สิ้นเสียงภายในห้องก็เงียบกริบชั่วพริบตา
กงจื่อโยวมองสาวน้อยแล้วถามหยั่งเชิง “คนนี้ก็คือศิษย์น้องของหลงเย่?”
เขารู้ว่าสำนักของหลงเย่มีลูกศิษย์สี่คน แต่ไม่ต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับศิษย์น้องมากนัก เคยได้ยินอวิ๋นหลิงบอกว่าอีกฝ่ายเป็นพระชายารองของรัชทยาทแห่งแคว้นตงฉู่
“ท่านรู้จักพี่ใหญ่ข้าหรือพี่ชายสุดหล่อ”
เสวียนจีกระพริบตาปริบ ๆ มองกลุ่มคนแปลกหน้าด้วยความแปลกใจ
อวิ๋นหลิงทำหน้าบึ้งเข้าแทรกนาง “พอแล้ว อย่ามัวแต่พูดไร้สาระอยู่เลย บอกมาดีๆ เจ้าแฝงตัวเข้าขบวนเดินทางของเยี่ยนอ๋องเพื่อลักลอบเข้ามา แต่เหตุใดเจ้าถึงมาถึงเมืองหลวงก่อนพวกเขา?”
ข่าวที่นางได้รับคือเยี่ยนอ๋องพร้อมภรรยาจะเดินทางมาถึงเมืองหลวงในสองวันข้างหน้า
“พวกเขาเดินทางช้า ข้ารอไม่ไหว แล้วถ้าเกิดว่าพวกเขาจับข้าได้ ข้าก็ไม่ได้ร่วมเดินทางกับพวกเขาสิ”
กู้ฉางเซินทำหน้าแปลกใจ ขมวดคิ้วอย่างไม่เห็นด้วย “ระยะทางยาวไกลเพียงนี้ แต่เจ้ากลับมาแคว้นต้าโจวคนเดียว? มันอันตรายเกินไป”
เขาไดยินหลิวฉิงเล่าว่าศิษย์น้องเล็กคนนี้มีอายุเพียงสิบหกปีทั้งโลกปัจจุบันและโลกแห่งนี้ ยังถือว่าเป็นเด็กใหญ่อยู่
เห็นนางร่างผอมบาง กว่าจะมาถึงจวนจิ้งอ๋องเสื้อผ้าหน้าผมก็ไม่ต่างจากยาจกเลย คงลำบากมาไม่น้อย
เสวียนจีมองพวกอวิ๋นหลิงด้วยท่าทางน่าสงสารแล้วเริ่มพูดให้คนอื่นเห็นใจขึ้นมา
“ใช่ ระหว่างทางไม่ระวังตกไปอยู่ในร้านสีเทาสามครั้ง เจอพ่อค้าขายทาสหกครั้ง แล้วยังโดนโจรภูเขาจับตัวไปที่แหล่งกบดานของพวกเขาด้วย ข้าเกือบโดนจับไปขุดถ่านหินแล้ว”
กงจื่อโยวมองนางด้วยความแปลกใจ “เส้นทางอันตรายเยี่ยงนี้ แต่เจ้ากลับมาถึงที่นี่อย่างปลอดภัย สวรรค์คุ้มครองเจ้าแล้ว แม้จะเจอเรื่องไม่ดีบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับอันตรายถึงชีวิต”
เจ้าตัวน้อยคนนี้ก็คงมีความสามารถพิเศษเหมือนพวกอวิ๋นหลิง หาไม่แล้วหากเป็นสตรีทั่วไป เกรงว่าคงสิ้นใจไปนานแล้ว
เสวียนจีพยักหน้าราวกับลูกไก่จิบข้าวสาร “ใช่แล้ว ข้าผ่านอุปสรรคมากมายกว่าจะมาถึงที่นี่ พวกท่านควรเห็นใจและสงสารข้าใช่ไหมเล่า? งั้นเรื่องตอนกลางวันก็เลิกแล้วต่อกันเถิดน่ะ?”
หลิวฉิงพูดอย่างไม่เกรงใจ “น้อย ๆ หน่อย เห็นใจเจ้าไม่สู้เห็นใจโจรภูเขาดีกว่า แต่วันนี้เจ้าสั่งสอนเจ้าสั่งสอนสตรีเลวที่คิดจะเป็นมือที่สามกับน้องหลิง ถือว่าเจ้าช่วยพวกเราแก้เผ็ดแล้ว ครั้งนี้ไม่อัดเจ้าหรอก”
“อะไรน่ะ? ยัยหัวโตคือมือที่สามงั้นหรือ?”
เช่นนั้นก็ผิดแผนแล้วสิ ถ้ารู้แต่แรก นางจะไม่ออมมือเด็ดขาด
เสวียนจีได้สติก็เอาแต่จ้องอวิ๋นหลิง “แล้วที่ข้าช่วยท่านสั่งสอนศัตรูหัวใจ เช่นนั้นก็ควรมีรางวัลใช่ไหม?”
“ถูกต้อง ควรมอบรางวัลให้เจ้าจริงๆ และรางวัลของเจ้าก็คือ นับแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจงอยู่ในจวนดีๆ หากไม่ได้รับอนุญาตก็ห้ามออกไปเพ่นพ่านเด็ดขาด”
เซียวปี้เฉิงพยักหน้า พูดเสียงเข้มขรึม “คนตระกูลหลี่ไปฟ้องร้องเจ้าที่ศาลต้าหลีแล้ว ตอนนี้ทั้งเจ้าหน้าที่และคนตระกูลหลี่ล้วนตามหาเจ้า ดังนั้นเจ้าอยู่ในจวนจิ้งอ๋องไก่อน อย่าไปก่อเรื่องอีกล่ะ?”
เสวียนจีได้ยินคำนี้ก็ก้มหน้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก นางแอบมองเซียวจิ้งเป่ยแล้วบ่นพึมพำว่า
“พี่เขยสามดุจังเลย”
เซียวปี้เฉิงทำเหมือนไม่ได้ยิน ตอนเขาเพิ่งกลับมาถึงอวิ๋นหลิงเคยกำชับเป็นพิเศษว่าห้ามได้เกรงใจเสวียนจีมากนัก
ถ้าไม่ขู่ขวัญจอมก่อกวนไว้แต่เนิ่น ๆ ต่อไปก็ไม่ได้ใช้ชีวิตสงบสุขแน่
จากนั้นเขาก็เอาเรื่องของวันนี้มาตักเตือนอีกครั้ง “วันนี้ข้าไปปลอบขวัญประชาชนแล้ว บอกพวกเขาว่าเสียงดังนั้นเกิดจากปืนคาบศิลาระเบิด วันหน้าห้ามเจ้าไปสร้างเรื่องป่วนบนถนนเหมือนวันนี้อีก เพราะจะทำให้ปวงชนหวาดวิตกได้”
อวิ๋นหลิวพยักหน้า ไล่ถามเสวียนจีอย่างไม่วางใจ “บอกมาดีๆ ระหว่างทางเจ้าก่อเรื่องอะไรไว้บ้าง?”
เสวียนจีสารภาพอย่างรู้กาลเทศะ “ข้าสาบานได้ว่าไม่เคยก่อกวนประชาชนตาดำๆ แค่ถือโอกาสช่วยราชสำนักกำจัดคนชั่ว เผาแหล่งกบดานของโจรภูเขาไปหลายที่ ช่วยคนไว้ไม่น้อยเชียวนะ”
ระหว่างทาง หากนางเจอโจรภูเขารุกรานชาวบ้านหรือข้าราชการใช้อำนาจรังแกประชาชน นางก็ถือโอกาสจัดการเสียเลย
“หากพระองค์สงสารรุ่ยอ๋อง ให้กระหม่อมไปปลอบใจที่จวนรุ่ยอ๋องหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
ให้พวกขุนนางในราชสำนักรู้ว่าจักรพรรดิจาวเหรินยังห่วงใยรุ่ยอ๋องอยู๋บ้าง พวกเขาจะได้ไม่เกินเลยมากนัก
จักรพรรดิจาวเหรินส่ายหน้า พูดเสียงขรึม “เจ้าใหญ่เพิ่งเปลี่ยนมาทางที่ดีขึ้น ยังต้องฝึกฝนอีกเยอะ ข้าไปแสดงจุดยืนตอนนี้มันเร็วเกินไป”
หลังจากรุ่ยอ๋องไม่เป็นที่โปรดปราน ผู้คนที่รายล้อมเขาก็หายหน้าไปหมด เจอกันอีกทีก็ทำหน้าเย็นชาใส่แล้ว
ช่วงนี้รุ่ยอ๋องลำบากไม่น้อย ทว่าความเย็นชาและความใส่ใจจะทำให้เขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะเรื่องการตีพิมพ์ด้วยแท่นเรียงพิมพ์ที่อวิ๋นหลิงมอบหมายให้เขา เขาเตรียมการได้ดีมาก
ต่อมาเซียวจิ้งเป่ยอยากสั่งสอนตระกูลหลี่บ้าง จึงเชิญรุ่ยอ๋องกับคนตระกูลหรงร่วมหารือวิธีรับมือ แม้จะรู้ว่าเจิ้นกั๋วกงไม่พอใจและเกรี้ยวกราดต่อรุ่ยอ๋องมาก แต่รุ่ยอ๋องก็ยังคงไปเยี่ยมเยียนจวนตระกูลหรง
“ถึงข้าจะสงสารเขา แต่ถ้าเขาอยากลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้ง เขาก็ต้องเก่งด้วยถึงจะได้”
รุ่ยอ๋องมีคุณงามความดีความชอบในเรื่องการตีพิมพ์ด้วย ช่วงนี้จึงเพิ่มคุณค่าให้ตัวเองได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่พอ
ฝูกงกงพยักหน้า จากนั้นก็ถามว่า “แล้วฝ่าบาทจะจัดการตระกูลหลี่เยี่ยงไรพ่ะย่ะค่ะ?”
จักรพรรดิจาวเหรินหรี่ตา พูดเสียงเย็นเยียบ “ข้าจะปล่อยให้ตระกูลหลี่เหลิงไปก่อน หากพวกเขายังไม่รู้จักหยุด มันก็เป็นเรื่องดี เพราะคนอย่างเจ้าสามไม่มีทางทนอยู่เฉยๆแน่”
ตอนนี้เขายิ่งปล่อยปละละเลยตระกูลหลี่ ภายภาคหน้าเจ้าสามกับภรรยาก็จะจัดการอีกฝ่ายได้ง่ายขึ้น
“เสนาบดีหลี่ก็เลอะเลือนไปแล้ว ไม่ดูหลานสาวที่เขาสั่งสอนจนเติบใหญ่เลย ยังมีหน้าอยากเป็นชายารองรัชทายาทอีก”
จักรพรรดิจาวเหรินไม่ชอบบุตรีของตระกูลหลี่สักคน
แต่เกิดเรื่องอย่างวันนี้ขึ้น ต่อไปหลี่เมิ่งเอ๋อร์ก็อย่าคิดจะเข้าตำหนักบูรพาได้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...