พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 468

“ทหารในราชวงศ์โจวไม่ค่อยระมัดระวังเสียเลย กลางวันแสกๆยังแอบอู้ได้”

หญิงสาวพึมพำเสียงเบา ๆ หลังจากเข้าเมืองนางก็เข้าไปในลับหายไปในมุมหนึ่ง แล้วหยิบหนังสติ๊กและประทัดเล็กที่สั่งทำพิเศษหลายลูกในกระเป๋าสะพายออกมา

นางหรี่ตาข้างหนึ่งและเล็งไปยังพื้นที่โล่งบริเวณเท้าของทหารที่หลับอยู่

หลังจากนับในใจครบสามวินาที ทันใดนั้นประตูเมืองก็มีเสียงประทัดดังเปรี้ยงปร้างขึ้นไม่ขาดสาย

ทันใดนั้นทหารยามที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้นมา ผู้คนที่สัญจรไปมาและทหารยามคนอื่นๆที่อยู่ไม่ไกลก็ตกใจกันยกใหญ่

“มีนักฆ่าแล้ว! รีบจับนักฆ่าเร็ว!”

“ทุกคนอย่าขยับ ใครมันกล้าลอบโจมตีข้า!”

สุนัขลาดตระเวนเมืองเห่าอย่างกระสับกระส่าย ทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงต่างส่งเสียงด้วยความหวาดกลัว ฉับพลันประตูเมืองที่เป็นระเบียบก็เกิดความโกลาหลขึ้นมา

“คิกคิกคิก……”

หญิงสาวเห็นเหตุการณ์นี้จึงรีบวิ่งหนีทันที

...

ภายใต้แสงอาทิตย์ยามอัสดงสีส้ม ถนนตะวันตกมีเสียงดังอึกทึกครึกโครม รถม้าวิ่งสวนกันไปมาขวักไขว่ ผู้คนทยอยกันมาไม่ขาดสาย

เสวียนจีมองซ้ายขวาไม่หยุด สังเกตถนนหนทางด้วยความอยากรู้อยากเห็น

นางแอบออกมาจากตงฉู่ อีกทั้งบนตัวก็ไม่มีใบเบิกทางจากทางการ จึงไม่อาจทำใบผ่านทางเข้าประตูเมืองหลวงได้ จึงทำได้แต่ลอบปีนประตูเมืองเข้ามา

แต่หลังจากเข้าเมืองหลวงต้าโจวมาได้อย่างราบรื่น เสวียนจีกลับไม่รีบเร่งที่จะตามหาที่อยู่ของจวนจิ้งอ๋อง แต่กลับเดินเล่นไปรอบๆอย่างสบายอกสบายใจ

“ต้าโจวช่างยากจนจริงๆ”

หากเปลี่ยนเป็นในตงฉู่ ที่นี่คงจัดว่าเป็นเมืองที่ล้าหลังเท่านั้น

เมื่อเดินไปหน้าร้านซาลาเปาที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เสวียนจีก็อดที่จะหยุดฝีเท้าไม่ได้ จากนั้นก็น้ำลายไหลยืดออกมา

นางมองดูร้านซาลาเปาด้วยความรู้สึกกลัดกลุ้ม

เงินย่อยถูกใช้ไปหมดเกลี้ยงตลอดทางที่มา ในกระเป๋าเหลือเพียงตั๋วเงินเท่านั้น แน่นอนว่าที่ตั๋วเงินที่มูลค่าน้อยที่สุดคือหนึ่งร้อยตำลึง ร้านซาลาเปาที่เล็กถึงเพียงนี้เกรงว่าคงไม่อาจทอนเงินได้

ต้องหาร้านรับฝากเงินเพื่อแลกเงินเสียก่อน

ขณะที่กำลังครุ่นคิด ก็พลันได้ยินเสียงอันอ่อนโยนดังขึ้นจากทางด้านข้าง

“น้องสาว เจ้าอยากกินซาลาเปาหรือ?”

เสวียนจีมองตามเสียงนั้น เห็นเพียงชายหนุ่มสวมชุดสีขาวพระจันทร์ยืนอยู่ตรงหน้า ด้วยท่วงท่าที่แลดูสง่างามและอ่อนโยน

เมื่อมองดูอีกฝ่ายยื่นซาลาเปาให้ นางก็กระพริบตาปริบๆอย่างไม่มีพิษภัยและไร้เดียงสา

“พี่ชาย เจ้าต้องการเลี้ยงซาลาเปาข้าหรือ?”

รุ่ยอ๋องยิ้มพลางพยักหน้า "เมื่อครู่ข้าไม่ทันระวังซื้อมากไปหน่อย แบ่งให้เจ้าแล้วกัน"

“สุดยอด พี่ชายเป็นคนดียิ่งนัก!”

เสวียนจีโห่ร้องด้วยความดีใจ หยิบซาลาเปามาอย่างมีความสุข นั่งลงริมถนนและเริ่มกินมัน

รุ่ยอ๋องมองดูดรุณีน้อยที่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งตรงหน้าเขา แววตามีประกายความเห็นอกเห็นใจแวบผ่าน

วันนี้เขาเพิ่งสะสางงานราชการเสร็จและเตรียมกลับจวน ก็สังเกตเห็นดรุณีน้อยผู้หนึ่งอยู่ริมถนน อีกฝ่ายดูเหมือนอายุยังไม่ถึงสิบห้าหรือสิบหกดีด้วยซ้ำ กลับต้องมาแต่งกายราวกับขอทาน

เสื้อผ้าสกปรก เสื้อตัวนอกมีรอยขีดข่วนและขาดรุ่งริ่งหลายที่ ผมเผ้ายุ่งเหยิงและรวบเป็นหางม้าธรรมดาสองข้าง ใบหน้าดำและสกปรกราวกับแมวลาย

ความหงุดหงิดที่ได้รับในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาพบทางออกทันที

แม้ว่ารุ่ยอ๋องจะยังไม่ได้หย่าขาดกับหรงฉานอย่างเป็นทางการ แต่คนในเมืองหลวงต่างก็ลอบกล่าวว่าเขาถูกสตรีหย่าร้าง และมักจะใช้มันพูดคุยล้อเลียนเขา

ใบหน้าของรุ่ยอ๋องซีดลงเล็กน้อย วาจานี้บังเอิญไปแทงใจดำเขาเข้า

เสียงของหลี่เมิ่งเอ๋อร์ดังมาก ผู้คนรอบข้างต่างก็มองมาอย่างสงสัย แต่นางก็ไม่คิดที่จะเก็บอาการแม้แต่น้อย อีกทั้งน้ำเสียงกลับดูถูกมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

“เรื่องหย่าร้างของพระชายารุ่ยอ๋องกับท่าน แท้จริงมีพระชายาจิ้งอ๋องอยู่เบื้องหลังใช่หรือไม่? ยังสามารถกลืนโทสะและยังไปมาหาสู่กับนางได้ แม้กระทั่งสละชีวิตเพื่อนาง ช่างไม่สมกับเป็นบุรุษจริงๆ ช่างชวนให้ข้าดูแคลนเสียจริง!”

ทันทีที่กล่าวจบ สาวใช้ข้างกายของและเหล่าคนรับใช้ของหลี่เมิ่งเอ๋อร์ต่างก็หัวเราะกันยกใหญ่

รุ่ยอ๋องยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ หน้าซีดลงเล็กน้อย

เมื่อเห็นท่าทีของเขา หลี่เมิ่งเอ๋อร์ก็รู้สึกโล่งใจอย่างยิ่ง และยังคิดที่จะเยาะเย้ยเขาต่อ แต่ทันใดนั้น ซาลาเปาเนื้อที่กินไปครึ่งหนึ่งก็บินเข้ามาจากด้านข้างและตกลงบนหน้านางอย่างจัง

"อา!"

เสวียนจียืนขึ้นและมองนางด้วยรอยยิ้ม "คิกคิก หน้าผากของเจ้าทั้งใหญ่ทั้งอัปลักษณ์! พูดจาก็ยังน่าเกลียด ปกติคงจะชอบกินข้าวในห้องสุขาเป็นแน่ ทำเอาข้าไม่อยากอาหารเลยทีเดียว"

พอหลี่เมิ่งเอ๋อร์ได้สติกลับมาก็มองไปยังเสวียนจีด้วยสีหน้าโกรธเคือง "ดี เจ้าขอทานตัวเหม็น เจ้ากล้าหยาบคายกับข้าเชียวหรือ!"

เสวียนจีหยิบห่อผ้าเล็กๆของตนขึ้นมาแล้วมองหน้านางด้วยรอยยิ้มขี้เล่น

“แบร่ แบร่ แบร่! เจ้าคนหัวเถิก!”

พอหลี่เมิ่งเอ๋อร์เห็นเช่นนี้ ร่างกายพลันสั่นสะท้าน เหมือนห่านขาวตัวโตที่โกรธจัด ขนบนหัวชูชันและนางก็ชี้ไปที่เสวียนจีด้วยความโกรธ

“จับนางไว้ ข้าจะให้นางได้เห็นดีกัน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ