พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 540

อวิ๋นหลิงมองเฉียงเวยอย่างตลก ๆ “เอาล่ะหายโกรธได้แล้ว ภายหลังสู้เจ้าเอาจางอวี้ซูเขียนในหนังสือร่างสุนทรพจน์ใหม่ ข่มเหงเขาอย่างรุนแรงเป็นร้อยแปดสิบครั้ง”

เฉียงเวยพยักหน้าอย่างแรง เกิดความสนใจขึ้นมาทันที “นี่เป็นวิธีที่ระบายความโกรธได้ดี ข้าจะรีบกลับไปเขียนโครงร่างประเดี๋ยวนี้!”

“ออกวังไปเร่งรีบขนาดนี้ ไม่ไปพบผู้ชายของเจ้าหน่อยหรือ?”

อวิ๋นหลิงพูดอย่างมีเลศนัย ดวงตาเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม

ในระเบียงทางเดินด้านนอกพระราชวัง เยี่ยเจ๋อเฟิงกำลังพาทหารคุ้มกันสองคนมาตระเวนตรวจตราที่ตำหนักบูรพาพอดี ถ้าหากว่านับไม่ผิด ระเบียงทางเดินนี้เขาเดินไปมาเจ็ดแปดรอบแล้ว สายตายังลอยมาทางนี้อยู่ตลอดเวลา

“นับตั้งแต่ที่พวกเราย้ายเข้ามาอยู่ในตำหนักบูรพา น้อยมากที่จะเห็นเจ้ามา”

เมื่อก่อนที่ยังอยู่ที่จวนจิ้งอ๋อง หน้าของเยี่ยเจ๋อเฟิงเมื่อเห็นเฉียงเวยก็จะหน้าแดงหูแดง พอเห็นนางปุ๊บก็จะหันหลังวิ่งหนีไป แทบที่จะหลบตัวเองในหลุมจนรอไม่ไหว

บัดนี้เฉียงเวยมาน้อยครั้งแล้ว อวิ๋นหลิงกลับเห็นเขามักที่จะเหม่อลอยบ่อยครั้ง มองท้องฟ้าเป็นครั้งคราวไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

มีเพียงตอนที่เฉียงเวยเข้าวังเท่านั้น เขาถึงเปลี่ยนท่าทีเศร้าโศกและโดดเดี่ยวนั้น กลายเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที

“ตายแล้ว!ช่วงนี้ข้ายุ่งมากไม่ใช่หรือ เจ้าสำนักน้อยกำลังยุ่งที่จะแต่งงานกับพระชายา ยุ่งจนทำให้ทั้งนายและบ่าวของสำนักทิงเสวี่ยไม่มีเวลาว่างเลย”

เฉียงเวยเก็บสีหน้าไม่พอใจ รอยยิ้มที่ฉูดฉาดชั่วขณะนั้นน่าประทับใจมาก

“ข้าเองอาศัยจังหวะนี้ ทำให้องครักษ์เยี่ยสงบนิ่งเสียหน่อย พระชายารัชทายาทบอกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าเมื่อก่อนเขาตื๊อมาก ต่อไปต้องให้เขาสงบนิ่งมากหน่อย แบบนี้ถึงจะทำให้เขาตัดใจจากข้าได้”

ตอนนี้ดูเหมือนว่าวิธีของอวิ๋นหลิงจะได้ผลเป็นอย่างมาก เยี่ยเจ๋อเฟิงลูกแกะแสนอร่อยนั่นกำลังจะตกอยู่ในกับดักของนางในไม่ช้า

เมื่อส่งเฉียงเวยจากไปได้ไม่นาน ในที่สุดเยี่ยเจ๋อเฟิงก็ทนไม่ไหวแล้ว

เขาทำความเคารพต่ออวิ๋นหลิงที่หน้าตำหนักกลาง จากนั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ไม่รู้ว่าเหตุใดเฉียงเวยเข้ามาในวังกระทันหัน ได้ยินว่าเมื่อก่อนพระชายารัชทายาทได้วางแผนให้นางมาช่วยคุมสอบ แต่ว่าห้องสมุดทางนั้นมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือ?”

อวิ๋นหลิงยิ้มตาหยีมองไปที่เยี่ยเจ๋อเฟิง และไม่สะกิดใจเขา

“ไม่มีอะไร วันนี้ข้าไม่ได้ไปคุมสอบ เฉียงเวยเพียงแค่มารายงานเรื่องตรงนั้นให้ข้าทราบเท่านั้นเอง”

เยี่ยเจ๋อเฟิงพยักหน้า สีหน้าสงบนิ่ง “ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง”

ในสายตาของเขาวาดเผยความเศร้าโศกเล็กน้อย หรือว่าการเข้าวังมาครั้งนี้ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีเจตนาที่จะมาเยี่ยมเขาเลย

เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่เขาอยู่ไม่ไกล แต่อีกฝ่ายกลับออกจากวังโดยไม่หันหัวกลับมามองเลย

ความกระตือรือร้นในอดีตและความเย็นชาในปัจจุบันมีความแตกต่างอย่างมาก ในใจของเยี่ยเจ๋อเฟิงอดไม่ได้ที่จะหดหู่และหงุดหงิดเล็กน้อย หรือว่าความรักของนางที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้ ทั้งหมดเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบเพื่อหาความสนุกสนานเท่านั้นหรือ?

เมื่อมองท่าทางของเยี่ยเจ๋อเฟิงที่ติดอยู่ในความรู้สึกนี้ ในใจของอวิ๋นหลิงก็อดที่จะแอบหัวเราะไม่ได้ จากนั้นกระแอมอยู่สองครั้ง พร้อมกับเอาสมุดพับส่งไปให้เขา

“ตายแล้ว!เฉียงเวยไม่ทันระวังเอาลืมบัญชีรายชื่อบุปผาตกไว้ที่นี่ นี่เป็นสิ่งของที่จะใช้คุมสอบในวันพรุ่ง ลำบากเจ๋อเฟิงเอาไปส่งให้นางหน่อยก็แล้วกัน”

“กระหม่อมรับคำสั่ง” เยี่ยเจ๋อเฟิงรับสมุดพับไป ขมวดคิ้วด้วยความเย็นชา “ช่างเป็นผู้หญิงที่ชอบทำให้กังวลอยู่เรื่อย เรื่องที่สำคัญเช่นนี้ยังสะเพร่าได้ขนาดนี้!”

พอพูดจบ เขาก็หันหลังจากไป ความเร็วในการเดินมากกว่าสามเท่าของปกติ

ตอนที่เซียวปี้เฉิงกลับมา ก็เห็นอวิ๋นหลิงกำลังกัดเค้กกุ้ยฮัวอันหอมกรุ่น พร้อมกับมองหลังเยี่ยเจ๋อเฟิงแอบหัวเราะเหมือนคนโง่

“เรื่องอะไรถึงได้มีความสุขขนาดนี้?”

อวิ๋นหลิงกลืนขนมลงไป จากนั้นก็บ่นเรื่องเมื่อครู่อย่างสบาย ๆ

เฟิงอู๋จีทางนี้ ถ้าหากว่าเขาสอบเข้าสำนักศึกษาชิงอี้ได้ ก็สามารถออกจากตระกูลเฟิงอย่างถูกต้องและสมเหตุสมผล ละทิ้งความคับข้องใจส่วนตัว ฮูหยินเฟิงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะขัดขวางเรื่องนี้

แต่ว่าหลี่เมิ่งชูไม่เหมือนกัน โซ่ตรวนทางโลกผูกติดกับนาง แต่ละเส้นเป็นโซ่ตรวนที่สามารถทําลายครึ่งชีวิตของนางได้

อวิ๋นหลิงกลับไม่กลัวความแค้นของตระกูลหลี่และจาง หากแต่กังวลว่าแม่นางผู้นี้จะทนแรงกดดันได้หรือไม่

เซียวปี้เฉิงได้ยินถึงตรงนี้ ก็พยักหน้าด้วยสีหน้าเข้มงวดขึ้นมาด้วย “แค่หวังว่านางจะไม่หัวร้อนสมองจึงตัดสินใจชั่วคราวแบบนั้นเถิด”

ข้อสอบคณิตศาสตร์ครั้งนี้มีนักเรียนทั้งหมดแปดคนที่ได้คะแนนเต็ม นอกจากเฟิงอู๋จีและกู้ฮั่นม่อแล้ว ยังมีลูกหลานอีกหลายคนในครอบครัวอื่น ๆ อีกทั้งหลี่เมิ่งชูเองก็อยู่ในนั้นด้วย และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว

เขามีความรักเช่นเดียวกับอวิ๋นหลิง หวังไม่มากก็น้อยว่าจะให้อีกฝ่ายเข้ามาในสำนักศึกษาชิงอี้อย่างราบรื่น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าดูแล้วจะยากไม่ใช่น้อย

อวิ๋นหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “หลังจากรอให้สอบเสร็จ พวกเราค่อยหาโอกาสติดต่อแม่นางคนนั้นเป็นการส่วนตัว”

ถ้าหากว่าหลี่เมิ่งชูอยากหลุดพ้นจากการควบคุมของตระกูลหลี่จริง ๆ นางยินดีที่จะช่วยเหลืออีกฝ่ายอย่างสุดความสามารถ อย่างไรเสียแม่นางที่ยอดเยี่ยมมากขนาดนี้ น่าเสียดายมากที่ให้นางต้องไปแต่งงานกับสุนัขจางอวี้ซูนั่น

มาถึงวันสุดท้ายของการสอบอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเช้า ห้องสมุดเมืองหลวงยังคงมีผู้คนสัญจรไปมา

ใต้ทางเดินยาวของสำนักหลัก ผู้ดูแลแจกจ่ายอาหารเช้าฟรีให้กับนักเรียนตามปกติ

รถม้าคันหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่สะดุดตาหยุดอย่างเงียบ ๆ ที่ประตู จางอวี้ซูยกมุมของม่านและมองประตูอย่างเงียบ ๆ

ไม่นาน เขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคยนั้นเดินเข้าไปอีกครั้งและดวงตาทั้งสองข้างก็หรี่ลงอย่างอันตราย

“เมื่อวานถ้าข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ หึหึหึ...เฟิงอู๋จีหนาเฟิงอู๋จี คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเจ้าจะเหิมเกริมมากขนาดนี้!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ