทําสิ่งนั้นก่อนหน้านี้ ข้าจึงไม่มีหน้าที่จะสู้หน้ากับเจ้าและปี้เฉิง...”
ขณะนี้อวิ๋นหลิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่เยี่ยเจ๋อเฟิงกล่าวขึ้น นางลืมหลินซินผู้หญิงคนนั้นไปตั้งนานแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...