พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 537

อวิ๋นหลิงรู้สึกว่าดรุณผู้นี้น่าสนใจอยู่บ้าง นางพูดติดตลก “บางทีอาจเป็นแรงผลักดันจะหนีการแต่งงานกระมัง แต่จะว่าไป ความคิดเชิงตรรกะที่ดีกับผลการเรียนดีเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน อย่างห่านหัวโตไม่ใช่หนอนหนังสือหรือไง”

ตอนพบกันครั้งแรกที่สวนหลวง ทั้งสองฝ่ายได้สนทนาแลกเปลี่ยนกันสั้นๆ นางรู้สึกว่าผู้ที่ได้อันดับหนึ่งของสำนักศึกษาเป่ยลู่นั้นค่อนข้างไม่สมกับคำล่ำลือ

ยังห่างชั้นจากหนอนหนังสืออย่างรุ่ยอ๋องอยู่มาก อย่างน้อยความโง่เขลาของรุ่ยอ๋องก็เพียงแค่ไม่เอาไหนเรื่องการอยู่ร่วมกันบนโลก ส่วนความรอบรู้ในด้านเศรษฐศาสตร์ วรรณกรรม และประวัติศาสตร์ของเขายังคงลึกซึ้งยิ่งนัก

เซียวปี้เฉิงอดหัวเราะไม่ได้ “ห่านหัวโตนั้นทึ่มทื่อไม่รู้จักยืดหยุ่นเอาเสียเลย จุดนี้สอดคล้องกับนิสัยที่ดื้อรั้นของนาง เห็นทีต่อไปควรเปลี่ยนชื่อเป็นห่านหัวทึบ หลี่เมิ่งชูเป็นเด็กดีมีแวว แต่เสนาบดีขวาหลี่กลับใช้ห่านหัวทึบมาเดิมพัน แล้วใช้นางไปเป็นเครื่องมือในการรวบรวมกำลังฝักฝ่ายแทนเสียนี่ ถือว่าดูคนผิดจริงๆ”

ได้ยินเช่นนี้ อวิ๋นหลิงก็ยิ้มอย่างอิ่มเอมใจมากยิ่งขึ้น

“เขาแก่แล้วสายตาฝ้าฟาง สุดท้ายแล้วก็ทำให้เราได้เปรียบทีเดียว”

ก่อนหน้านี้นางเคยคิดจะเปิดประตูหลังใช้เส้นสายให้หลี่เมิ่งชู แต่ดูท่าดรุณีผู้นี้ไม่ต้องการเอาเสียเลย

ทว่าดรุณีผู้นี้กลับเป็นฝ่ายกระโดดเข้ามาเสียเอง ไม่ว่าอย่างไร นางก็จะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดลอยไป

แสงตะวันสาดกระจายเป็นเงาลายพร้อยบนทางเดิน อวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิงกำลังคุยกันเบาๆ ตรวจห้องสอบอื่นๆ อีกหลายห้องอย่างไม่รีบร้อน

“เกรงว่าจะมีคนไม่มากนักที่คิดแก้ซูโดกุเก้าช่องของเจ้าได้ อย่างไรเสียก็ต้องใช้เวลาหนึ่งก้านธูปกว่าจะคิดออก เวลาไม่พอเสียแล้ว”

เขาเพิ่งมองไปรอบๆ พบว่าศิษย์หลายคนยังคงติดปัญหาการคิดเชิงตรรกะที่อวิ๋นหลิงตั้งโจทย์เองอยู่หลายข้อ หากยังเป็นเช่นนี้ จะไม่มีเวลาแก้ซูโดกุเก้าช่อง

อวิ๋นหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงคาดหวังเล็กน้อย “นี่เป็นคำถามที่ตั้งขึ้นเป็นพิเศษเพื่อแยกแยะความสามารถ หากใครสามารถแก้ปัญหาได้ ต่อไปจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ”

ทั้งสองตั้งใจไปดูสถานการณ์ของเฟิงอู๋จี

เซียวปี้เฉิงตรวจสอบอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัวเมื่อไม่กี่วันก่อน ได้รู้จากปากอาจารย์ที่สอนหนังสือหลายคนว่าผลการเรียนของเขาที่สำนักศึกษาเป่ยลู่นั้นอยู่ในระดับปานกลางและไม่โดดเด่น

แต่ไม่ใช่ว่าเฟิงอู๋จีจะมีคุณสมบัติไม่ดี กลับกันความสามารถของเขาในด้านคณิตศาสตร์นั้นเหนือกว่าคนทั่วไปมาก เพียงแต่ชาติกำเนิดต่ำต้อย จึงมักถูกคนอื่นกลั่นแกล้งรังแก แม้แต่ลูกหลานตระกูลเฟิงเดียวกันยังขับไล่เขา

การไปสอบสายโดยไม่คาดคิด หรือทำกระดาษคำตอบหายโดยไม่มีสาเหตุหลังการสอบจึงเป็นเรื่องปกติ

นอกจากนี้ชื่อเสียงของเฟิงอู๋จียังไม่ค่อยดีนัก คนอื่นๆ บอกว่าเขาไม่เป็นโล้เป็นพาย ชอบศึกษาวิชานอกรีตและแปลกพิสดารอยู่เสมอ

แต่อวิ๋นหลิงกลับมองเฟิงอู๋จีในแง่ดี และค่อนข้างสนใจเขา

ตอนเดินเข้าไปในห้องด้านตะวันออก ก็เหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งถ้วยชาก่อนสอบเสร็จตอนเที่ยง

อวิ๋นหลิงมองผ่านหน้าต่างไม้ฉลุลายเข้าไปข้างใน คนส่วนใหญ่ในห้องยังคงขะมักเขม้นกับซูโดกุเก้าช่องที่เป็นข้อสุดท้าย บางคนหน้านิ่วคิ้วขมวด ขณะที่คนอื่นๆ เหงื่อออกแตกพลั่ก จับหูเกาแก้มอย่างร้อนใจ

เมื่อเห็นท่าทางของคนเหล่านี้ ในใจอวิ๋นหลิงก็รู้สึกถึงความสุขที่อธิบายไม่ถูก

ทันใดนั้นนางก็เข้าใจถึงความสุขของอาจารย์ที่ตั้งคำถามขึ้นมา

ในบรรดาคนที่กำลังคิดหนักอยู่นาน มีร่างสบายๆ สองคนที่สะดุดตา

อวิ๋นหลิงกระซิบ “ก่อนหน้านี้ตอนที่รุ่ยอ๋องทะเลาะกับผู้อื่น ข้าจำได้ว่าเป็นคนผู้นั้นที่มารายงานข่าว ดูเหมือนจะชื่อกู้ฮั่นม่อ?”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า “เดิมทีเขาเรียนที่สำนักศึกษาเป่ยลู่ แต่ลาออกไปแล้วเมื่อไม่กี่เดือนก่อน อาจเป็นเพราะจ่ายค่าเรียนไม่ไหว”

ในข้อมูลการสมัครมีประวัติการศึกษาเกี่ยวกับศิษย์คนนี้อยู่ เขาค่อนข้างประทับใจกับชื่อนี้ เวลานั้นก็เริ่มสนใจแล้ว พบว่าอีกฝ่ายเคยเป็นศิษย์ของสำนักศึกษาเป่ยลู่

คำถามก่อนหน้านี้เป็นแบบธรรมดาๆ จนกระทั่งคำถาม ‘หมู่บ้านดอกท้อกับหมู่บ้านดอกซิ่ง’ เริ่มต้นขึ้น รูปแบบของกระดาษทดสอบทั้งหมดก็แตกต่างไปจากคำถามก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ทำให้ผู้คนไม่ทันตั้งตัวจริงๆ

กู้ฮั่นม่อเก็บพู่กันและหมึกเรียบร้อย กระซิบถามยิ้มๆ ว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”

เฟิงอู๋จีดวงตาเจิดจรัส คลี่ยิ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจอความมั่นใจ “ตอบถูกทุกข้ออยู่แล้ว”

“สมแล้วที่เป็นเจ้า”

“เจ้าตอบว่าอย่างไรบ้าง”

กู้ฮั่นม่อยกมุมปากเล็กน้อย “เจ้าก็รู้ ข้าไม่สันทัดคณิตศาสตร์ ย่อมไม่เร็วไปกว่าเจ้า กว่าจะคำนวณได้ก็เหลือเวลาเพียงหนึ่งถ้วยชา คราวนี้นับว่าได้เรียนรู้วิธีการของพระชายารัชทายาทอย่างแท้จริง”

“ใช่เลย ความจริงนอกจากซูโดกุเก้าช่องข้อสุดท้ายแล้ว คำถามที่พระชายารัชทายาทถามนั้นไม่ยาก แค่ปรับตัวกับการสอบนิดหน่อย”

“แต่ก็เหนือความคาดหมายอยู่พอสมควรเลย ไม่รู้จริงๆ ว่าวันพรุ่งนี้กับวันมะรืนนี้คำถามจะเป็นอย่างไร”

สัญชาตญาณบอกพวกเขาว่า ‘ไม่ง่าย’ อย่างแน่นอน

ทั้งสองมองหน้ากันแวบหนึ่ง ความคาดหวังและความสนใจในดวงตาของอีกฝ่ายฉายชัดยิ่งขึ้น

การสมัครสอบของสำนักศึกษาชิงอี้เองก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม หลังการสอบเสร็จสิ้น เนื้อหาคำถามทดสอบของวันแรกก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากเนื้อหามีความแปลกใหม่และน่าสนใจ จึงกระตุ้นความสนใจของผู้คนทั่วทั้งเมืองหลวง

ไม่ว่าจะเป็นโรงน้ำชา โรงเตี๊ยม หรือราชสำนักตั้งแต่บนลงล่าง ทั้งพ่อค้า บ่าวรับใช้ หรือแม้กระทั่งขุนนางบุ๋นบู๊ ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ซูโดกุเก้าช่องด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซูโดกุจึงเป็นกระแสอยู่พักหนึ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ