พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 539

เสี่ยวเอ้อร์ข้างๆ ถือกาน้ำชาเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “คุณชาย ชาปี้หลัวชุนที่ท่านสั่งมาแล้วขอรับ”

“ไสหัวออกไป!” จางอวี้ซูแผดตะโกนอย่างหมดความอดทน ก่อนเตะเสี่ยวเอ้อร์ออกไป

เสี่ยวเอ้อร์ตกใจสะดุ้งโหยง ไม่รู้ว่าตนไปขัดใจหลานชายสายตรงของตระกูลอาลักษณ์กรมอาญาที่ไหน ทันใดนั้นใบหน้าก็ซีดลง ตัวสั่นงันงกเล็กน้อย

ในเมืองหลวงแห่งนี้ มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าล่วงเกินคุณชายตระกูลจางผู้นี้ เมื่อไปยั่วโทสะอีกฝ่ายเข้า ถูกตำหนิดุด่ายังถือว่าเบา หากทำไม่ดีละก็อาจหมดหนทางทำมาหากินด้วยซ้ำ

ในเมืองหลวงมีเด็กเกเรชื่อดังหลายคน ทั้งจางอวี้ซูและเฟิงเหยียนเป็นสองคนในนั้น

เริ่มแรกทั้งสองคนไม่ชอบขี้หน้ากัน ถ้าบังเอิญมาเจอกัน ชาวบ้านกับผู้สัญจรไปมาย่อมพลอยเดือดร้อนตามไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้

ต่อมาเฟิงเหยียนถูกงูพิษกัดจนเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง จางอวี้ซูอาศัยบารมีตระกูลโดยมีเสนาบดีขวาหลี่หนุนหลังคุ้มครอง จึงแสดงอำนาจบาตรใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ

เด็กรับใช้ที่ตามมาของจางอวี้ซูเห็นเข้าก็ไล่คนออกไปทันที “รีบไสหัวไปให้พ้น ไม่เห็นสายตาคุณชายเราหรือไง”

เสี่ยวเอ้อร์รีบลุกขึ้นแล้วถอยออกไป ยังไม่วายจะพยักหน้าโค้งคำนับเป็นการขอโทษ

“คุณชายโปรดระงับโทสะ คุณชายโปรดระงับโทสะ ยังเด็กอยู่เลยไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ!”

ครั้นเห็นว่าจางอวี้ซูไม่มีทีท่าจะปะทุโทสะ เขาก็โล่งใจ แต่ก็อดลอบก่นด่าในใจไม่ได้ว่า

ในเมื่อพระชายารัชทายาทสามารถกำจัดเฟิงเหยียนอันธพาลได้แล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะสำแดงอิทธิปาฏิหาริย์อีก ช่วยกำจัดภัยให้ปวงประชา จัดการจางอวี้ซูคนนี้ไปด้วย

จางอวี้ซูเอนกายพิงราวบันไดแล้วมองไปที่ไกล สายตาจับจ้องแผ่นหลังที่กำลังจะเลือนหายไปโดยไม่สนใจน้ำชาที่หกกระจายไปทั่วพื้น

เฟิงอู๋จีออกมาจากห้องสมุดเมืองหลวงได้อย่างไร สองสามวันนี้ที่นั่นจัดสอบอยู่ยังไม่เปิดให้เข้าชมชั่วคราวไม่ใช่หรือ

หรือว่า...

จางอวี้ซูคิดเช่นนี้ รู้สึกไม่แน่ใจเล็กน้อย เขาไม่กล้ายืนยันว่าเฟิงอู๋จีจะอาจหาญไปสมัครสอบที่สำนักศึกษาชิงอี้

กู้ฮั่นม่อที่อยู่ข้างๆ เป็นสหายสนิทของอีกฝ่าย บางทีอาจจะแค่ไปพบเพื่อนก็ได้

เด็กรับใช้ที่ติดตามเดินเข้ามาใกล้ ชำเลืองมองหลายทีอย่างนึกกังขา “คุณชาย เมื่อครู่ท่านกำลังดูอะไรอยู่”

จางอวี้ซูหรี่ตาลงและไม่ตอบ แค่เอ่ยถามว่า “การสอบคัดเลือกในห้องสมุดเริ่มไปเมื่อใด”

“ดูเหมือนจะเริ่มยามซื่อตอนสายๆ แล้วสิ้นสุดยามอู่ตอนเที่ยงๆ” เด็กรับใช้เกาหัวแกรกๆ ไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ๆ จึงถามเรื่องนี้

จางอวี้ซูหุบพัดลงทันใดแล้วพูดว่า “พรุ่งนี้เรียกข้าตื่นแต่เช้า แล้วเตรียมรถม้าธรรมดาไว้นอกจวนจาง”

เขาจะไปนั่งยองๆ เฝ้าที่หน้าประตูสำนักศึกษาดูว่าเจ้าคนไม่เจียมตัวนั่นไปสอบเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงอี้จริงหรือไม่

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็จะมีละครให้ชมอย่างแน่นอน!

เด็กรับใช้รีบเตือนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “แต่ว่าคุณชาย ฮูหยินบอกไว้เมื่อวานว่าพรุ่งนี้เช้าจะพาท่านไปเยี่ยมจวนเสนาบดีขวาไม่ใช่หรือ...”

ได้ยินเขาเอ่ยถึงเรื่องนี้ สีหน้าจางอวี้ซูพลันหม่นทะมึน

“จะไปทำไม ยัยเด็กหลี่เมิ่งชูนั่นไม่รู้จักดีชั่ว คุณชายเช่นข้าไยต้องไว้หน้านางด้วย”

ครั้งก่อนเขาได้รับข่าวจากมารดาว่าเสนาบดีขวาหลี่จะพาว่าที่คู่หมั้นของเขามาเยี่ยมจวน ให้เขาเตรียมตัวอย่างจริงจัง

แต่พอจะถึงเวลาสำคัญอีกฝ่ายกลับเบี้ยวนัดเขา ทำให้เขาโมโหมากจนไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวัน

เด็กรับใช้เอ่ยอย่างระมัดระวัง “แต่อย่างน้อยก็เป็นหญิงสาวที่ไม่เคยออกเรือน...”

หมู่นี้หลี่เมิ่งเอ๋อร์ชื่อเสียงไม่ดี จริงๆ แล้วเขาแอบดีใจ ได้ยินท่านปู่อาลักษณ์บอกว่าเดิมทีหลี่เมิ่งเอ๋อร์วางแผนจะเข้าตำหนักบูรพา แต่ต้องล้มเลิกไปเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นี่เป็นโอกาสทองสำหรับเขา แต่ใครจะคิดว่ามารดากลับเห็นด้วยที่จะให้เขาแต่งงานกับหลี่เมิ่งชู

คิดแล้วน่าผิดหวังจริงๆ หากวันหน้าเขาได้แต่งงานกับหลี่เมิ่งเอ๋อร์ก็คงจะดีไม่น้อย

จางอวี้ซูหลุดจากภวังค์ พูดอย่างฉุนเฉียว “ไปเถอะ ไม่ดงไม่ดื่มแล้วชา”

เด็กรับใช้รีบไปจ่ายค่าชาแล้วเดินตามจางอวี้ซูไป

ในห้องรับรองข้างๆ ชั้นสอง เฉียงเวยฟังทั้งสองสนทนากันพอรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วเจ็ดแปดส่วน จึงอดมองด้วยความรังเกียจไม่ได้

หลังจากเป็นอาจารย์คุมสอบทำงานเสร็จ นางก็แวะมานั่งโรงน้ำชา ไม่นึกว่าจะเจอเรื่องที่อัปมงคลเช่นนี้

ช่วงบ่ายกลับถึงตำหนักบูรพา เฉียงเวยจึงเล่าเรื่องที่ได้ยินให้อวิ๋นหลิงฟัง

“ที่แท้จางอวี้ซูไม่ได้จริงใจกับห่านหัวทึบนี่นา” อวิ๋นหลิงรู้สึกประหลาดใจก่อนครู่หนึ่ง แล้วถอนใจอย่างนึกเสียใจ “น่าเสียดาย เหตุใดเขาจึงไม่ได้สมหวังล่ะ ถ้าแต่งงานกับห่านหัวทึบได้ พวกเขาจะสมกันราวกับผีเน่ากับโรงผุ ถือเป็นการสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่!”

ตอนนี้อวิ๋นหลิงเข้าใจเรื่องราวของลูกหลานตระกูลขุนนางใหญ่ๆ อย่างผิวเผิน พักนี้กงจื่อโยวตั้งอกตั้งใจตกแต่งห้องจัดงานแต่งงาน แม้ว่าจะยุ่งรัดตัว แต่ก็ไม่ลืมให้บ่าวใต้อาณัติไปช่วยสืบภูมิหลังลูกหลานตระกูลขุนนางใหญ่ๆ ให้นาง

เฉียงเวยกล่าวอย่างดูแคลน “คนที่เห็นแก่ชื่อเสียงเงินทองและไม่จริงใจเช่นนี้ เทียบกับเจ้าสำนักข้าไม่ได้เลยสักกระผีกริ้น ควรให้เขาแต่งงานกับห่านหัวเถิก แล้วดวงกุดตายไปตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่นนี่แหละ!”

กงจื่อโยวเป็นคนที่เทิดทูนความรักความยุติธรรมและบริสุทธิ์จริงใจ แต่ต้องทนทุกข์ทรมานจากพิษเย็นมานานกว่ายี่สิบปี

จางอวี้ซูเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม วางมาดเสียโหญ่โต กลับเสพสุขสำราญ ทำทุกอย่างตามอำเภอใจ

หากใคร่ครวญให้ดี สวรรค์ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ