พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 443

รอจนกระทั่งถึงเวลากลางคืน เค้ก หม้อไฟยวนยาง ไก่ทอดมันฝรั่งทอด และทาโกยากิที่เพิ่งออกจากเตาก็ถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ผลไม้และของว่างถูกวางไว้เต็มโต๊ะ

อวิ๋นหลิงเพิ่งจะช่วยเข็นรถเข็นของหลิวฉิงเข้ามา ก็ได้ยินเสียงสนทนาของเซียวปี้เฉิงกับอีกคนหนึ่งดังขึ้น เป็นกงจื่อโยวที่จากไปหลายวันในที่สุดก็กลับจวนแล้ว

เมื่อเห็นว่าเรือนหลันชิงคึกคักมาก เขาก็ถามยิ้มๆว่า “คืนนี้พวกท่านมากมายมารวมตัวกันทำอะไร”

เฉียงเวยเปลี่ยนชุดกระโปรงสีแดงสวยงามเป็นการเฉพาะ ใบหน้าถูกตกแต่งอย่างบรรจงงดงาม นางพูดยิ้มๆว่า “พระชายาจิ้งอ๋องรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเจ้าสำนักน้อย จึงจัดเตรียมงานเลี้ยงเล็กๆเพื่อเป็นการฉลองโดยเฉพาะ”

กงจื่อโยวมองอวิ๋นหลิงด้วยความรู้สึกประหลาดใจ รู้สึกไม่กล้าจะคาดคิด ก่อนหน้านี้เขายังไม่เป็นที่ชื่นชอบอยู่เลย ทำไมจู่ๆจึงใจดีกับเขาเช่นนี้

“เตรียมงานเลี้ยงวันเกิดให้ข้า ลำบากพี่สะใภ้แล้ว”

ฝีมือการทำอาหารของพ่อครัวในวังหลวงแห่งต้าโจวธรรมดามาก คืนนี้ตอนที่พระสนมลี่ผินชวนกงจื่อโยวทานอาหาร เขาฝืนใจกินไปได้ครึ่งหนึ่งก็หยุดลง

เขาเป็นคนเลือกกินมาก สำหรับพ่อครัวของจวนจิ้งอ๋องยิ่งไม่มีความหวังที่ดีอะไร

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไว้หน้าอวิ๋นหลิงบ้าง ประเดี๋ยวแม้จะยกอาหารไม่น่ากินแค่ไหนขึ้นมาเขาก็ต้องกิน และต้องกินจนจุกด้วย

เพราะแม้ว่าปากเขาจะเรียกว่าพี่สะใภ้ แต่ในใจกลับแอบคิดไว้ว่าอยากจะเป็นพี่เขยใหญ่

เมื่อคิดเช่นนี้ กงจื่อโยวก็เตรียมใจตนเองให้พร้อม เดินเข้าไปในเรือน กลับพบว่าบนโต๊ะมีหม้อใบหนึ่งที่กำลังเดือดจัดวางอยู่ อาหารที่จัดวางล้อมรอบไว้นั้นล้วนเป็นของสด

“......นี่คือ”

หลิงซูรีบตอบขึ้นมาทันทีว่า “พระชายาเข้าครัวทำให้เจ้าสำนักน้อยด้วยตนเองเลย”

กงจื่อโยวนิ่งอึ้งอยู่กับที่ เอ่ยซ้ำอย่างไม่แน่ใจ “ทำเพื่อข้าด้วยตัวเองหรือ”

โตจนป่านนี้แล้ว ยังไม่เคยมีใครเข้าครัวทำอาหารให้เขา ในวันเกิดของเขาเลยสักครั้ง

“ในเมื่อหลงเย่นับท่านเป็นเพื่อน เช่นนั้นพวกเราย่อมนับท่านเป็นเพื่อนเช่นเดียวกัน เข้าครัวทำอาหารให้เพื่อนด้วยตัวเองไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเสียหน่อย”

อวิ๋นหลิงเอาตะเกียบยื่นให้เขา “นี่เป็นหม้อไฟ ไม่รู้ว่าจะถูกปากท่านหรือไม่ ลองชิมดูก่อน”

นางไม่ได้พูดแนะนำให้มากความ ใช้การกระทำแสดงให้เขาดูว่ากินอย่างไร

พอกงจื่อโยวได้ยินว่าอวิ๋นหลิงลงมือทำให้เขาเอง สีหน้าก็จริงจังขึ้นมาหลายส่วน ในใจไม่มีการปฏิเสธอีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้นหม้อที่มีรูปร่างประหลาดและยังมีไอร้อนผุดขึ้นมาที่อยู่ตรงหน้านี้ เขาชื่นชอบน้ำซุปที่หอมกรุ่นและเดือดจนเกิดฟองอากาศเช่นนี้ รู้สึกทั่วทั้งร่างกายจะอบอุ่นขึ้นมา

กงจื่อโยวจุกจิกเรื่องอาหารมาก และย่อมเป็นนักกินเช่นเดียวกัน ไม่ช้าก็เรียนรู้และทำเลียนแบบได้ และยังจับจุดสำคัญได้อย่างรวดเร็ว

“......น้ำซุปมะเขือเทศนี้อร่อย” ดวงตาของเขาเป็นประกาย ราวกับค้นพบโลกใบใหม่ “เปรี้ยวๆหวานๆและอบอุ่น เรียกน้ำย่อยได้ดีมาก”

อวิ๋นหลิงยิ้มไม่พูดอะไร นางรู้ว่าไม่มีใครสามารถต้านทานเสน่ห์ของหม้อไฟได้ วิธีการนี้ทดลองใช้หลายครั้งก็ยังไม่เคยพลาด

จนกระทั่งตอนนี้ นางยังไม่เคยพบคนที่สามารถปฏิเสธหม้อไฟได้

กงจื่อโยวกินอาหารชั้นเลิศจนชิน การกินแปลกใหม่เช่นนี้นับว่าเป็นการสัมผัสครั้งแรก ทุกอย่างล้วนสอดคล้องกับสิ่งที่เขาชื่นชอบ

ที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ เขาชอบความคึกคักที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นนี้

อาหารที่อวิ๋นหลิงทำนั้นเห็นได้ชัดว่าได้คำนึงถึงสิ่งที่เขาชอบ ลูกชิ้นกุ้งกับลูกชิ้นปลา ล้วนเป็นปลาและกุ้งสดใหม่ที่พ่อครัวนำมาทำในวันนี้ ก้างเล็กๆที่อยู่ในเนื้อปลาล้วนถูกสับจนละเอียดไปหมดแล้ว

ต้มในน้ำซุปมะเขือเทศบอกได้คำเดียวว่าสุดยอด

โต๊ะกินข้าวที่ใหญ่มาก ชั่วขณะนั้นไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรเลย ต่างก็ก้มหน้ากินกันไม่หยุด

ความขมเฝื่อนในปากของหน้ากากเงินใช้เวลาหลายวันกว่าจะจางหายไปได้ ตอนนี้แทบจะกลืนกินลิ้นตัวเองลงไปในท้องแล้ว

เมื่อกินหม้อไฟเสร็จ อวิ๋นหลินก็ยกเค้กวันเกิด มันฝรั่งและไก่ทอดรวมไปถึงทาโกยากิออกมา เตรียมไว้ประเดี๋ยวจะกินไปด้วยเล่นไพ่ไปด้วย

กงจื่อโยวให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกและรูปร่างของตนเองมาก แม้ของกินจะน่าอร่อยแค่ไหน เขาก็ไม่อาจจะตามใจปากได้ แต่วันนี้กลับฝืนคำเสียแล้ว

ทุกคนเล่นกันอย่างมีความสุขจนดึกดื่น ก่อนจะกลับไปพักผ่อนที่เรือนของตนเอง

ช่วงเที่ยงของวันที่สอง หลังจากที่กงจื่อโยวลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้ว ก็ไปที่เรือนหลันชิงก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อมอบป้ายประกาศิตสีดำซึ่งมีเอกลักษณ์พิเศษให้กับสองสามีภรรยาอวิ๋นหลิงหนึ่งชิ้น

เซียวปี้เฉิงมองดูลวดลายบนป้ายอย่างละเอียด ก่อนจะถามว่า “นี่คือ”

กงจื่อโยวยิ้มพลางพูดอย่างสบายอกสบายใจว่า “สำนักทิงเสวี่ยได้เปิดร้านรับฝากเงินไว้ในแคว้นต่างๆ ร้านรับฝากเงินธงเป่าเป็นกองกำลังของข้าเอง ป้ายประกาศิตสีดำก็ถือว่าเป็นกุญแจของร้านรับฝากเงิน”

เดิมทีเขาอยากจะจ่ายเงินสามสิบล้านตำลึงเงินให้กับอวิ๋นหลิงในครั้งเดียว เพียงพอในการใช้สำหรับซื้อยาสมุนไพรล้ำค่ามากมายแล้ว

แต่เมื่อคืนไปคิดดูแล้ว สุดท้ายก็เปลี่ยนความคิด

“ข้าเองก็ไม่รู้ว่าควรจะมอบเงินทองให้กับพี่สะใภ้เท่าไหร่ดี ดังนั้นหลังจากนี้หากพี่สะใภ้ต้องการจะเก็บเงินค่าใช้จ่าย ให้นำป้ายประกาศิตนี้ไปที่ร้านรับฝากเงินก็พอ”

อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงสบตากัน สายตามีแววคาดไม่ถึง

คำพูดนี้ก็เท่ากับว่า เงินที่อยู่ในร้านรับฝากเงินพวกเขาสามารถเบิกได้ตามใจ

อวิ๋นหลิงสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง “......ท่านไม่กลัวว่าข้าจะถอนเงินออกมาจนหมดหรือ”

“แล้วอย่างไรเล่า เพราะชีวิตข้าเป็นสมบัติล้ำค่า แม้จะถูกถอนออกมาจนหมดก็คุ้มค่า” กงจื่อโยวเลิกคิ้วขึ้น หาวออกมาด้วยท่าทีเกียจคร้าน “เมื่อคืนนอนดึกเกินไป ข้าต้องไปนอนพักผ่อนแล้ว ท่านทั้งสองเชิญตามสบาย แต่ต้องเก็บป้ายประกาศิตไว้ให้ดี”

“ป้ายประกาศิตสีดำทุกชิ้น ล้วนมีเอกลักษณ์เป็นหนึ่งไม่มีสอง”

กงจื่อโยวมองพวกเขาอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวจากไปด้วยอาการโซเซ

ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าอวิ๋นหลิงจะได้สติกลับมา “นี่มันร่ำรวยชั่วข้ามคืนเลยนี่นา”

หม้อไฟมื้อนี้กินได้คุ้มค่ามาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ