พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 444

อวิ๋นหลิงหยิบป้ายประกาศิตสีดำมาสังเกตลวดลายและลักษณะพิเศษของมัน

บนป้ายสีดำอันประณีตประดับด้วยทองคำเปลวเม็ดเล็ก ๆ ตรงกลางมีการใช้ทองแกะสลักเป็นอักษร คำว่า ‘โยว’

บัดนี้นางรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ป้ายประกาศิตสีดำธรรมดา แต่เป็นแบล็คการ์ดที่เศรษฐีซีอีโอส่งมา...

เมื่อฟ้าประทานทรัพย์สินมาให้กะทันหัน ครั้งนี้เซียวปี้เฉิงกลับไม่ได้รู้สึกดีอกดีใจจนออกนอกหน้า แต่กลับย่นคิ้วเบา ๆ

“เมื่อครู่กงจื่อโยวบอกว่า ป้ายประกาศิตสีดำนี้เป็นเหมือนกุญแจในการเบิกเงินจากร้านรับฝากเงินธงเป่า คิดว่าคงไม่ธรรมดาแค่นี้กระมัง”

ต้องมีความหมายอื่นแอบแฝงเป็นแน่

เซียวปี้เฉิงนึกได้ว่าบรรพบุรุษของกู้ฉางเซินก็มีป้ายประกาศิตสีดำของสำนักทิงเสวี่ยหนึ่งอัน ฉะนั้นจึงมาสอบถามข้อมูลเหล่านั้นเป็นการส่วนตัว

“กงจื่อโยวมอบป้ายประกาศิตสีดำให้พวกท่านหรือ?” กู้ฉางเซินทำหน้าแปลกใจ จากนั้นก็แย้มยิ้ม “แต่น้องสามช่วยชีวิตเขาได้ เขาจะมอบป้ายประกาศิตสีดำให้ก็ไม่แปลก”

เขาอธิบายถึงจุดเด่นของป้ายประกาศิตสีดำ

“ป้ายประกาศิตสีดำเป็นป้ายคำสั่งที่พิเศษสุดในสำนักทิงเสวี่ย มีเพียงเจ้าสำนักเท่านั้นที่จะมอบให้คนนอกได้ ผู้ที่ครอบครองป้ายนี้ คนสำนักทิงเสวี่ยจะเห็นเป็นแขกพิเศษ สถานะสูงกว่าลูกศิษย์ป้ายประกาศิตสีแดงด้วย”

อวิ๋นหลิงไม่เพียงแต่สามารถใช้ป้ายคำสั่งนี้ไปเบิกเงินที่ร้านฝากเงินธงเป่าได้ ทั้งยังสามารถใช้บริการร้านค้าในเครือสำนักทิงเสวี่ยโดยไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่แดงเดียว

ได้ยินว่าอำนาจสำนักทิงเสวี่ยกว้างใหญ่ไพศาล มีส่วนร่วมกับการค้าทุกแขนง

นอกเหนือจากนี้ ป้ายนี้ยังสามารถออกคำสั่งกับลูกศิษย์ป้ายคำสั่งม่วงได้ด้วย

หากต้องติดต่อกับคนในยุทธภพ สำนักทิงเสวี่ยก็จะส่งลูกศิษย์ป้ายคำสั่งแดงไปต้อนรับ

อวิ๋นหลิงไม่นึกเลยว่าป้ายคำสั่งขนาดเล็กนี้จะมีอำนาจมากมายเพียงนี้ แล้วกงจื่อโยวยังมอบให้พวกนางที่เพิ่งจะรู้จักกันได้สองวันเองด้วย

นางรู้สึกว่าป้ายคำสั่งในมือหนักเป็นพันชั่ง “งั้นก็ต้องเก็บป้ายคำสั่งนี้ไว้ดี ๆ หากทำหายแล้วไปอยู่ในมือผู้อื่นจะแย่เอา”

กู้ฉางเซินยิ้มปลอบใจนาง “ไม่ต้องกังวลใจ มีผู้ครอบครองป้ายแบบนี้ไม่เยอะ สำนักทิงเสวี่ยก็จะมีรายชื่อจัดเก็บไว้ด้วย ยามที่พวกท่านใช้ป้ายประกาศิตสีดำนี้ พวกลูกศิษย์ในสำนักก็จะตรวจสอบชื่อและสถานะก่อนเสมอ”

กงจื่อโจวมอบป้ายประกาศิตสีดำให้พวกอวิ๋นหลิงแล้ว คาดว่าลูกศิษย์ในสำนักก็จะรู้ว่าพวกนางคือแขกพิเศษของสำนักทิงเสวี่ยในไม่ช้านี้

“แต่ป้ายประกาศิตสีดำก็มีอายุการใช้งานเหมือนกัน หากกงจื่อโยวเสียชีวิตในวันใดวันหนึ่ง หรือไม่ได้เป็นเจ้าสำนักแล้ว ป้ายประกาศิตสีดำที่เขามอบให้ก็ถือเป็นโมฆะ”

กู้ฉางเซินกับเจ้าสำนักสมัยแรกเป็นเพื่อนรู้ใจกัน มีป้ายประกาศิตสีดำคล้ายกับพวกนางด้วย ทว่าอักษรทองคำเป็น ‘เสวี่ย’

หลังทิงเสวี่ยเสียชีวิต ป้ายประกาศิตสีดำก็ไม่เกิดผลใด ๆ ฉะนั้นลูกหลานแห่งราชวงศ์เป่ยฉินจึงไม่มีปฏิสัมพันธ์กับสำนักทิงเสวี่ยอีก

อวิ๋นหลิงเข้าใจในบัดดล มิน่าล่ะป้ายคำสั่งนี้ถึงสลักคำว่า ‘โยว’

ดูเหมือนหากนางอยากใช้บัตรวีไอพีนี้ไปนาน ๆ ลำดับแรกนางต้องต่ออายุขัยของกงจื่อโยวก่อน

ทว่าไม่ว่าอย่างไร กงจื่อโยวก็แสดงความจริงใจออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว

เซียวปี้เฉิงทำหน้าเข้มขรึม แววตาและน้ำเสียงอัดแน่นไปด้วยความจริงจัง “เขามอบประกาศิตป้ายดำให้ข้ากับอวิ๋นหลิง แสดงว่าสำนักทิงเสวี่ยเลือกเป็นพันธมิตรกับแคว้นต้าโจวแล้ว”

กฎข้อหนึ่งของสำนักทิงเสวี่ยคือไม่ไปมาหาสู่กับราชสำนักของแคว้นต่าง ๆ ทว่ากงจื่อโยวแหกกฎของบรรพบุรุษแล้ว

ยามที่เขาถามเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว กงจื่อโยวกลับแย้มยิ้มอย่างไร้กังวล “บรรพบุรุษข้าตั้งกฎเช่นนี้จริง แต่สรรพสิ่งบนโลกย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ยิ่งกฎเป็นของที่มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ใช่ว่าจะขัดต่อคำสั่งสอนของบรรพบุรุษไม่ได้”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “ข้ากังวลว่าจะมีคนไม่พอใจที่เจ้าแหกกฎดึกดำบรรพ์ข้อนี้ แล้วจะส่งผลให้สำนักเกิดความวุ่นวาย”

กงจื่อโยวได้ยินประโยคนี้ รอยยิ้มขี้คร้านพลันเผยความจริงจังมากขึ้น “ขอบคุณญาติผู้พี่เป็นห่วง ข้าถือคำขาดในสำนักทิงเสวี่ย ไม่จำเป็นต้องกังวลสิ่งนี้ อีกอย่าง ต่อให้พวกเขาไม่พอใจก็ไม่กล้าโค่นล้มข้าหรอก หาไม่แล้วหากขาดข้าไป พวกเขาจะไปหาเจ้าสำนักที่หน้าตาดีและฉลาดหลักแหลมจากที่ใด?”

“เชื้อสายของสำนักทิงเสวี่ยสายหลักนอกจากข้าแล้วก็เหลือเพียงท่านน้าหว่านกับน้องอวี่เหอแล้ว”

คำว่าญาติผู้พี่ขัดหูเซียวปี้เฉิงมาโดยตลอด ทว่าครั้งนี้เขาพอจะฝืนยอมรับคำเรียกขานนี้ได้

อาการของกู้ฉางเซิน คนไข้หมายเลขหนึ่ง ถือว่าอยู่ในขั้นทั่วไปแล้ว เขามารักษาตัวในจวนจิ้งอ๋องสองเดือนเต็ม ๆ ยามนี้ยาพิษอันยุ่งเหยิงในกายเขาไม่อันตรายถึงชีวิตแล้ว และไม่ทำให้ยาพิษออกฤทธิ์ในเวลาใช้พลังภายในกับใช้วรยุทธ์

แม้นสุมนไพรในสวนเกษตรจะโดนทำลาย ทว่าก็ไม่ถือว่าร้ายแรงประการใด ยาสมุนไพรหายากทั้งสามชนิดจะเติบโตเต็มที่แล้วพร้อมใช้เป็นส่วนประกอบยาในอีกสองเดือน

อาการของหลิวฉิง คนไข้หมายเลขสองก็ถือว่าไม่น่าเป็นห่วงแล้ว ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดบริเวณศีรษะ ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ อวิ๋นหลิงทั้งฝังเข็มและแปะยาให้นางทุกวัน บาดแผลเก่าที่ข้อมือก็หายดีเป็นปลิดทิ้งแล้ว

กู้ฉางเซินคอยบริการดันรถเข็นให้นางทุกวัน กระดูกที่ขาของเขาก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แล้ว อีกครึ่งเดือนก็สามารถแกะแผ่นไม้ประกบทิ้งได้

งานหนักสุดในยามนี้คือ การกำจัดพิษเย็นบนกายของกงจื่อโยวและลี่ผิน

เมื่อมีสมุนไพรหายากที่อวิ๋นหลิงปลูกขึ้นมา หลิงซูก็สามารถหลอมโอสถระงับอาการพิษเย็นได้อย่างรวดเร็ว

ใบหน้าของลี่ผินมีสีเลือดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องสวมเสื้อกันหนาวหนา ๆ ถึงจะนอนหลับแล้ว

ส่วนกงจื่อโยวนั้นยังต้องสวมเสื้อตัวหนา ๆ อยู่ ทว่าพิษเย็นก็ไม่กำเริบยามมีน้ำค้างหนักกลางดึกอีกต่อไป ถือว่าสามารถรักษาชีวิตน้อย ๆ ไว้ได้แล้ว

ลี่ผินกับองค์ชายจะมาจวนจิ้งอ๋องทุก ๆ สองวัน

อวิ๋นหลิงตรวจสุขภาพทั่วกายขององค์ชายหกหลายครั้ง ลองตรวจสอบชีพจรอันลี้ลับของเขา เพื่อจะได้หาวิธีกำจัดพิษเย็นบนกายได้หมดจด

หลังพยายามมาหลายวัน นางก็พอจะหาแนวทางได้แล้ว

เช้าตรู่ของวันนี้ อวิ๋นหลิงเพิ่งจะกินเสี่ยวหลงเปากับโจ๊กพร้อมกับหลิวฉิงเสร็จ เฉียวเย่ก็เข้ามารายงานข่าวว่า

“ทูลพระชายา พระชายาเสียนอ๋อง...”

เฉียวเย่พูดมาได้ครึ่งทางก็รู้ตัว รีบเปลี่ยนคำพูดโดยด่วน

“พระชายา แม่นางเสิ่นมาขอเข้าพบพ่ะย่ะค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ