พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 469

ผู้คนที่สัญจรไปมาพอรู้ว่าคุณหนูผู้ทรงอำนาจผู้นั้นคือบุตรสาวของตระกูลเสนาบดีขวาหลี่ ต่างพากันหลีกทางให้ เพราะกลัวว่าอันธพาลตัวน้อยจะนำหายนะมาสู่ตน

เรื่องราวที่พลิกผันอย่างกะทันหันทำให้รุ่ยอ๋องตกใจอย่างมาก ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้ห้ามก็เห็นเสวียนจีวิ่งหนีไปแล้ว

ก่อนจะจากไป นางก็ถือเอาแป้งที่เหลือครึ่งถุงเล็กๆที่เจ้าของร้านซาลาเปาวางไว้ข้างเขียงนำไปด้วย

“พี่ชายช่วยจ่ายแทนข้าที คราวหน้าพบกันข้าจะคืนให้ท่าน!”

"แม่นาง!"

รุ่ยอ๋องเรียกนางไว้อย่างไม่รู้ตัว แต่กลับเห็นร่างของเสวียนจีเคลื่อนไหวอย่างว่องไวท่ามกลางกลุ่มคนรับใช้ และในเวลาไม่กี่อึดใจก็วิ่งหนีไปไกลแล้ว

หลี่เมิ่งเอ๋อร์กระทืบเท้าด้วยความโกรธและเช็ดไส้ซาลาเปาออกจากใบหน้าอย่างขมขื่น

“หยุดนังตัวดีนั่นไว้!”

เป็นเพียงขอทานผู้หนึ่งยังกล้ามารังแกนาง รอจับตัวนังตัวดีได้เมื่อใด จะต้องให้อีกฝ่ายได้เสียใจภายหลังแน่

เสวียนจีสับขาสั้นๆวิ่งไปไกลกว่ายี่สิบลี้ พอไปถึงถนนที่ค่อนข้างว่างเปล่าก็ชะลอความเร็วลง และในไม่ช้าก็ถูกบ่าวรับใช้ของหลี่เมิ่งเอ๋อร์ไล่ตามทันและถูกล้อมไว้

ดวงตาของหลี่เมิ่งเอ๋อร์เต็มไปด้วยเพลิงโทสะ ขณะเดียวกันก็มองไปยังเสวียนจีด้วยรอยยิ้มเย็น

“วิ่งสิ! เหตุใดเจ้าไม่วิ่งต่อเล่า? หากตกมาอยู่ในมือข้า ข้าจะต้องเฉือนลิ้นเจ้าเป็นแน่!”

นางบิดข้อมือและก้าวไปข้างหน้าคิดจะตบหน้าอีกฝ่าย แต่ทันใดนั้นเสวียนจีก็ยกมือขึ้นแล้วโยนแป้งครึ่งถุงขึ้นไปบนท้องฟ้า

หลี่เมิ่งเอ๋อร์และคนอื่นๆรีบพากันก้มหน้าหลบ ไอค่อกแค่กและปัดป่ายมือไปมาอย่างไม่รู้ตัว

เพียงเวลาชั่วอึดใจ เสวียนจีก็ถอยออกไปไกลหลายลี้อย่างไร้สุ้มไร้เสียง

นางหรี่ตา พลางคำนวณระยะทางและภาพฉากที่อยู่ตรงหน้านาง พลางหยิบสิ่งของออกจากกระเป๋าสะพายหลังอย่างว่องไว

ในเวลาเพียงหนึ่งวินาที สมองก็คำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยและขอบเขตของการระเบิดโดยประมาณ

ประกายไฟเล็กๆ วาดเป็นเส้นโค้งที่สวยงามบนท้องฟ้า

“คิกคิกคิก……”

พอหลี่เมิ่งเอ๋อร์ได้ยินเสียงหัวเราะที่ร้ายกาจดังขึ้นแว่วๆ จากนั้นบนท้องฟ้าเหนือศีรษะก็มีเสียงดังลั่งสะเทือนฟ้าขึ้น

ปัง--!

ทันใดนั้นแป้งที่อยู่เหนือหัวก็ระเบิด ทำให้เกิดคลื่นความร้อนสีแดงและเทาขาว

หลี่เมิ่งเอ๋อร์ตกใจมากจนตัวสั่น ยังไม่ทันจะรู้ว่าเกิดอันใดขึ้น สาวใช้และพวกบ่าวรับใช้ที่อยู่ข้างๆก็ถูกแรงกระแทกจากระเบิดทำให้ล้มลง

บนหลังคาที่อยู่ในขอบเขตที่ระเบิด กระเบื้องหลายแผ่นสั่นสะเทือนจนตกลงกับพื้นและแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวทำให้ฝูงชนบนถนนต่างกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก ทุกหนทุกแห่งมีเสียงเห่าเสียงขันดังขึ้น และม้าที่อยู่ห่างไกลก็ส่งเสียงร้องเนื่องจากฝูงชนที่กำลังปั่นป่วน

“อา! เทพยดาโกรธแล้ว เทพยดาโกรธแล้ว!”

“อุแว้...ท่านแม่...ข้ากลัว”

“สวรรค์พิโรธ พิโรธแล้ว!”

“เมื่อครู่เกิดอันใดขึ้น? มีปีศาจมาก่อความวุ่นวายหรือ?”

ผู้คนต่างหวาดกลัวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่นานทั่วทั้งถนนตะวันตกก็ตกอยู่ในความโกลาหล

ในรถม้าที่ห่างไกล อวิ๋นหลิงกำลังพิงแขนของเซียวปี้เฉิงหลับไป จู่ๆก็ตกใจกับเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

“เกิดอันใดขึ้น บ้านผู้ใดเตาแก๊สระเบิดกัน??”

“เตาแก๊ส?” เซียวปี้เฉิงทวนซ้ำด้วยความสับสน จากนั้นจึงเปิดม่านรถเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ “ลู่ฉี เมื่อครู่เกิดอันใดขึ้น?”

ลู่ฉีปลอบม้าที่ตกใจกลัวแล้วเสร็จ ก็รีบเอ่ยตอบ “ไม่รู้เช่นกันขอรับท่านอ๋อง ดูเหมือนว่าเสียงจะดังมาจากถนนตะวันตก"

อวิ๋นหลิงขยี้ตา ขับไล่ความง่วงงุน "บนถนนตะวันตกมีคนใช้ปืนคาบศิลาหรือ? ไม่ใช่สิ เสียงนี้ก็ไม่คล้ายนี่..."

ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด แต่เสียงระเบิดที่คุ้นเคยนี้ทำให้นางอดนึกถึงใครบางคนไม่ได้

เซียวปี้เฉิงขมวดคิ้วและฟังเสียงผู้คนรอบข้างที่กำลังตื่นตระหนกพูดคุยกัน ก้มหน้าเอ่ยว่า "ลู่ฉี ควบม้าไปดูเสียหน่อย!"

...

ในที่เกิดเหตุหลี่เมิ่งเอ๋อร์ตกใจกลัวอย่างมาก จนกรีดร้องเสียงแหลมขึ้นมา

ไม่รู้ว่ามีประกายไฟตกลงมาจากท้องฟ้าได้อย่างไร ตกลงบนเสื้อผ้าของนางจากนั้นก็เริ่มไหม้ลามขึ้นมา

ทันทีที่หันกลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของอวิ๋นหลิงที่พุ่งเข้ามาใกล้อย่างมาก

“ข้ารู้ว่าจริงๆแล้วเป็นฝีมือเจ้า!”

นาทีที่จำเสวียนจีได้นั้น อวิ๋นหลิงก็ทนไม่ไหวด่าทอออกไปยกใหญ่ทันที

“ท่านป้าเหตุใดท่านมาอยู่นี่... เจ็บ เจ็บ เบาหน่อยเจ้าค่ะ... โอ๊ย!”

อวิ๋นหลิงมีสีหน้าอึมครึม ระงับความอยากที่จะทุบตีอีกฝ่ายอย่างรุนแรงบนท้องถนน และฉวยโอกาสรีบนำเสวียนจีเข้าไปในรถ

เมื่อรุ่ยอ๋องเดินตามเสียงระเบิดมาเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ เขาก็เหลือบไปเห็นฉากนี้เข้าพอดี

เมื่อเห็นขอทานตัวน้อยขึ้นรถม้าของจวนจิ้งอ๋อง เขาก็ตกใจอยู่แกมสงสัย

เซียวปี้เฉิงมองไปยังหลี่เมิ่งเอ๋อร์ที่ส่งเสียงร้องโหยหวน ทั้งยังก่อความวุ่นวายไปทั่วทั้งถนนตะวันตก จึงอดไม่ได้ที่จะลูบหน้าผากอย่างปวดหัว

“หลิงเอ๋อร์ เจ้าพานางกลับจวนไปก่อน ข้าจะอยู่ที่นี่ปลอบขวัญชาวบ้าน”

อวิ๋นหลิงพยักหน้า เกรงว่าผู้คนรอบตัวนางจะสังเกตเห็นเจ้าตัวปัญหาที่อยู่ข้างกายนางคนนี้ จึงรีบเร่งให้ลู่ฉีหันรถกลับจวน

ทหารยามที่ประตูเมืองก็รีบมาที่นี่หลังจากได้ยินเสียงระเบิด

“จิ้งอ๋อง! เมื่อครู่ทางด้านนี้…”

เซียวปี้เฉิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม "พวกเจ้ามาก็ดี รีบไปปลอบขวัญชาวบ้าน บอกพวกเขาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ใช่สวรรค์พิโรธหรือปีศาจที่มาปั่นป่วน แต่เป็นทหารค่ายปืนไฟที่ยิงปืนคาบศิลาออกไปอย่างไม่ทันระวัง”

ต่อมาเขาได้ส่งคนไปแจ้งข่าวที่จวนของเสนาบดีขวาหลี่

ในที่สุดหลี่เมิ่งเอ๋อร์ก็รอดพ้นการโจมตีของทหารกุ้งและนายพลปูได้ แต่ยามนี้กลับมีท่าทีที่น่าเวทนาเกินกว่าจะทนดูได้

ชุดที่สวยงามของนางถูกเผาจนเกิดรูหลายรู และผมที่แต่เดิมมีไม่มากนักก็ถูกไฟไหม้ ทั้งม้วนงอและส่งกลิ่นไหม้ออกมา

“ท่านพี่จิ้งอ๋อง…”

เมื่อพบเซียวปี้เฉิง จู่ๆหลี่เมิ่งเอ๋อร์ก็เก็บสายตาที่ดุร้าย ฉับพลันก็แสดงท่าทางเขินอายออกมา

นางยังไม่ทันจะหายใจเข้าด้วยซ้ำ จู่ๆก็เป็นลมหมดสติไปจากความอับอายและความโกรธ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ